Mission: Impossible – Ghost Protocol
Latest

Ghost Protocol

Brad Bird

Ghost Protocol

2000 2000 PRADT
< 1-MINUTE READ

Mission: Impossible – Ghost Protocol
2011 | Brad Bird
★★★★½

มาถึงภาค 4 กันแล้วกับซีรีย์ภาพยนตร์ Mission: Impossible ในภาคนี้ได้ผู้กำกับแอนิเมชัน Pixar เรื่องดังอย่าง The Incredibles และ Ratatouille

ในภาคนี้ Ethan ถูกสั่งเข้ารับงานใหม่จาก IMF ให้บุกเข้าในห้องเก็บข้อมูล Kremlin ใน Moscow เพื่อดึงข้อมูลของผู้ก่อการร้ายรหัส Cobolt ที่มีแผนจะใช้ระเบิดนิวเคลียร์จุดชนวนสงครามระหว่างประเทศ แต่การเข้าไปดึงข้อมูลถูกจัดฉากโดยฝ่านตัวร้ายที่เหนือชั้นกว่า ทำให้ทางรัสเซียคิดว่าอเมริกามีแผนการทำลายรัสเซีย จนประธานาธิบดีของอเมริกาต้องสั่ง Ghost Protocol ยุบ IMF และสมาชิกทั้งหมด ทีมของ Ethan จึงต้องใช้ทรัพยากรที่เหลืออยู่เพื่อจัดการล่าคนร้าย โดยที่ไม่มีความช่วยเหลือใดจากรัฐบาลสหรัฐ

เนื้อเรื่องภาคนี้สนุกและน่าติดตามมาก คุณ Brad Bird แม้มากำกับหนังไลฟ์แอคชั่นเป็นครั้งแรกก็ทำได้ดีมากเลย สนุกว่าภาค 3 และ 2 อยู่มาก แต่ยังคลาสสิคเทียบภาคแรกไม่ได้ (ภาคนั้นแค่ casting อย่างเดียวก็ชนะเลิศไปแล้ว) ภาคนี้มีฉากแอคชั่นน่าตื่นเต้นทั้งไต่ตึก โดดลงปล่องลม และอื่นๆ ส่วนอันที่ชอบมากที่สุดคือ ฉากไล่ล่าในพายุทราย

สรุปว่าเป็นภาคที่สนุกมากสมการรอคอย จงรีบไปชมกันโดยพลัน
มี คุณ Michael Nyqvist จาก Millennium Series เล่นด้วย!

THIS ARTICLE WAS FIRST PUBLISHED ON

 
To ensure the accuracy of the records, please contact via email
if any information requires correction or updating.

3 comments
  • ส่วนผมว่าภาคนี้เน้นเอนเตอร์เทน-เอาใจคนดูมาเกินไปครับ ความรู้สึกเดียวกับตอนดูไพเรทภาคล่าสุดที่ดูสนุกดี แต่ความเข้มข้นสู้ภาคก่อนๆไม่ได้
    ชอบภาคสามของ เจ.เจ.อัมรามส์ มากกว่าครับ ภาคสามตัวละครอีธาน ฮันต์ จะแสดงออกมีมิติทางอารมณ์ลึกกว่า แมนกว่า ดุดันกว่า มาภาคสี่นี่ ผมว่าฮันต์ดูจะกลายเป็นฮีโร่เพอร์เฟคทุกกระเบียด-หล่อทุกวินาที ไปเลย ขณะที่ตัวโกงภาคนี้ก็เคาะออกมาตามพิมพ์นิยมทุกกระเบียด สู้ตัวซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน ในภาคสามไม่ได้ ทั้งๆที่บทก็ไม่ลึกซึ้งอะไรมากครือๆกัน แต่ภาคสามนอกจากอำมหิตคุกคามกว่าแล้ว ยังมีพลังมากกว่าและจับต้องได้มากกว่าเยอะ เช่นเดียวกัน-แอ็คชั่นในภาคนี่ดูจะเน้นความบันเทิงดูง่าย ขณะที่ภาคสาม(และภาคหนึ่ง)แอ็คชั่นดิบกว่า กระชับดุดันมากกว่า ….ส่วนตัวผมคิดว่าภาคนี้ดีกว่าภาคสองของจอน วู อยู่นิดหน่อยครับ

  • @headache
    ผมชอบงานกำกับของ Brad Bird มากกว่า J.J. Abrams นะ บทและการแสดงของ Philip Seymour Hoffman เหนือกว่า Michael Nyqvist จริง (แล้วภาค 3 ยังมี Laurence Fishburne ที่แสดงดีมาก) แต่องค์ประกอบโดยรวมแล้วก็ยังทำให้ภาคนี้ดูแล้วสนุกกว่า ทุกอย่างดูเคลียร์กว่าที่จะมาทำให้ผู้ชมสงสัยว่า Rabbit’s Foot คืออะไร (มันคือหนังแอคชั่น ไม่ใช่ทริลเลอร์)

    ภาคของ John Woo นี่ไม่ชอบทีสุดในทุกภาค ตั้งแต่พล็อตเรื่องก็ธรรมดามากเกินไปแล้ว นางเอกก็ธรรมดาอีก ดูแล้วง่วงนอนมาก ภาคนี้ทำดูเป็นหนังที่ mass แล้วยังสนุกอีก แบบแนว Pixar เลย ไม่น่าแปลกใจที่นักวิจารณ์ให้คะแนนภาคนี้สูงสุดกว่าทุกภาคที่เคยสร้างมา

  • อ่า งั้นน่าจะเป็นรสนิยมของผมเองครับ ผมเองไม่ได้ปลื้ม pixar เป็นพิเศษ ออกจะชอบแนวที่ไม่ต้องเป๊ะหรือเนียนมาก ซึ่งงานแบบ MI4 หรือแบบ pixar ก็ประมาณนั้นในความรู้สึกผม คือมันเป๊ะจริง เพลินจริง ที่จริงผมยังคิดเลยครับว่า MI3 มันก็มีจุดที่ด้อยให้เห็นชัด แต่จุดเด่นคือตัวโกงของฮอฟฟ์แมน และแน่นอนอารมณ์ที่น่าจะประมาณหนังทริลเลอร์แบบที่คุณ pradt ว่า…อย่างเช่นฉากฮันต์โดนมัดและทรมานโดยฮอฟฟ์แมน–เจ๋งกว่าฉากหวดไข่ในเจมส์บอนด์ซะอีก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตัวละครฮันต์ดูมีพลังมากที่สุดในสี่ภาคแล้วในความคิดผม(มากกว่าฉากวีรบุรุษแอ็คชั่นมากมาย) ทำให้ผมชอบภาคสามมากๆ

Comments are closed.

REPORT / REQUEST
REPORT / REQUEST