เมื่อผู้กำกับชาวอเมริกันที่กำลังจะสร้างภาพยนตร์ดัดแปลงจากละครเวที แนวสืบสวนคดีฆาตกรรมชื่อดัง กลับกลายเป็นศพซะเอง นักสืบและตำรวจสาวจึงถูกตามตัวมาเพื่อไขคดีว่า ใครคือคนร้ายตัวจริงที่ซ่อนตัวอยู่ในโรงละครแห่งนี้

ในกรุงลอนดอนปี 1953 ละครเวที The Mousetrap ของ Agatha Christie จัดงานปาร์ตี้ฉลองการแสดงครบ 100 รอบ

The Mousetrap เป็นละครเวทีของ Agatha Christie ละครแนวสืบสวนตามหาคนร้าย ที่แฝงอยู่ในกลุ่มตัวละครทั้ง 8 คนในเรื่อง และมีจุดหักมุมที่เหนือความคาดหมาย เปิดแสดงใน West End ตั้งแต่ปี 1952 ต่อเนื่องมาจนถึงเดือนมีนาคมปี 2020 ซึ่งจำเป็นต้องหยุดพักชั่วคราว เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 และกลับมาเปิดแสดงอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม 2021 ทำให้มันได้ชื่อว่าเป็นละครเวทีที่มีการจัดแสดงต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลก ด้วยการแสดงรวมมากกว่า 28,500 รอบ มีนักแสดงมากกว่า 400 คน เคยรับบทในละครเวทีเรื่องนี้

John Woolf (Reece Shearsmith) โปรดิวเซอร์ชาวอังกฤษซื้อลิขสิทธิ์ละครเวทีเรื่องนี้เพื่อนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ และจ้าง Leo Köpernick (Adrien Brody) ผู้กำกับชาวอเมริกันมาทำร่วมกับ Mervyn Cocker-Norris (David Oyelowo) นักเขียนบทชาวอังกฤษ แต่ Leo ไม่ชอบละครประเภทสืบสวนหาคนร้ายตัวจริง เขาคิดว่าโครงเรื่องแนวนี้เหมือนกันหมด คือมีใครสักคนถูกฆ่า จากนั้นนักสืบก็เข้ามาสอบถามพยาน ค้นหาหลักฐาน แล้วก็เชิญทุกคนเข้าไปในห้องรับแขก ก่อนจะชี้ตัวคนร้ายตัวจริง จากท่าทางหรือพฤติกรรมเล็กน้อยระดับที่คนทั่วไปไม่สังเกต เขาจึงคิดจะสร้างภาพยนตร์ในแบบอเมริกัน ซึ่งขัดใจนักเขียนบทที่ต้องการเล่าเรื่องราวแนวเดียวกับละครเวที

ในคืนนั้นเขาใช้อำนาจของการเป็นผู้กำกับเสนอให้ Sheila Sim (Pearl Chanda) นักแสดงนำหญิงในละครเวที มาเป็นนักแสดงนำในภาพยนตร์ของเขา โดยมีข้อแลกเปลี่ยน จนเป็นสาเหตุทำให้ Richard Attenborough (Harris Dickinson ) สามีของเธอ ไม่พอใจ เกิดการทะเลาะวิวาทชกต่อยกันในงานท่ามกลางแขกเหรื่อมากมาย

ขณะที่ Leo จึงเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องเปลี่ยนเสื้อหลังฉาก เขาก็ถูกใครบางคนตามเข้ามาฆ่าอย่างโหดเหี้ยม แล้วยังนำศพของเขาไปวางไว้กลางเวทีเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นอีกด้วย

นักสืบ Stoppard (Sam Rockwell) ถูกเรียกตัวมายังที่โรงละครที่เกิดเหตุฆาตกรรมพร้อมกับ Stalker (Saoirse Ronan ) ตำรวจสาวที่ชอบภาพยนตร์เป็นชีวิตจิตใจ เพื่อหาตัวคนร้ายที่เป็นคนลงมือก่อเหตุ ว่าเป็นฝีมือของคนในโรงละครที่มีความโกรธแค้นกับผู้ตาย หรือเป็นฝีมือของฆาตรกรต่อเนื่องที่ตำรวจกำลังตามล่าอยู่

ส่วนที่ชอบมากคือฉากสวย ทุกรายละเอียดองค์ประกอบศิลป์แสงสีดีงาม บางฉากราวกับหลุดมาจากงานของ Wes Anderson และการแสดงของ Sam Rockwell กับ Saoirse Ronan ที่เล่นได้เข้าขากัน ยิงมุขตลกหน้าตายกันได้อย่างบังเทิง เรียกเสียงหัวเราะได้ทุกครั้ง

แต่ความตลกก็ทำให้เรื่องนี้เป็นที่น่าจดจำมากกว่าพล็อตเรื่องที่ไม่ค่อยน่าประทับใจสักเท่าไหร่ แม้จะมีนักแสดงฝีมือดีหลายคนเข้ามาช่วยเสริมก็ตาม

ส่วนที่ไม่ค่อยชอบคือการใช้แฟลชแบ็คย้อนอดีตกลับไปเพื่อขยายเรื่องราวที่พยายามซ่อนไว้ ก็เลยรู้สึกว่าการเล่าเรื่องไม่ค่อยลื่นไหล

อีกทั้งยังมีการเปิดเผยฉากสุดท้ายโดยตัวละครในเรื่องเอง ทำให้พอถึงฉากที่ควรจะเป็นจุดหักมุมแบบเหนือคาด กลับกลายแค่เป็นภาพของเหตุการณ์ที่เคยได้ยินมาแล้ว

ส่วนตัวเข้าใจว่าเป็นความตั้งใจของผู้สร้างที่ต้องการทำภาพยนตร์สืบสวนแนวตลก แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะต้องเอาไปเปรียบเทียบซีรีส์โทรทัศน์ดีๆ ของ Agatha Christie หรือ ภาพยนตร์ออริจินัลอย่าง KNIVES OUT ของ Rian Johnson

SEE HOW THEY RUN เปิดฉายในสหราชอาณาจักร วันที่ 9 กันยายน 2022 และเข้าฉายในสหรัฐอเมริกา วันที่ 16 กันยายน