ฐานลับของซูเปอร์ฮีโรที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกถูกค้นพบโดยลูกชายและกลุ่มเพื่อน ซึ่งกลายเป็นเรื่องวุ่นวายเมื่อกลุ่มคนร้ายบุกเข้ามาขณะที่พ่อของเขาออกไปปฏิบัติภารกิจ พวกเด็กๆ จึงต้องหาวิธีปกป้องฐานลับแห่งนี้เอาไว้

เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อน Jack (Owen Wilson) ได้พบกับวัตถุลึกลับต่างดาวที่ตกลงมายังโลก วัตถุลึกลับมอบเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่าเทคโนโลยีของมนุษย์ Jack จึงกลายเป็นซูเปอร์ฮีโรในชื่อ The Guard คอยปกป้องช่วยเหลือผู้คนจากภยันอันตราย โดยมีฐานลับที่ซ่อนอยู่ใต้บ้านของเขาเอง คนที่รู้ตัวจริงของเขามีเพียง Lily (Jessie Mueller) ภรรยาของเขาและ Sean Irons (Jesse Williams) นักบินทหารที่พบกับวัตถุลึกลับพร้อมกับ Jack เท่านั้น

คืนวันหนึ่งขณะที่ Jack ต้องออกไปปฏิบัติภารกิจ ทำให้เขาต้องทิ้ง Charlie (Walker Scobell) ลูกชายไว้ที่บ้านตามลำพัง Charlie จึงโทรเรียก Berger (Keith L. Williams) เพื่อนสนิทของเขามาที่บ้าน แต่ Berger กลับพา Lizzie (Abby James Witherspoon) และ Maya (Momona Tamada) สองสาวเพื่อนร่วมชั้นมาด้วย

พวกเด็กๆ ค้นพบประตูลิฟท์ที่พาพวกเขาลงไปยังฐานลับใต้ดิน ทำให้ทุกคนรู้ว่า Jack พ่อของ Chailie แท้จริงแล้วคือ The Guard ซูเปอร์ฮีโร่ปริศนาที่คอยพิทักษ์ความสงบสุขของโลก พวกเด็กๆ รู้สึกสนุกสนานกับอุปกรณ์เทคโนโลยีล้ำยุค พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะนำอุปกรณ์เหล่านั้นไปที่โรงเรียน

นอกจากนั้นพวกเขายังนำเอารถตู้ออกไปจากฐานลับอีกด้วย ทำให้พวกคนร้ายที่กำลังค้นหาตัว The Guard จับสัญญาณได้และส่งหน่วยทหารรับจ้างมาเพื่อชิงวัตถุลึกลับที่เป็นขุมพลังของ The Guard

ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรที่ใบปิดมีภาพของ Owen Wilson และชื่อของเขาใหญ่มากจนทำให้คิดว่าเขาคือตัวเอกของเรื่อง แต่ความจริงแล้วเขาเป็นเพียงแค่ตัวประกอบที่โผล่มาแค่ตอนต้นเรื่องกับท้ายเรื่อง แทบจะไม่มีภาพของการต่อสู้กับมหันตภัยหรือเหล่าร้ายที่ควรค่าแก่การเป็นซูเปอร์ฮีโร ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นได้แค่ภาพยนตร์แอคชันไซไฟสำหรับเด็กเท่านั้น

โครงเรื่องก็ธรรมดาสามัญมาก ตัวละครแต่ละคนก็ไม่มีอะไรน่าจดจำ นอกจากการตัดสินใจโง่ๆ ซ้ำไปซ้ำมา บทพูดเหมือนพยายามจะทำให้ตลกแต่ไม่ตลก ฟังแล้วขนลุกแบบมีคนพูดอะไรแบบนั้นจริงหรอ จนต้องไปเปิดดูชื่อผู้กำกับดูว่าเป็นใครกัน

จึงได้รู้ว่าผู้กำกับคือ Henry Joost และ Ariel Schulman สองผู้กำกับชาวอเมริกัน ที่เคยกำกับ PROJECT POWER (2020) ของ Netflix ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้ออกมาได้แย่กว่าเรื่องนั้นอีก ทั้งที่พวกเขาร่วมเขียนบทกับ Christopher Yost แต่ก็ยังช่วยดึงภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมาจากก้นเหวไม่ไหว

คือบทมันก็ประหลาด มีช่องโหว่ปัญญาอ่อนจนงงว่ามันคือโลกมนุษย์หรือโลกในจักรวาลคู่ขนาน อาทิ ฐานลับที่ไม่มีสัญญาณเตือนว่ามีคนบุกรุก (แต่มีกล้องวงจรปิดที่เปิดดูได้จากระยะไกล) ประตูลิฟท์ที่เปิดได้ด้วยรหัสที่เป็นวันเกิดลูกชาย อุปกรณ์อันตรายที่ไม่มีมาตรการป้องกันใดๆ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใครจะเปิดใช้งานก็ได้

มันเป็นเหมือนละครเด็กเล่นที่ไม่มีจุดไคลแมกซ์ ผู้ชมไม่รู้สึกถึงอันตรายที่จะดึงอารมณ์ลุ้นเอาใจช่วยตัวละครในเรื่อง อีกทั้งตัวร้ายที่รับบทโดย Michael Peña ก็เป็นเหมือนตัวตลกหัวหน้ายามมากกว่าผู้บริหารบริษัทผู้ผลิตอาวุธยักษ์ใหญ่

Jack ก็คืออีกเวอร์ชันของความพยายามที่จะสร้างตัวละครอย่าง IRON MAN แต่เขาก็ดูไม่ฉลาดพอที่จะสร้างสิ่งประดิษฐ์เหล่านั้นขึ้นมาเองได้ แน่นอนว่าเขาต้องพึ่งพาพลังของวัตถุลึกลับต่างดาว แต่ภาพยนตร์ก็ไม่ได้เปิดเผยว่ามันทำได้อย่างไร ตัว Jack เองก็ไม่มีพลังพิเศษอะไรถ้าไม่ได้สวมชุด The Guard

SECRET HEADQUARTERS ฉายรอบปฐมทัศน์ที่โรงภาพยนตร์ Signature Theater ในนครนิวยอร์ก วันที่ 8 สิงหาคม 2022 และปล่อยสตรีมมิงให้กับสมาชิก Paramount+ ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม