ภาพยนตร์ที่สร้างจากหนังสือนิยาย The WITCHES ผลงานของ Roald Dahl นักเขียนชาวอังกฤษ ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1983 โดย Jonathan Cape และ Quentin Blake เป็นผู้วาดภาพประกอบ หนังสือเล่มนี้เคยถูกนำมาทำเป็นภาพยนคร์แล้วเมื่อปี 1990 กำกับโดย Nicolas Roeg และมี Anjelica Huston เป็นนักแสดงนำ

เปิดเรื่องมาด้วยการเล่าเรื่องโดยตัวเอก (Chris Rock) ตั้งแต่สมัยที่เขายังเด็ก (Jahzir Bruno) ได้รับอุบัติเหตุทางรถยนตร์ในปี 1960 จนสูญเสียพ่อและแม่ไป

เขาจึงต้องย้ายไปอยู่กับคุณยาย (Octavia Spencer) ที่บ้านของเธอใน Demopolis, Alabama คุณยายค่อยๆ เปิดใจที่เศร้าหมองของเขาจนเขาสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ความสุขของเขาก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อเขาได้พบกับแม่มดที่หมายตาเขาไว้

แม่มดใช้ขนมในการหลอกล่อเด็กๆ เมื่อเด็กติดกับและทานขนมที่แม่มดมอบให้ เด็กก็จะกลายร่างเป็นสัตว์ แม่มดมักจะหมายตาเด็กที่ยากจน ไม่มีใครใส่ใจเมื่อเด็กพวกนั้นหายตัวไป คุณยายจึงรีบพาเขาออกจากบ้านเพื่อไปพักที่โรงแรม Grand Orleans Imperial Island โรงแรมซึ่งมีแต่ชนผิวขาวร่ำรวยไปพัก คุณยายคิดว่าน่าเป็นที่ที่เหมาะสมในการซ่อนตัวหลานของเธอจากแม่มด

แต่ที่คุณยายยังไม่รู้ก็คือ กลุ่มแม่มดได้เลือกโรงแรมแห่งนี้เป็นที่ประชุมของพวกเธอ นำโดย Grand High Witch (Anne Hathaway)

วันถัดมา เหล่าแม่มดก็เข้าประชุมที่ห้องบอลรูมของโรงแรม ตัวเอกของเรื่องซึ่งแอบเข้ามาเพื่อฝึกหนูของเขาต้องเข้าไปซ่อนตัวอยู่ใต้เวที ทำให้เขาได้เห็นร่างจริงของแม่มดรวมถึง Grand High Witch และแผนการกำจัดเด็กๆ ด้วยการเปิดร้านขายขนมหวานที่ผสมสูตรยาหมายเลข 86 ชื่อ Delayed Action Mouse Maker เพียงหนึ่งหยดก็สามารถเปลี่ยนเด็กให้กลายร่างเป็นหนูได้ภายใน 1 ชั่วโมง

ตัวเอกและเพื่อนของเขา รวมถึงคุณยาย จึงต้องคิดแผนการที่จะหยุดยั้งเหล่าแม่มด ไม่ให้ไปทำร้ายเด็กๆ ทั่วโลก

THE WITCHES ปี 2020 ผลงานกำกับของ Robert Zemeckis (Back to the Future, Death Becomes Her, Forrest Gump, The Polar Express, A Christmas Carol) ที่ทำออกได้บันเทิงสมเป็นภาพยนตร์สำหรับเด็กและครอบครัว มีมุกตลกที่แทรกเข้ามาได้อย่างลงตัว การใช้ CGI สร้างหนูที่ดูเป็นธรรมชาติ ติดนิดหน่อยที่ตัวเอกมันดูผิดธรรมชาติของหนูไปหน่อย แต่มุมกล้องทำออกมาได้ยอดเยี่ยม เป็นมุมกล้องที่ไม่สามารถทำได้ในสมัยปี 1990 อย่างแน่นอน

