DARK
(Season 2)
Baran bo Odar & Jantje Friese
(2019)
Der Anfang ist das Ende. Und das Ende ist der Anfang. Alles ist miteinander verbunden. Zukunft, Vergangenheit und Gegenwart.
ใน Season 1 ตอนสุดท้าย Jonas กระโดดข้ามเวลาไปปี 2052 หลังจากเหตุการณ์ apocalypse ที่ทำให้เมือง Winden ล่มสลายในวันที่ 27 มิถุนายน 2020 ซึ่งยังไม่เข้าใจว่าเป็น apocalypse ระดับโลกหรือแค่เมืองนี้เท่านั้น เพราะดูเหมือนว่าคนที่รอดชีวิตก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่เมืองนี้!?
ชายปริศนาแท้จริงแล้วก็คือ Jonas ที่ย้อนเวลากลับมาจากอนาคตเพื่อหยุดวงจรอุบาวท์ที่วนกลับมาทุก 33 ปีนั่นเอง แต่นอกจากที่เขาจะหยุดมันไม่ได้แล้ว กลายเป็นว่าเขายังคงเดินตามลูปเดิมที่ Adam วางไว้
Adam เปิดเผยโฉมหน้าออกมาในซีซันสอง เขาเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังคอยบงการ Noah อีกทีหนึ่ง ซึ่งเราก็พอเดาได้แล้วว่าตัวจริงของ Adam คือใคร เพราะตัวละครมันก็มีอยู่แค่นี้
ในซีซันสองมีการพูดถึง Bootstrap Paradox ซึ่งหมายถึงการที่สิ่งของหรือข้อมูลจากอนาคตถูกส่งกลับไปอดีต จนเกิดการวนลูปที่ไม่มีวันจบสิ้น และไม่สามารถหาจุดเริ่มต้นหรือจุดจบได้อีกเลย — หนังสือ Eine Reise durch die Zeit เป็นหนังสือ H.G. Tannhaus ยังไม่ได้เขียนจนกระทั่งเขาได้อ่านมันจากเล่มที่ Claudia นำมาให้เขา — นอกจากนี้ก็มีการอธิบายแล้วว่าหมาข้ามเวลาได้ยังไง, ใครเป็นคนสร้างประตูในถ้ำ, ตัวจริงของ Noah, Mikkel เข้าถ้ำไปได้ยังไง (แต่ยังไม่รู้เหตุผลอยู่ดี)
สิ่งที่เข้าใจมาตลอดคือทั้งเรื่องนี้มี Time Machine อยู่เพียง 1 เครื่องเท่านั้น แต่มันสามารถปรากฏตัวได้ในหลายช่วงเวลา หรือแม้แต่ในเวลาเดียวกันก็ได้ เช่นถ้ามีคนถือมันข้ามเวลามาในช่วงเวลาที่มีอีกคนถืออยู่ เป็นต้น แต่ตอนสุดท้ายของซีซันสองก็ทำให้เรามึนไปได้อีก กับการปรากฏตัวของ Time Machine จากอีกมิติ!?!
DARK เป็นซีรีย์ที่ต้องใช้สมาธิในการดู เพราะนอกจากการตัดต่อที่กระโดดข้ามเวลาไปมาแล้วเสียงพากย์อังกฤษมันค่อนข้างแย่ ทำให้ต้องเปิดเสียงออริจินัลเยอรมันและอ่านซับไปด้วย — เราก็คงต้องรอดูซีซันสามซึ่งเป็นซีซันสุดท้าย ว่าผู้สร้างจะสามารถผูกโยงเรื่องเขียนบทให้มันลงตัวได้ หรือจะออกทะเลไปในที่สุด…