Latest

THE QUEEN’S GAMBIT

2000 2000 PRADT
4-MINUTE READ

มินิซีรีย์ดัดแปลงจากหนังสือนิยาย เล่าเรื่องของเด็กกำพร้าอัจฉริยะด้านหมากรุก และการฝ่าฟันอุปสรรคชีวิต ระหว่างเส้นทางทางสู่การเป็นนักเล่นหมากรุกชั้นสูง

THE QUEEN’S GAMBIT

Scott FrankAllan Scott
(2020)

★★★☆☆
 

The Queen's Gambit

มินิซีรีย์ความยาว 7 ตอน ดัดแปลงจากหนังสือนิยายชื่อเดียวกัน ผลงานของ Walter Tevis นักเขียนชาวอเมริกัน ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1983

Walter Travis เขียนหนังสือทั้งหมด 6 เล่ม คือ The Hustler (1959), The Man Who Fell to Earth (1963), Mockingbird (1980), The Steps of the Sun (1983), The Queen’s Gambit (1983) และ The Color of Money (1984) หนังสือของเขาถูกแปลเป็นภาษาต่างๆ กว่า 18 ภาษา

หนังสือของเขาถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์มาแล้ว 3 เรื่องคือ The Hustler (กำกับโดย Robert Rossen ในปี 1961 นำแสดงโดย Paul Newman, Jackie Gleason, Piper Laurie และ George C. Scott), The Color of Money (กำกับโดย Martin Scorsese ในปี 1986 นำแสดงโดย Paul Newman และ Tom Cruise) และ The Man Who Fell to Earth (กำกับโดย Nicolas Roeg ในปี 1976 นำแสดงโดย David Bowie, Candy Clark, Buck Henry และ Rip Torn)

หนังสือ The Queen’s Gambit เล่มนี้เคยเกือบจะได้สร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งแรกในปี 1983 เมื่อ Jesse Kornbluth ได้ลิขสิทธิ์ในการใช้เป็นบทภาพยนตร์ ซึ่งในเวลานั้นมีผู้กำกับและนักแสดงที่เขารู้จักจำนวนมากสนใจที่จะร่วมงานกับเขา

เป็นที่น่าเสียดายที่ก่อนจะได้สร้างเป็นภาพยนตร์ Walter Tevis ก็เสียชีวิตลงในปี 1984 และลิขสิทธิ์การสร้างภาพยนตร์ก็ถูกขายไปยังสตูดิโออื่น โปรเจ็คทั้งหมดจึงถูกพับเก็บไปเนื่องจากปัญหาด้านการเงิน

ปี 1992 ผู้กำกับชาวสกอตแลนด์ Allan Shiach ได้ซื้อลิขสิทธิ์เพื่อดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์ ซึ่งมีชื่อผู้กำกับอย่าง Michael Apted และ Bernardo Bertolucci สนใจที่จะร่วมงานด้วย แต่ท้ายที่สุดโปรเจ็คก็ล้มไปอีกครั้ง จนกระทั่งปี 2007 ผู้กำกับ Allan ได้ร่วมงานกับ Heath Ledger โดยหวังว่า Heath Ledger จะนั่งแท่นผู้กำกับเป็นครั้งแรก และร่วมแสดงกับ Ellen Page ที่จะมาแสดงเป็นตัวเอกของเรื่อง ตั้งเป้าหมายว่าจะเริ่มการถ่ายทำในปี 2008 แต่ก็ไม่ได้ไปต่อ เนื่องจาก Heath Ledger เสียชีวิต

ท้ายที่สุด Netflix ได้ลิขสิทธิ์มาและหนังสือเล่มนี้ก็ถูกสร้างเป็นมินิซีรีย์ความยาว 7 ตอน

The Queen's Gambit

Elizabeth “Beth” Harmon (Isla Johnston) ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า เมื่อ Alice (Chloe Pirrie) แม่ของเธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เธอถูกส่งตัวไปที่ Methuen Home สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ที่แจกยา tranquilizer ให้กับเด็กเพื่อให้เด็กสงบและไม่ก่อเรื่อง

The Queen's Gambit

วันหนึ่งขณะที่ Beth ลงไปชั้นใต้ดินเพื่อเคาแปรงลบกระดาน เธอก็ได้พบกับ Mr. Shaibel (Bill Camp) ภารโรงกำลังเล่นหมากรุก ทำให้เธอเกิดความสนใจอย่างมากจนขอให้ Mr. Shaibel สอนวิธีเล่นให้เธอ ซึ่งในตอนแรกเขาก็ไม่ยอมสอนให้ โดยบอกว่าหมากรุกไม่ใช่เกมสำหรับเด็กผู้หญิง แต่ Beth ก็ไม่ลดละ เธอแอบเฝ้ามองการเล่นของเขาจนเข้าใจวิธีการเดินหมากด้วยตัวของเธอเอง ท้ายที่สุด Mr. Shaibel ก็ใจอ่อน ยอมสอนวิธีเล่นหมากรุกให้เธอ

The Queen's Gambit

ฝีมือการเล่นหมากรุกของ Beth พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักเธอก็สามารถเอาขนะ Mr. Shaibel ซึ่งประทับใจในฝีมือของเธอ จึงได้ชวน Mr. Ganz (Jonjo O’Neill) เพื่อนสมาชิกชมรมหมากรุกเพื่อมาเล่นกับเธอ ซึ่งเธอก็สามารถเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดาย ทำให้ Mr. Ganz รู้ว่าเขาได้พบกับเด็กอัจฉริยะด้านหมากรุก เขาจึงเชิญเธอไปเล่นที่ชมรมหมากรุก โดยเธอจะต้องเล่นหมากรุกกับคน 12 คนในเวลาเดียวกัน

