THE KID WHO WOULD BE KING
2019 | Joe Cornish
ตอนแรกไม่ได้คิดจะดูเรื่องนี้เลย เพราะคิดว่าเป็นภายนตร์แนว Bridge to Terabithia แต่พอเห็นชื่อผู้กำกับคือ Joe Cornish ที่ทำเรื่อง Attack the Block ก็เลยต้องขอดูสักหน่อย เรื่องนี้เขาก็ทั้งเขียนบทและกำกับเองเหมือนเดิม
เรื่องราวของ Alexander Elliot (Louis Ashbourne Serkis) เด็กผู้ชายอายุ 12 ปี ที่วันหนึ่งเขาไปช่วยเพื่อนของเขาชื่อ Bedders (Dean Chaumoo) ซึ่งถูก Lance (Tom Taylor) และ Kaye (Rhianna Dorris) รังแก ทำให้เกิดการชกต่อย และจบลงด้วยการที่ทั้ง Alex, Lance, และ Kaye โดนทำโทษด้วยการกักตัวหลังเลิกเรียน
หลังจากนั้น Lance และ Kaye ไล่ตาม Alex ที่หนีเข้าไปในเขตก่อสร้าง จนตกลงไปจากชั้นสองและแน่นิ่งไป Lance และ Kaye ตกใจจึงรีบหนีออกไปจากที่เกิดเหตุ เมื่อ Alex ได้สติฟิ้นคืนมา เขาก็พบดาบเล่มหนึ่งปักอยู่กลางเขตก่อสร้าง เขาจึงเอามันกลับบ้านไปด้วย และสังเกตเห็นว่าดาบเล่มนั้นมีตัวอักษรสลักที่เหมือนกับดาบ Excalibur ในตำนาน
วันต่อมาก็มีเด็กหนุ่มออกมาจาก Stonehenge และเดินทางมาที่โรงเรียนของ Alex ซึ่งความจริงเขาก็คือ Merlin ที่กลับมาช่วยสู้กับ Morgana ที่จะกลับมาเมื่อถึงสุริยคราสครั้งต่อไป Merlin ตกใจมากเมื่อรู้ว่าเหลือเวลาอีก 4 วัน ไม่ใช่ 4 ปีตามที่เขาคำนวณไว้ ที่จะต้องเตรียมความพร้อมของ The Chosen One และเหล่าอัศวิน ให้สามารถสังหาร Morgana เพื่อจะช่วยโลกนี้ไว้ให้ได้
แคสติ้งดีมาก โดยเฉพาะ Tom Taylor ที่รับบทเป็น Lance และ Angus Imrie ที่รับบทเป็น Merlin ตอนเด็ก แม้ว่าจะไม่ค่อยชอบแคสของ Merlin ภาคชราที่รับบทโดย Patrick Stewart คือดูยังไงก็ไม่เหมือนพ่อมด ไม่สามารถสลัดภาพ Professor Charles Xavier ออกไปได้ ถ้าเอา Sir Ian McKellen มาเล่น น่าจะอินมากกว่านี้
ส่วนตัวร้าย Morgana รับบทโดย Rebecca Ferguson ก็ชอบมาก ไม่มีอะไรจะติ พวกวิชวลเอฟเฟคก็ดูสมจริง ชอบดีไซน์ทหารโครงกระดูกที่ถือดาบเพลิง เห็นแล้วนึกถึง Nazgûl (Lord of the Rings)
ที่ผ่านมา มีภาพยนตร์หลายสิบเรื่องที่หยิบเอาเรื่อง King Arthur มาทำ อย่างเช่น 2 เรื่องล่าสุดเมื่อปี 2017 คือ King Arthur: Legend of the Sword และ Transformers: The Last Knight แต่ก็ยังไม่มีเรื่องไหนที่ทำออกมาได้ดีระดับ The Kid Who Would Be King ที่หยิบเอามาผูกเรื่องกับยุคปัจจุบันได้ดี ทำออกมาสนุกเกินคาดไปมาก