Abuela Alma Madrigal เล่าเรื่องของเทียนวิเศษให้กับ Mirabel หลานสาวของเธอฟัง คืนที่เธอต้องหนีออกจากบ้านของเธอพร้อมกับลูกแฝดสามและสูญเสีย Pedro สามีสุดที่รักไป ท่ามกลางความมืดมิดสิ้นหวัง เธอก็ได้รับปาฏิหาริย์ที่เปลี่ยนเทียนของเธอให้เป็นเทียนวิเศษที่ไม่มีวันดับ พลังของเทียนวิเศษสร้างภูเขาสูงโอบล้อมปกป้องไม่ให้คนภายนอกเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ และยังเนรมิตบ้านที่มีชีวิตให้เธออีกด้วย

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สมาชิกครอบครัวที่สืบเชื้อสายของเธอก็ได้รับพลังวิเศษเมื่อถึงวัยอันสมควร ลูกทั้งสามของเธอก็ได้รับพลังที่แตกต่างกัน Pepa สามารถบังคับภูมิอากาศได้ตามอารมณ์, Julieta สามารถปรุงอาหารที่รักษาอาการเจ็บป่วยได้ และ Bruno ว่ากันว่ามีพลังพิเศษที่สามารถมองเห็นอนาคตได้ แต่เขาหายตัวไปจากบ้านหลายปีแล้ว

Pepa แต่งงานกับ Félix พวกเขามีลูกสาวคือ Dolores ผู้มีหูทิพย์ที่สามารถได้ยินทุกสิ่งแม้จะอยู่ไกลแค่ไหนก็ตาม และลูกชายอีก 2 คน คือ Camilo ที่สามารถแปลงร่างเป็นใครก็ได้ ส่วน Antonio สามารถพูดคุยกับสัตว์ทุกชนิด — Julieta แต่งงานกับ Agustín พวกเขามีลูกสาว 3 คน คือ Luisa มีพละกำลังมหาศาลเหนือมนุษย์, Isabela สามารถเนรมิตดอกไม้ตามที่เธอต้องการ และ Mirabel ลูกสาวคนสุดท้อง ตัวเอกของเรื่องซึ่งเป็นคนเดียวในตระกูลที่ไม่มีพลังพิเศษ

คืนวันหนึ่ง Mirabel เห็นภาพนิมิตของบ้านที่แตกร้าวและแสงของเทียนวิเศษที่กำลังริบหรี่ลง เธอเชื่อว่าพลังเวทมนตร์อ่อนแรงลงจึงพยายามค้นหาต้นเหตุ จนได้รู้ความจริงที่เกี่ยวข้องกับ Bruno ลุงของเธอที่หายตัวไป หลังจากเขามองเห็นภาพอนาคตอันเลวร้าย

Mirabel แอบเข้าไปในห้องของ Bruno เพื่อหาเบาะแสของภาพนิมิตที่เธอเห็น ซึ่งอาจจะสามารถช่วยแก้ไขความวิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่สิ่งที่ Bruno ทิ้งไว้ในห้องที่เต็มไปด้วยทราย มีเพียงเศษกระจกที่มีภาพของเธอปรากฏอยู่ในนั้น

ENCANTO เป็นภาพยนตร์มิวสิคัลแอนิเมชันที่เพลงยังไม่ค่อยติดหูเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับเรื่องก่อนๆ ของ Disney ที่อย่างน้อยก็มักจะมีเพลงที่ฟังครั้งแรกแล้วรู้สึกว่าติดหูประมาณ 2-3 เพลง แต่ในเรื่องนี้มีแค่เพลงเดียวคือ We Don’t Talk About Bruno ซึ่งทำออกมาได้โดดเด่นสุด ทั้งการใช้เทคนิคมิกซ์เสียงที่เคลื่อนไปตามตำแหน่งของตัวละครที่กำลังร้องเพลงอยู่ เทคนิคการแพนกล้องที่ลื่นไหลในฉากที่เหมือนกับละครเวที ตัวละครมีเสียงร้องที่เข้ากับคาแรกเตอร์

ชอบบรรยากาศที่หยิบมาจากละครบรอดเวย์ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะภาพยนตร์เรื่องนี้มี Lin Manuel Miranda จาก In The Heights และ HAMILTON เป็นคนร่วมเขียนทั้งบทและเพลงประกอบของเรื่องนี้ ที่ทำออกมาได้สวยงามทั้งการออกแบบท่าเต้นและฉาก ราวกับเตรียมการไว้ทำเป็นละครเวทีมิวสิคัลหรือบรอดเวย์ในอนาคต

