ภาพยนตร์ลำดับที่ 10 ของแฟรนไชส์ FAST & FURIOUS ซึ่งเป็นภาคต่อของ F9 (นี่คือแฟรนไชส์ที่ตั้งชื่อภาคได้ประหลาดที่สุด แต่ละภาคเปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อยๆ ตามใจฉัน) และเป็นภาคแรกของเนื้อเรื่องหลัก ที่ต้องใช้ภาพยนตร์ยาวถึง 3 ภาค เพื่อเล่าเรื่องราวที่พวกเขานั่งเทียนเขียนขึ้นมาใหม่

โครงเรื่องของภาคนี้ คาดเดาว่าเกิดขึ้นจากคนเขียนบทเอาไทม์ไลน์ออกมากาง เพื่อดูว่าจะเอาตัวร้ายของภาคนี้ไปยัดใส่ไว้ตรงไหนดี แล้วก็จิ้มว่าจะเอาไว้แถวช่วงจบของภาค 5 (FAST FIVE) ตรงช่วงเวลาที่ Dominic Toretto (Vin Diesel) ร่วมมือกับ Brian O’Conner (RIP ✟ Paul Walker) ขโมยตู้เซฟของ Hernan Reyes (Joaquim de Almeida) เจ้าพ่อใหญ่แห่งเมืองรีโอเดจาเนโร (ซึ่งจบลงด้วยความตายของ Hernan หลังจากโดนรถของ Dom พุ่งเข้าใส่) แต่เขายังมีลูกชายอยู่อีกคน! (แน่นอนว่าในภาค 5 ตัวร้ายไม่ได้มีลูกชาย)

Dante Reyes (Jason Momoa) ลูกชายของตัวร้ายในภาค 5 จึงมีเป้าหมายอย่างเดียวในชีวิต คือการแก้แค้นให้พ่อ ด้วยการทำลายทุกอย่างที่ Dom รักและต้องการปกป้อง เพื่อให้ Dom ได้ลิ้มรสความทรมานยิ่งกว่าความตาย

ส่วนที่ชอบคือฉากแข่งรถช่วงกลางเรื่อง มันคือหัวใจของ FAST & FURIOUS ที่ทำให้แฟนๆ ชอบแฟรนไชส์นี้ และการแสดงของ Jason Momoa ในบท Dante Reyes ตัวร้ายโรคจิตในภาคนี้ ซึ่งเล่นได้มีจริตแบบกวนประสาทดีมาก นับว่าเป็นตัวร้ายที่น่าจดจำ กับพฤติกรรมเล่นใหญ่เหนือคาด ทุกครั้งที่เขาปรากฏตัว

ปัญหาของเรื่องนี้อยู่ที่ฉากแอคชันระเบิดตูมตามที่เต็มไปด้วย CGI ซึ่งให้อารมณ์ความรู้สึกต่างจากสงครามอวกาศของ MARVEL หรือ STAR WARS ที่เรายังไม่มียานอวกาศระดับนั้น แต่ผู้สร้างทำให้เราเชื่อว่าถ้าเรามียานอวกาศ สิ่งที่เราเห็นคือความเป็นไปได้ ส่วนของ FAST X มันคือรถยนต์ พาหนะที่เรามีอยู่จริง และเรารู้ด้วยสามัญสำนึกว่า อันไหนที่น่าจะเป็นไปได้ อันไหนที่มันเป็นไปไม่ได้ แบบอยู่นอกเหนือกฎฟิสิกส์ หรือแรงโน้มถ่วง จนดูไม่น่าเชื่อ

ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะตัวผู้กำกับที่เลือกใช้ CGI มากกว่างาน stunt ที่ใช้คนเล่นจริง แบบ MISSION: IMPOSSIBLE ที่ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสกับความตื่นเต้นสมจริง ซึ่งนักแสดงกับฉากดิจิทัลยังไม่สามารถเลียนแบบได้

ภาคนี้เล่นง่ายขึ้นไปอีก ทุกอย่างสามารถควบคุมจากระยะไกลด้วยรีโมทคอนโทรล ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือรถบรรทุกน้ำมัน ถ้าบังคับเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ จรวดมิสไซล์ เรือดำน้ำ ได้ด้วย เราก็ไม่แปลกใจแล้ว (นี่ยังไม่พูดถึงว่า พวกเขาขนระเบิดลูกเท่าบ้านใส่รถบรรทุก ผ่านเข้ามาวิ่งอยู่ในกรุงโรมได้ยังไง)