The Queen's Gambit

ทางการสั่งห้ามสถานรับเลี้ยงเด็กแจกยา tranquilizer ให้กับเด็กๆ แต่ Beth จะสามารถใช้ความคิดการเดินหมากในหัวได้ เมื่อเธอตกอยู่ในสภาวะมึนจากฤทธิ์ของยาเท่านั้น ทำให้ Beth แอบเข้าไปขโมยยา แต่เธอก็ถูกจับได้ และถูกสั่งห้ามไม่ให้เล่นหมากรุกอีกต่อไป

The Queen's Gambit

เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก Beth (Anya Taylor-Joy) โตเป็นสาวแล้ว และได้รับการอุปการะโดยครอบครัว Wheatleys (Marielle Heller และ Patrick Kennedy) ซึ่งทำให้เธอมีโอกาสได้เล่นหมากรุกอีกครั้ง

The Queen's Gambit

เมื่อ Allston ต้องออกไปทำงานต่างเมือง ทิ้งให้ Alma ภรรยาของเขาอยู่กับ Beth เพียงลำพัง และ Beth คิดว่าเธอจะสามารถหาเงินได้ด้วยการเข้าแข่งขันหมากรุกเพื่อชิงเงินรางวัล ในการแข่งหมากรุกแบบจริงจังครั้งแรกเธอก็ได้พบกับ D.L. Townes (Jacob Fortune-Lloyd) และ Harry Beltik (Harry Melling)

The Queen's Gambit

Alma เห็นว่า Beth สามารถชนะการแข่งหมากรุก และได้เงินรางวัลตอบแทนจริงๆ ทำให้เธอเกิดความคิดว่า Beth ควรจะเดินสายการแข่งทัวร์นาเมนต์เพื่อชิงเงินรางวัล พวกเธอจึงเดินทางไป Cincinnati ที่ที่ Beth ได้พบกับ Benny Watts (Thomas Brodie-Sangster) เป็นครั้งแรก

The Queen's Gambit

ชื่อเสียงของ Elizabeth Harmon เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในแวดวงหมากรุก เธอยังคงเดินสายแข่งแบบไม่เคยแพ้ใครมาตลอด เธอได้พบกับ D.L. Townes อีกครั้งที่การแข่งใน Las Vegas ปี 1966 แต่ในครั้งนี้เข้าไม่ได้ลงแข่ง เขามาในฐานะนักเขียนของนิตยสาร Chess Review

The Queen's Gambit

ในงานแข่งที่ Las Vegas นี้ Beth ได้ประชันฝีมือกับ Benny Watts และเธอก็ได้พบกับความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก…

The Queen's Gambit

The Queen’s Gambit เป็นมินิซีรีย์ที่ต้องใช้เวลาดูถึง 2 วัน เนื่องจากช่วงกลางค่อนข้างน่าเบื่อ ซึ่งก็เข้าใจได้ว่า Netflix ต้องการยืดซีรีย์ที่ควรจะจบได้ใน 3-4 ตอน ให้ยาวออกไปถึง 7 ตอน ด้วยการใส่ฟิลเลอร์ต่างๆ นางเอกเมาเหล้า มึนยา มีเซ็กส์ เบรกดาวน์ ไปเที่ยวสวนสัตว์ นั่งเล่นในบาร์ ที่แทบจะไม่มีความสำคัญกับเนื้อเรื่องหลักเท่าไหร่

จากหนังสือที่ยาวเพียง 243 หน้า มันควรจะจบได้ใน 2 ชั่วโมงด้วยซ้ำ โดยส่วนตัวคิดว่า 3 ตอนแรกทำได้น่าติดตามมาก และสามารถตัด 4-5-6 ข้ามไปดูตอนที่ 7 เลยก็ยังสามารถเข้าใจเรื่องทั้งหมดได้ ดังนั้นความยาว 4 ตอนน่าจะเหมาะสมที่สุด ดูอย่าง The Pale Horse หรือ The ABC Murders ของ Agatha Christie สิ BBC One เขายังดัดแปลงให้จบใน 2-3 ตอนได้เลย

สิ่งที่น่าแปลกใจคือแม้จะยืดถึง 7 ตอน แต่กลับไม่สามารถใส่ความสัมพันธ์ระหว่าง Beth และเพื่อนๆ ของเธอ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญสำหรับตอนจบของซีรีย์ ที่อยู่ดีๆ ทุกคนก็เข้ามาช่วยเหลือเธอ ทำให้ผู้ชมที่ไม่ได้อ่านหนังสือ อาจจะงงว่านางเอกที่ดูเฉยเมย เย็นชากับทุกคน แบบฉันสามารถทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวได้ ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใคร ยังมีเพื่อนๆ มาช่วยรวมพลังกันในตอนจบได้ยัไง

The Queen's Gambit

Anya Taylor-Joy สวยงามตลอดเรื่อง เสื้อผ้าหน้าผม ราวกับออกมาจากนิตยสารแฟชั่น — Thomas Brodie-Sangster ก็เล่นดีมาก ติดแค่ทำไมต้องสวมหมวกคาวบอยตลอด หรือคนจะไม่รู้ว่าแสดงเป็นคนอเมริกัน (แต่อาศัยอยู่ในนิวยอร์กนะ)

The Queen's Gambit

REPORT / REQUEST
REPORT / REQUEST