THE VAST OF NIGHT
2019 | Andrew Patterson
เหตุการณ์เริ่มขึ้นในปี 1958 ในเมือง Cayuga (New Mexico) คืนหนึ่งที่ชาวเมืองมารวมตัวชมการแข่งขันบาสเก็ตบอล Everett (Jake Horowitz) ดีเจของสถานีวิทยุ WOTW เข้ามาช่วยดูการเทปบันทึกเสียงการแข่งขัน เพื่อที่เขาจะได้ใช้ออกอากาศในวันถัดไป
Fay (Sierra McCormick) เพื่อนของ Everett ซึ่งทำงานเป็นพนักงานสวิชบอร์ดโทรศัพท์ของเมือง มาพบกับเขาเพื่อให้เขาช่วยดูเครื่องบันทึกเสียงที่เธอเพิ่งได้มา Everett จึงเดินคุยกับเธอไปเรื่อยๆ โดยหลังจากที่ Fay ถึงที่ทำงานของเธอ Everett ก็แยกตัวไปทำงานที่สถานีวิทยุของเขา
ระหว่างที่ Fay ทำงานอยู่ ก็มีเหตุการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้น เสียงวิทยุที่กำลังออกอากาศอยู่เกิดมีสัญญาณรบกวนจนเสียงหายไป มีใครบางคนโทรเข้ามาที่ศูนย์แต่ปลายสายไม่มีเสียงคนพูด เธอได้ยินแต่เสียงคลื่นสัญญาณแปลกๆ และดูเหมือนจะไม่มีใครอธิบายได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอพยายามโทรติดต่อคนอื่น แต่สายก็ถูกตัดไปทุกครั้ง เธอจึงโทรหา Everett พร้อมกับเล่าเรื่องคลื่นเสียงรบกวนประหลาดให้เขาฟัง Everett เปิดเทปบันทึกเสียงที่เขาเพิ่งออกอากาศและก็พบว่าคลื่นเสียงรบกวนนั้นถูกบันทึกไว้ด้วย
Everett ตัดสินในนำเสียงสัญญาณประหลาดออกอากาศทางสถานทีวิทยุ หวังว่าผู้ฟังบางคนอาจจะเคยได้ยินเสียงนี้ และก็มีผู้ฟังโทรเข้ามาบอกว่าเขาชื่อ Billy เขาเล่าว่าตัวเขาเคยทำงานเป็นทหารที่ถูกส่งตัวโดยเครื่องบิน เพื่อไปสร้างฐานลับใต้ดินซึ่งอยู่ในทะเลทรายที่ใช้ซ่อนวัตถุขนาดมหึมาไว้ภายใน เขาจำได้ว่าขณะที่เขาถูกส่งตัวกลับมาทางเครื่องบิน เขาได้ยินเสียงคลื่นสัญญาณแบบเดียวกับที่ Everett ออกอากาศ และหลังจากนั้นไม่นานเขาพบว่าปอดของเขามีอาการผิดปกติ นอกจากนี้เขายังได้คุยกับเพื่อนทหารที่ถูกส่งตัวไปทำงานแบบเดียวกับเขาแต่เป็นสถานที่อื่นอีก เขาเชื่อว่าเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงคลื่นเพื่อการสื่อสารบางอย่างอย่าง และเขายังตรวจสอบได้ว่าในบางครั้งคลื่นถูกส่งมาจากระดับที่เครื่องบินของมนุษย์จะขึ้นไปได้
หลังจากนั้นก็มีสายจากผู้หญิงชื่อ Mabel โทรมาแจ้งว่า เธอรู้ว่าเสียงนั้นคืออะไร แต่เธอไม่สะดวกที่จะพูดออกอากาศ เธอขอให้ Everett มาพบกับเธอที่บ้านแล้วเธอจะเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ฟัง
ส่วนที่ชอบคือเทคนิคการถ่ายภาพและการเล่าเรื่องทำได้ลื่นไหล บทสนทนาของตัวละครหลักทั้งสองคนในเรื่องทำออกมาได้น่าสนใจ และการแสดงของทั้งสองคนก็รับส่งกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนเราได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์กับพวกเขา ที่เรื่องค่อยๆ คลี่คลายออกมา — ทีมโปรดักชั่นก็เก็บรายละเอียดยุค 1950s ออกมาได้ดีมาก ชอบฉาก long take ชอบตอนที่ Fay คุยกับ Everett เกี่ยวกับนิตยสารวิทยาศาสตร์ที่เขียนเรื่องโลกในอนาคตว่าน่าจะมีนวัตกรรมอะไรบ้าง คือถ้าเราได้ดูในยุคนั้นมันก็คงตื่นเต้นแหละ แต่ยุคอนาคตที่พูดถึงในเรื่องมันคือยุคปัจจุบันของเรา มันจึงรู้สึกคล้ายกำลังดู Twilight Zone ไปหน่อย
บทก็เขียนออกมาได้น่าติดตาม แต่ไม่ค่อยตื่นเต้น ถ้าเทียบกับภาพยนตร์ Sci-Fi ที่คุยกันทั้งเรื่องอย่าง The Man from Earth (2007) แล้ว The Vast of Night ก็ยังด้อยกว่าพอสมควร
ส่วนตัวไม่ค่อยชอบตอนจบ เพราะมันแทบจะไม่มีจุดหักมุมอะไรเลย ทุกอย่างเดินเรื่องไปตามความคาดหมายทุกอย่าง ถ้าเป็นคนดูภาพยนตร์แนว Sci-Fi/Alien มาพอสมควร เรื่องนี้ก็เรียกได้ว่าไม่มีความแปลกใหม่