ส่วนตัวไม่ค่อยชอบการเล่าเรื่องแบบแฟลชแบ็คเท่าไหร่ และเรื่องนี้ยังใช้การเล่าเรื่องในอดีตที่จงใจบิดเบือนปกปิดข้อมูลบางส่วน เพื่อจุดประสงค์ที่จะใช้มันสร้างความสะเทือนอารมณ์ในช่วงท้ายของเรื่องอีกครั้ง ทั้งที่คนเล่าก็เป็นคนเดียวกัน

มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะเล่าที่มาที่ไปของแต่ละตัวละคร ซึ่งมีค่อนข้างเยอะเกินที่กว่าจะยัดใส่เข้ามาในภาพยนตร์ความยาว 90 นาที เราจึงอดคิดไม่ได้ว่าทำไมบางคนมีเพลงของตัวเอง อาทิ Surface Pressure ของ Luisa ที่ยาวถึงสามนาทีกว่า มีภาพประกอบอลังการสวยงามราวกับเทพเจ้า แต่มีเนื้อหาที่สำคัญอยู่นิดเดียว ขณะที่ตัวละครที่ดูมีความสำคัญกว่าอย่าง Dolores กลับไม่มีเพลงของตัวเอง

นี่ยังไม่ได้พูดถึงลำดับการเสื่อมถอยของพลังพิเศษ
หรือพลังเวทมนตร์ที่สลายไปแล้วนั้นฟื้นกลับคืนมาได้ยังไง

ENCANTO ฉายรอบปฐมทัศน์ที่ El Capitan Theatre ในลอสแอนเจลิส วันที่ 3 พฤศจิกายน 2021 และเปิดฉายในสหรัฐอเมริกาวันที่ 24 พฤศจิกายน แต่สามารถทำรายได้เพียง 234 ล้านเหรียญสหรัฐ (จากทุนสร้างกว่า 150 ล้านเหรียญ) ซึ่งก็เรียกได้ว่าเป็นภาพยนต์แอนิเมชันของดิสนีย์ที่ไม่ประสบความสำเร็จ แม้จะได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์รวมถึงผู้ชมมากมาย (VENOM ภาค 2 ยังทำรายได้มากกว่า 500 ล้านเหรียญ) ส่วนในประเทศไทย ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายวันที่ 25 พฤศจิกายน 2021 โดยใช้ชื่อภาษาไทยว่า “เมืองเวทมนตร์ คนมหัศจรรย์”

ที่น่าสนใจคือ ความนิยมกลับเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อดิสนีย์ปล่อยสตรีมมิงสำหรับสมาชิก Disney+ ในวันที่ 24 ธันวาคม 2021 (สำหรับในประเทศไทย ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้สามารถชมได้ทาง Disney+ Hotstar) โดยเฉพาะเพลงประกอบภาพยนตร์ที่กลายไวรัลบนโซเชียลมีเดีย

เพลง We Don’t Talk About Bruno มียอดวิวบน YouTube มากกว่า 189 ล้านวิว และมียอดสตรีมมิงมากกว่า 120 ล้านครั้งบน Spotify ยิ่งไปกว่านั้นเพลงนี้ยังไต่ขึ้นอันดับหนึ่งบนบิลบอร์ด Hot 100 ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2022 ทำให้มันกลายเป็นเพลงที่สองในประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์แอนิเมชันของดิสนีย์ ที่สามารถขึ้นแท่นอันดับหนึ่งของ Billboard Hot 100 ได้หลังจาก A Whole New World (เวอร์ชัน Peabo Bryson & Regina Belle) เคยทำได้ครั้งแรกในเดือนมีนาคมปี 1993

Disney น่าจะเป็นบริษัทเดียวบนโลกนี้ที่สามารถปล่อยอัลบัมเพลงประกอบภาพยนตร์มากกว่า 20 ภาษา อันที่ชอบมากคือเวอร์ชันภาษาสเปน “No se habla de Bruno”, เวอร์ชันภาษาฝรั่งเศส “Ne parlons pas de Bruno”, เวอร์ชันภาษาโปรตุเกส Não Falamos do Bruno และเวอร์ชันภาษาโปแลนด์ “Nie mówimy o Brunie” ที่รู้สึกว่าเลือกคนที่มาพากย์เสียง Camilo ได้ดีมาก