Anne Hathaway ในบท Grand High Witch ก็ทำออกมาได้ดี น่าจะถูกใจแฟนหนังสือ มีการแสดงอิทธิฤทธิ์ลอยตัวกลางอากาศ ยืดแขนได้ยาวราวกับแม่นากพระโขนง ฉีกปากได้เกือบถึงหู แต่ CGI ปากฉีกยังดูไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่นัก ในตอนที่เธอฉีกปากจะเห็นว่าฟันของเธอกลายเป็นฟันแหลมๆ แต่ฉากถัดมาฟันของเธอก็กลับเป็นฟันแบบมนุษย์ปกติ ซึ่งในหนังสือ Grand High Witch คือแม่มดที่สวมหน้ากากมนุษย์แบบเดียวกับในภาพยนตร์ปี 1990

ชอบการกลับมาพบกันอีกครั้งของ Anne Hathaway และ Stanley Tucci (รับบทเป็นผู้จัดการโรงแรม) หลังจาก THE DEVIL WEARS PRADA

THE WITCHES ฉบับปี 1990 ทำออกมาได้ดีจนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์สำหรับเด็กที่สยองที่สุดเคยมีการสร้างมา ส่วนที่น่าประทับใจที่สุดน่าจะเป็นการใช้หุ่นและสเปเขียลเอฟเฟคที่สมจริง เนื่องจากมี Jim Henson นั่งแท่นผู้อำนวยการสร้าง โดยเฉพาะฉากเปิดเผยร่างที่แท้จริงของ Grand High Witch (Anjelica Hutson) ที่ยังสร้างความตราตรึงมาจนถึงปัจจุบัน ในขณะที่ฉบับปี 2020 เน้นการใช้ CGI แต่ยังก็ไม่สามารถเทียบความสยองของ Grand High Witch ฉบับปี 1990 ได้

ในหนังสือ คุณยายของตัวเอกเป็น Witch Hunter หรือนักล่าแม่มดที่ได้มีการต่อสู้กับแม่มดจนสูญเสียนิ้วไป ส่วนภาพยนตร์ปี 2020 นอกจากจะเปลี่ยนบทคุณยายที่ควรจะเป็นชาวนอร์เวย์มาเป็นหญิงชาวอเมริกันแล้ว เธอยังเป็นแค่หมอผสมยาที่ในสมัยเด็ก เธอเคยเจอกับ Grand High Witch และหนีรอดมาได้

อย่างไรก็ตาม ในตอนจบของหนังสือผู้บรรยายไม่สามารถกลับคืนร่างเป็นมนุษย์ได้ตลอดชีวิต ช่วงชีวิตของเขาก็มีเพียงเท่ากับหนูจริงๆ เท่านั้น ขณะที่ฉบับภาพยนตร์ปี 1990 ตัวเอกของเรื่องได้รับการแปลงร่างกลับเป็นมนุษย์อีกครั้ง ด้วยพลังของแม่มดใจดีที่ไม่เห็นด้วยกับแผนการของ Grand High Witch ซึ่งการเปลี่ยนแปลงตอนจบนี้ สร้างความไม่พอใจในหมู่แฟนหนังสือ รวมถึงตัว Roald Dahl ผู้เขียนเองด้วย ที่ไม่ชอบตอนจบของภาพยนตร์ปี 1990 อย่างมาก จนต้องการที่จะถอนชื่อของเขาออกจากการมีส่วนร่วมในภาพยนตร์เรื่องนี้

ฉบับปี 2020 เดินเรื่องตอนจบแบบเดียวกับในหนังสือ นั่นก็คือตัวเอกของเรื่องยังคงสภาพเป็นหนู และเพิ่มบทให้เขากลายเป็นผู้ฝึกสอนกลุ่มเด็กเพื่อเดรียมจัดการกับแม่มด แต่ดันยัดเพลง We Are Family เข้ามา กลายเป็นความบันเทิงซะงั้น ซึ่งในหนังสือจะกล่าวถึงผู้บรรยายและคุณยายของเขาเดินทางไปกำจัดแม่มดในประเทศนอร์เวย์

ส่วนตัวแล้วยังคงชอบภาพยนตร์ปี 1990 มากกว่า Anjelica Huston เล่นเป็น Grand High Witch ได้อย่างยอดเยี่ยมโดยไม่ต้องใช้สำเนียงประหลาดเลย การเดินเรื่องก็ค่อนข้างใกล้เคียงกับหนังสือ จะติดก็แค่ตอนจบมันดันเป็น happy ending เท่านั้น ทั้งที่ตอนจบมันควรจะมืดมนแบบในหนังสือ