SLITHER
2006 | James Gunn
รู้สึกเสียดายที่ พลาดไม่ได้ไปดูในโรงตอนที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉาย พอมันออกเป็นดีวีดี จึงไม่รอช้า รีบ(วานคน)ไปซื้อมาดูในทันที แผ่นลิขสิทธิ์จากค่าย EVS ราคา 160 บาทเท่านั้น ดูจบแล้วก็รู้สึกว่านี่มันคือสิ่งที่ควรชมในโรงภาพยนตร์อย่างแท้จริง!
สำหรับผมแล้ว ภาพยนตร์มีอยู่สองแบบ
1. ภาพยนตร์ที่ควรดูในโรง อาทิ หนังแอคชั่น, หนังผี, ตื่นเต้น, สยองขวัญ, เลือดสาด
2. ภาพยนตร์ที่ควรห่มผ้านอนดูที่บ้าน อาทิ ภาพยนตร์รัก, ชีวิต, โรแมนติก (เวลาที่ตัวละครพ่นอะไรไร้สาระ จะได้กด fast forward ที่รีโมตได้), และภาพยนตร์ตลก (จะได้ไม่ต้องฟังเสียงหัวเราะ ของพวกเส้นตื้น หัวเราะตั้งแต่ต้นยันจบ)
เนื้อเรื่องสนุกก็ได้ใจ เริ่มตั้งแต่ค่ำคืนอันเงียบสงบในเมืองแห่งหนึ่ง ที่มีวัตถุลึกลับบินข้ามจักรวาลมาหล่นปุ๊กอยู่ในป่าชานเมือง แล้วก็มี Grant (Michael Rooker) ลุงช่างสงสัยเอาไม้ไปเขี่ยดูว่ามันคืออะไร เลยโดนมันจิ้มพุงเข้าให้ จากนั้นลุงก็ไปจัดการขยายพันธุ์เจ้าตัวหนืดเป็นที่สนุกสนาน
นอกจากการเดินเรื่องที่ย้อนยุค เหมือนหนังสยองขวัญเก่าอย่าง Dawn of the Dead, Critters หรือ Tremors แล้ว (คือไม่ใช่หนังสยองแหวะ แต่เป็นแบบแหวะปนฮา) เพลงประกอบพี่แกก็เลือกมาใช้ได้รื่นเริงบันเทิงใจมาก
ป.ล. ภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้ 84% และได้ที่ 8 ใน Top 50 สำหรับภาพยนตร์ปี 2006 ของเว็บ Rotten Tomatoes ด้วย
![[furious]](https://pradt.co/imgs/misc/smilies/icon_furious.gif){kind=icon}
![[twisted]](https://pradt.co/imgs/misc/smilies/icon_twisted.gif){kind=icon}
สำหรับผมจะดูหนังในโรงเป็นหลัก ดูที่บ้านเฉพาะเรื่องที่ไม่เข้าในโรง ต้องขวยขวายซื้อมาดูที่บ้านเอง หนังรักสำหรับผมต้องดูในโรงเลยครับ ชอบให้่พลังและบรรยากาศของหนังห่อหุ้มตัวเราไว้
ที่สำคัญชอบอารมณ์ความรู้สึกตอนที่ตัวเองเดินออกมาจากโรงหนัง นี่ถ้าได้ดูหนังระดับเทพ คงจะอืนมาก อยากกลับบ้านมานั่งเงียบๆ คิดถึงมัน