ภาพยนตร์ดัดแปลงจากหนังสือนิยายชื่อเดียวกันของ Gregory Mcdonald นักเขียนชาวอเมริกัน ที่มีชื่อเสียงในฐานะผู้เขียนซีรีส์นิยายการผจญภัยของ Irwin Maurice “Fletch” Fletcher นักข่าวเชิงสืบสวนที่ต้องไปพัวพันกับคดีปริศนาต่างๆ โดยได้รับการตีพิมพ์ออกมาทั้งหมด 9 เล่ม คือ Fletch (1974), Confess, Fletch (1976), Fletch’s Fortune (1978), Fletch and the Widow Bradley (1981), Fletch’s Moxie (1982), Fletch and the Man Who (1983), Carioca Fletch (1984), Fletch Won (1985) และ Fletch, Too (1986)

ภาพยนตร์เรื่องนี้หยิบเอาเรื่องราวจากหนังสือเล่มที่ 2 ของซีรีส์นิยายมาดัดแปลง หลังจากซีรีส์นิยายนี้เคยได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์มาแล้วใน Fletch (1985) และ Fletch Lives (1989) นำแสดงโดย Chevy Chase ซึ่งผู้สร้างคาดหวังให้ Confess, Fletch เป็นการรีบูต เพื่อสร้างแฟรนไชส์ซีรีส์สืบสวนขึ้นมาอีกครั้ง

เคานต์ Clementi Arbogastes De Grassi (Robert Picardo) จ้าง I.M. “Fletch” Fletcher (Jon Hamm) อดีตนักข่าวเชิงสืบสวนที่ผันตัวมาเป็นนักข่าวอิสระ ให้มาสืบหาตัวคนร้ายที่ขโมยคอลเลกชันภาพวาดงานศิลป์ไปจากคฤหาสน์ของเขาในกรุงโรม ประเทศอิตาลี

Fletch ค้นพบว่า Ronald Horan (Kyle MacLachlan) พ่อค้างานศิลป์ในบอสตัน สหรัฐอเมริกา ได้ขายงานภาพเขียนของ Giovanni Bellini และ Pietro Perugino (ศิลปินในยุคเรอเนสซองซ์ของอิตาลีในช่วงศตวรรษที่ 15 – 16) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชันภาพวาดที่ถูกขโมยไป เขารายงานเรื่องนี้ให้กับ Angela de Grassi (Lorenza Izzo) ลูกสาวคนเดียวของท่านเคานต์ ก่อนที่ทั้งคู่จะสานสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง

หลังจากนั้นไม่นาน ท่านเคานต์ก็ถูกกลุ่มคนร้ายลักพาตัวไป และคนร้ายเรียกร้องค่าไถ่ตัวเป็นภาพของ Pablo Picasso (ศิลปินชาวสเปนที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในศิลปินที่ทรงอิทธิพลที่สุดของศตวรรษที่ 20) หนึ่งในภาพที่ถูกขโมยไปจากคฤหาสน์ มีมูลค่ามากกว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ

Angela สงสัยว่า Sylvia (Marcia Gay Harden) ภรรยาคนใหม่ของพ่อ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคอลเลกชันภาพวาดที่ถูกขโมยไป เธอเชื่อว่า Sylvia แต่งงานกับพ่อเพราะหวังเงินทอง และ Sylvia ยังบังเอิญเดินทางไปเยี่ยมญาติที่มิลาน พอดีกับช่วงที่ท่านเคานต์ถูกลักพาตัวไป

Fletch จึงต้องเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เพื่อหาทางเอาภาพวาดที่เขาเชื่อว่า Ronald Horan ยังคงเก็บซ่อนคอลเลกชันภาพวาดที่ถูกขโมยไปไว้ที่ไหนสักแห่ง แต่เมื่อเขาเดินทางมาถึงบ้านพัก เขากลับพบกับศพของหญิงสาวที่เขาไม่รู้จักอยู่ในบ้าน และเมื่อเขาโทรแจ้งตำรวจ สถานการณ์ก็ยิ่งแย่ลงไปอีก เขากลายเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง เนื่องจากไม่มีร่องรอยงัดแงะ และยังพบรอยนิ้วมือของเขาบนขวดที่เป็นอาวุธสังหารเหยื่ออีกด้วย

ผลงานของ Greg Mottola ผู้กำกับชาวอเมริกัน ที่เคยสร้างชื่อจากภาพยนตร์ SUPERBAD (2007), Adventureland (2009) และ PAUL (2011) ครั้งนี้เขาหยิบเอาซีรีส์หนังสือนิยายนักสืบชื่อดังมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ร่วมกับ Zev Borow นักเขียนบทละครโทรทัศน์ ซึ่งทำออกมาได้ค่อนข้างดี

เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์แนวสืบสวนที่แฝงความตลกเอาไว้ได้อย่างบันเทิง แม้ว่าการเล่าเรื่องและโครงเรื่องแบบ whodunit ที่ตัวเอกต้องค้นหาคนร้ายตัวจริงที่ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังกลุ่มตัวละครมากมายในเรื่อง จะค่อนข้างล้าสมัยไปสักนิด เมื่อเทียบกับงานออริจินัลยุคใหม่อย่าง Knives Out และ POKER FACE แต่ก็สนุกกว่า Glass Onion หรือ SEE HOW THEY RUN นะ

ชอบการแสดงของ Jon Hamm ในบทของ Fletch กับการสร้างตัวละครนักสืบที่มีคาแรกเตอร์และลูกเล่นน่าสนใจ ทำให้เราอยากรู้เรื่องราวคดีปริศนาอันต่อไปของเขา หรือคดีพิศวงในอดีตว่าเขาก้าวเข้ามาในวงการนี้ได้อย่างไร มุขตลกในเรื่องหลายอันก็ใช้ได้ บางอันก็แป้กไปหน่อย ถ้าชอบภาพยนตร์แนวสืบสวนก็ไปลองหาชมกันดูได้

สิ่งที่งงมากสุดคือ ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่เคยเห็นทีเซอร์ตัวอย่าง ไม่เคยเห็นการโปรโมทเกี่ยวกับภาพยนตร์ที่ใช้ทุนสร้าง 20 ล้านเหรียญ (แต่ฉายแบบจำกัดโรงและปล่อยสตรีมมิง) ที่รู้จักก็เพราะบังเอิญเห็นชื่ออยู่ในรายการของแผ่น Blu-ray ที่กำลังจะวางจำหน่ายวันที่ 4 เมษายน 2023

ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในสหรัฐอเมริกาแบบจำกัด วันที่ 16 กันยายน 2022 ก่อนจะปล่อยสตรีมมิงทาง Showtime สำหรับสมาชิก ตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม และเข้าฉายในสหราชอาณาจักร วันที่ 18 พฤศจิกายน

Confess, Fletch ได้รับเลือกให้เลือกเข้าร่วม The Contenders ครั้งที่ 15 จัดขึ้นโดย Museum of Modern Art (MoMA) ระหว่างวันที่ 10 พฤศจิกายน 2022 – 19 มกราคม 2023

Greg Mottola ให้สัมภาษณ์ว่า เขาได้เริ่มดัดแปลงบทภาพยนตร์ภาคต่อไป ที่จะเป็นเรื่องราวจาก Fletch’s Fortune หนังสือเล่มที่ 3 ในซีรีส์ แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะได้รับอนุมัติให้สร้างเมื่อไหร่กันแน่