ปี 2063 หลังจากที่ทรัพยากรบนโลกกำลังจะหมดไป นักวิทยาศาสตร์ก็ค้นพบดาวเคราะห์ที่มนุษย์จะสามารถไปตั้งรกรากเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่การเดินทางต้องใช้เวลา 86 ปี จึงได้มีการสร้างยานอวกาศเพื่อส่งมนุษย์ นักวิทยาศาสตร์ได้คำนวณแล้วว่ามนุษย์รุ่นที่สามจะเป็นกลุ่มมนุษย์ที่จะเดินทางไปถึงดาวเป้าหมาย ระบบผสมพันธุ์บนยานอวกาศจะเพาะพันธุ์มนุษย์รุ่นต่อไปโดยอัตโนมัติทุกๆ 24 ปี เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

ลูกเรือกลุ่มแรกจำนวน 30 คน ถูกเพาะมาจากสารพันธุกรรมของมนุษย์ที่มีความสามารถชั้นเลิศ พวกเขาถูกเลี้ยงดูในสถาบันทดลอง เพื่อที่พวกเขาจะไม่รู้สึกคิดถึงธรรมชาติบนโลกมนุษย์ระหว่างการเดินทางที่ยาวนานในอวกาศที่เวิ้งว้าง

Dr. Richard Alling (Colin Farrell) เป็นผู้ดูแลและฝึกสอนเด็กกลุ่มแรกที่จะถูกส่งไปกับยานอวกาศ เขาตัดสินใจว่าจะเดินทางไปพร้อมกับเด็กๆ เพื่อคอยปกป้องดูแลพวกเขาจากภยันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง นอกจากนี้การที่เขาเดินทางไปพร้อมกับเด็กๆ ยังสามารถช่วยย่นระยะการปล่อยยานไปได้ถึง 3 ปี

10 ปีหลังจากที่ยานอวกาศ HUMANITAS ออกเดินทางมาจากโลก เหล่าเด็กก็เริ่มย่างเข้าสู่วัยรุ่น แต่ละคนมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบงานต่างๆ ในยาน วันหนึ่ง Christopher (Tye Sheridan) ค้นพบว่าน้ำสีน้ำเงินที่พวกเขาได้รับหลังอาหาร มีสารเคมีบางอย่างที่คอมพิวเตอร์ระบุเพียงรหัส T56j โดยไม่มีคำอธิบาย เขาจึงหาทางแฮ็กเข้าไปในระบบจนได้รู้ความจริงว่าเป็นมันคือสารสังเคราะห์ที่กดบุคลิกภาพให้เป็นคนว่านอนสอนง่าย กำจัดความรู้สึกและลดความต้องการทางเพศ — Christopher และ Zac (Fionn Whitehead) เพื่อนสนิทของเขาจึงตัดสินเลิกดื่มของเหลวสีน้ำเงินที่มีสารนี้ผสมอยู่ ทำให้พวกเขาได้สัมผัสกับอารมณ์และความต้องการเป็นครั้งแรกในชีวิต

หลังจากนั้นไม่นาน เด็กบางคนเริ่มได้ยินเสียงแปลกๆ จากภายนอกของยาน และมีคนคิดว่าอาจจะมีสิ่งมีชีวิตต่างดาวอยู่ด้านนอก แต่ก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อ Richard เกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิตขณะที่เขาที่กำลังพยายามซ่อมระบบสื่อสารของยาน ทำให้เด็กหลายคนเริ่มเชื่อว่าอาจจะมีสิ่งมีชีวิตต่างดาว ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ Richard ตาย อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้เกิดไฟไหม้จนระบบบันทึกกล้องวงจรปิดเสียหายทั้งหมด

Christopher ถูกเลือกให้เป็นหัวหน้าคนใหม่ ทำให้ Zac ไม่พอใจ เขาจึงบอกคนอื่นให้เลิกดื่มของเหลวสีน้ำเงินด้วย หลังจากนั้นทุกอย่างก็กลายเป็นความโกลาหล ทุกคนต่างละทิ้งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย แล้วทำตามใจตัวเอง ทำให้ฐานะหัวหน้าของ Christopher เริ่มสั่นคลอน

Zac ใช้โอกาสนี้พูดเรื่องมนุษย์ต่างดาวที่ซ่อนตัวอยู่ในยาน โดยที่ Christopher เป็นคนนำมันเข้ามาแล้วยังไม่คิดจะลงมือทำอะไร เด็กๆ ส่วนหนึ่งที่เห็นด้วยกับความคิดของ Zac จึงย้ายข้างไปติดตาม Zac แทน สถานการณ์ยิ่งบานปลายขึ้นเมื่อ Christopher ค้นพบหลักฐานว่าการตายของ Richard ไม่ใช่อุบัติเหตุหรือฝีมือมนุษย์ต่างดาว

ผลงานกำกับของ Neil Burger ที่เคยมีผลงานอย่าง The Illusionist (2006), Limitless (2011), และ Divergent (2014) เขากลับมาอีกครั้งกับภาพยนตร์ไซไฟทริลเลอร์ที่เขาเป็นคนเขียนบทเองด้วย

การวางโครงเรื่องทำได้น่าสนใจ การออกแบบฉากภายในยานอวกาศก็สวยมาก แต่น่าเสียดายที่บทไม่มีความแปลกใหม่ เนื้อเรื่องช่วงกลางมีความคล้ายกับ Lord of the Flies แต่เพิ่มความโหดขึ้นอีกนิด เพราะในอวกาศมันไม่มีความหวังว่าจะมีใครมาช่วย ไม่เหมือนการติดเกาะบนโลกมนุษย์ที่ยังพอมีหวังอยู่บ้าง ตอนจบง่ายก็ไปหน่อย คือคาดเดาได้อยู่แล้วว่าจะต้องจบแบบนี้ แต่ก็แอบหวังว่าจะมีฉากที่หักมุมให้สมกับเป็นไซไฟทริลเลอร์

VOYAGERS มีกำหนดฉายวันที่ 25 พฤศจิกายน 2020 ในสหรัฐอเมริกา แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 การฉายในโรงภาพยนตร์จึงถูกเลื่อนไปเป็นวันที่ 8 เมษายน 2021 และปล่อยให้เช่าแบบ Video On Demand ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2021 ส่วนประเทศไทย VOYAGERS หรือชื่อภาษาไทย “คนอนาคตโลก” มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 2 ธันวาคม 2021

VOYAGERS มีกำหนดวางจำหน่ายในรูปแบบ Blu-ray และ DVD วันที่ 8 มิถุนายน 2021