ฉากต่อสู้ของ Letty (Michelle Rodriguez) และ Cipher (Charlize Theron) นี่งงว่าจะใส่มาเพื่ออะไร ทั้งคู่ต้องแข่งกับเวลาเพือหนืออกจากที่คุมขัง (และไปช่วย Dom) แต่ยังมีเวลามาตบตีกัน ตรรกะคือ?! เหมือนกับมีฉากนี้เพื่อให้ทั้งคู่แสดงโชว์ฉากแอคชันเท่ๆ แค่นั้น ไม่ได้ช่วยเสริมเนื้อเรื่องให้เข้มข้นยิ่งขึ้น

Han (Sung Kang) ตัวละครลับที่โผล่มาในภาคที่แล้ว ก็แทบไม่มีบทสำคัญในภาคนี้ นอกจากยัดมาให้ต่อยกับ Deckard Shaw (Jason Statham) รวมถึงนักแสดงสบทบในทีมคนอื่นๆ อย่าง Ramsey (Nathalie Emmanuel), Roman (Tyrese Gibson) และ Tej (Ludacris) ที่ได้บทตลกไร้สาระ สมกับที่เป็นแค่ตัวละครสบทบ เพราะยังไงภาคนี้ก็เป็นเรื่องของ Dominic Toretto และ Dante Reyes อยู่แล้ว

นอกจากนั้น ดูเหมือนผู้กำกับไม่มั่นใจว่าผู้ชมจะเข้าใจอารมณ์ของ Dom ที่เป็นห่วงลูกชาย จึงต้องเก็บภาพโคลสอัพใบหน้าของ Dom ที่แสดงสีหน้าเจ็บปวดรวดร้าวเคียดแค้นโกรธเกรี้ยว มีน้ำตาเอ่อล้น หลากหลายมุม ซ้ำใปซ้ำมา (ทำไมไม่ถ่ายหมุน 360 องศาไปเลยล่ะ! เห็นครั้งเดียวก็เข้าใจแล้วว้อย เปลืองเวลาชีวิต) แล้วยังมีฉากความสัมพันธ์ระหว่างลุง Jakob (John Cena) และหลาน Brian (Leo Abelo Perry) ที่ดูน่าอึดอัด มากกว่าน่ารัก

เกลียดการจบแบบค้างค้ายืดเยื้อ หลอกล่อให้คนต้องไปติดตามต่อในภาค 11 — แฟรนไชส์นี้ กลุ่มของตัวเอกแทบไม่มีใครตายจริงเลย แม้แต่ Gisele Yashar (Gal Gadot) ที่ตายไปในภาค 6 ก็ยังกลับมาในภาคนี้! ขอเดาว่า Jakob Toretto ก็คงกลับมาในภาคต่อไป มันไม่มีอะไรให้ผู้ชมต้องลุ้น หรือเกิดความซาบซึ้งใจ เพราะยังไงพวกตัวเอกที่เสียสละชีวิตตายไป ก็คงหาทางกลับมาได้อยู่ดี

“No Chance”: Dwayne Johnson Snubs Vin Diesel’s Overture to Return to ‘Fast and Furious’ Franchise
Dwayne Johnson says there’s “no chance” of him rejoining the Fast & Furious family, shutting down all talk of his return to the franchise

ปิดท้ายด้วยฉาก Mid-Credits กับการนำตัว Luke Hobbs (Dwayne Johnson) กลับมาอีกครั้ง ทั้งที่เขาเคยประกาศว่าจะไม่ร่วมงานกับ Vin Diesel อีก (I guess large amounts of money could possibly change his mind.) เปิดเผยความจริงว่าคนที่ฆ่าพ่อของ Dante ก็คือ Luke นั่นเอง!

เดี๋ยวก่อนนนนน~ นี่มันคือ alternate reality หรือเปล่า อยู่ดีๆ ก็บิดเบือนฉากในภาค 5 ราวกับว่าผู้ชมลืมไปหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น — สตูดิโอควรออกแผ่นบลูเรย์เวอร์ชันอัปเดต ที่เปลี่ยนตอนจบของภาค 5 และลบข้อมูลเก่าออกจากอินเทอร์เน็ตด้วย!)

FAST X ฉายรอบปฐมทัศน์ที่ The Space Cinema Roma Moderno ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี วันที่ 12 พฤษภาคม 2023 ก่อนจะเริ่มเปิดฉายในยุโรปและเอเชีย รวมถึงประเทศไทย ด้วยชื่อ “เร็ว…แรงทะลุนรก 10” ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม ส่วนสหรัฐอเมริกา ภาพยนตร์เรื่องนี้ มีกำหนดเข้าฉาย วันที่ 19 พฤษภาคม

FAST & FURIOUS ภาค 11 มีกำหนดฉายในปี 2025 ส่วนภาค 12 ซึ่งจะเป็นภาคสุดท้ายของซีรีส์หลัก กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาบท