Latest

THE POPE’S EXORCIST

3000 1688 PRADT
3-MINUTE READ

THE POPE’S EXORCIST

Julius Avery
(2023)

★★☆☆☆
 

ภาพยนตร์สยองขวัญเหนือธรรมชาติ ดัดแปลงจากหนังสือของหลวงพ่อ Gabriele Amorth (1925 – 2016) นักบวช/ผู้ทำพิธีขับไล่ภูติผีปิศาจ ในคริสตจักรโรมันคาทอลิกแห่ง Diocesi di Roma ประเทศอิตาลี หนึ่งใน 6 ผู้ก่อตั้ง Associazione internazionale degli esorcisti (International Association of Exorcists) ในปี 1990 ซึ่งได้รับการรับรองโดยคริสตจักรโรมันคาทอลิกในปี 2014

บทภาพยนตร์ได้รับการดัดแปลงจากหนังสือ 2 เล่มคือ Un esorcista racconta ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1990 และ Nuovi racconti di un esorcista ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1992 ซึ่งต่อมาได้รับการแปลเป็นฉบับภาษาอังกฤษ An Exorcist Tells His Story โดย Nicoletta V. Mackenzie ในปี 1999 และ An Exorcist: More Stories ในปี 2002

ปี 1987 บาทหลวงชื่อ Gabriele Amorth (Russell Crowe) ผู้ทำพิธีขับไล่ภูติผีปิศาจส่วนตัวของสมเด็จพระสันตะปาปา เดินทางไปตรวจสอบชายที่ถูกวิญญาณร้ายครอบงำที่หมูบ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งใน Reggio di Calabria ประเทศอิตาลี เขาไล่ผีด้วย Medaglia di San Benedetto (เหรียญตราศักดิ์สิทธิ์ของนักบุญเบเนดิกต์) หลอกล่อวิญญาณร้ายให้ย้ายไปสิงในหมู ก่อนจะฆ่าหมูทิ้งทันที เพื่อกำจัดวิญญาณร้าย

การปราบผีครั้งนั้นส่งผลให้เขาถูกคริสตจักรตั้งคณะไต่สวน เนื่องจากเขาทำพิธีขับไล่ผีโดยไม่ได้รับอนุมัติจากพระสังฆราช ซึ่งถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฏ แต่ Gabriele อ้างว่าเขาไม่ได้ประกอบพิธีกรรมไล่ผี สิ่งที่เขาทำไปคือการแสดงเท่านั้น เนื่องจากเขามั่นใจว่าชายหนุ่มมีความผิดปกติทางจิตคิดว่าตัวเองถูกผีสิง เขาจึงต้องแสดงละครเล่นตามน้ำไปเท่านั้น และความจริงก็คือตั้งแต่เขารับงานไล่ผีมาเป็นจำนวนมาก มีเพียง 2% เท่านั้น ที่เขาพบว่าเป็นฝีมือของปิศาจร้าย (ที่เชื่อกันว่าเป็นอดีตเทวดาซึ่งถูกพระเจ้าขับไล่ลงมาจากสวรรค์) ส่วน 98% ที่เหลือเป็นเพียงผู้ป่วย ที่ต้องการความช่วยเหลือจากแพทย์แผนปัจุบัน หรือจิตแพทย์

Gabriele ได้รับมอบหมายให้ไปตรวจสอบเด็กผู้ชายที่เชื่อว่าถูกปิศาจเข้าสิง หลังจากครอบครัวของเขาย้ายเข้ามาพักที่โบสถ์ San Sebastián ใน Castilla y León ประเทศสเปน ซึ่งได้รับสืบทอดต่อกันมาจากตระกูลฝั่งพ่อ

จุดนี้มีความตลกที่คิดว่าเป็นความตั้งใจของผู้สร้างที่ต้องการให้บาทหลวง Gabriele รูปร่างอ้วนขี่สกู๊ตเตอร์ยี่ห้อ Lambretta รุ่น Li 150 (จำหน่ายในช่วงปี 1963–1966) สกู๊ตเตอร์ที่ผลิตโดยบริษัท Innocenti เปิดตัวครั้งแรกในปี 1947 และ Lambretta ยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในยี่ห้อสกู๊ตเตอร์ที่ดีที่สุดของประเทศอิตาลี (นอกจาก Lambretta ก็ยังมียี่ห้อ Piaggio, Vespa, Italjet, Benelli, Garelli, Cimatti, Gilera และ Aprilia) — ผู้ชมจะเห็นว่าบาทหลวงขี่สกู๊ตเตอร์คันเดียวกับที่เขาใช้ในโรม ประเทศอิตาลี มาแคว้นกัสติยา ประเทศสเปน ซึ่งอยู่ห่างกันมากกว่า 1,700 กิโลเมตร (แน่นอนว่าไม่มีหลักฐานยืนยันเรื่อง Gabriele Amorth บาทหลวงตัวจริงขี่สกู๊ตเตอร์ไปปราบผี)

Gabriele ตรวจสอบ Henry (Peter DeSouza-Feighoney) จนสามารถยืนยันได้ว่า Henry ถูกปิศาจเข้าสิงจริง แต่เขาต้องสืบว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของปิศาจตนนี้คืออะไร เขาใช้ลูกเล่นต่างๆ เพื่อหลอกล่อให้ปิศาจยอมเปิดเผยชื่อของมัน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เขาจึงต้องพยายามค้นหาหนทางอื่นเพื่อจะขับไล่ปิศาจปริศนาตนนี้ ก่อนที่มันจะสังหารทุกคนในครอบครัว

น่าเสียดายที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่สามารถนำเสนอความแปลกใหม่ หรือความสยองขวัญน่าสะพรึงระดับเดียวกับ SAINT MAUD — มีแค่ฉากเปิดเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นฉากที่น่าจดจำ และมีความเป็นเอกลักษณ์ แต่พอเข้าเรื่องภูติผีปิศาจกลับแทบไม่มีความน่ากลัวเลย คนในครอบครัวก็ไม่มีใครตาย

ปิศาจมีการนอนหลับ หรือหยุดรอให้ตัวเอกค้นพบอะไรบางอย่าง ก่อนจะตื่นขึ้นมาเพื่อทรมานเหยื่อต่อ วนลูปไปเรื่อยๆ (จะบ้าหรอ!) นี่ยังไม่พูดถึงการสื่อสารทางจิตของสมเด็จพระสันตะปาปาที่อยู่ห่างกันคนละประเทศ แต่รู้ว่าบาทหลวงกำลังตกอยู่ในอันตราย (เลือดพุ่งออกจากปาก มันหมายความว่าอะไร!)

ขอมอบ 2 ดาวให้กับการออกแบบฉากที่สวยงาม และการแสดงของลุง Russell Crowe ที่พูดภาษาอิตาเลียนสำเนียงแปลกๆ (ในเรื่องนี้ลุงพูดทั้งภาษาอิตาเลียนและภาษาอังกฤษ) แต่ก็เป็นส่วนช่วยให้บทบาทของนักบวชชาวอิตาเลียนดูสมจริงมากขึ้น

ส่วนบทที่อ้างว่าดัดแปลงมาจากหนังสือก็ค่อนข้างแย่ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเรื่อง มันเคยมีคนทำมาหมดแล้ว เด็กที่ถูกปิศาจเข้าสิงพูดด้วยลักษณะท่าทางเหมีอนกอลลัม จาก Lord of the Rings, ฉากกระเด้งตัวปีนป่ายผนัง, ฉากศีรษะหมุน 180 องศา ฯลฯ

ตอนแรกคิดว่ามันอาจจะเป็นที่ต้นฉบับหนังสือ จนเกิดความสงสัย ต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติม และพบว่าครอบครัวในเรื่องก็ไม่ได้หยิบมาจากหนังสือ แต่เป็นสิ่งที่ถูกเนรมิตขึ้นมาทั้งหมด นั่งเทียนเขียนจากจินตนาการ หรือลอกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ สรุปว่าหยิบมาแค่ชื่อตัวเอก เพราะ Gabriele Amorth เป็นบาทหลวงนักปราบผีที่ได้รับการรับรองโดยคริสตจักรโรมันคาทอลิก

มุขเดียวที่ทำให้เราขำ คือตอนที่ Gabriele ถูกถามว่าต้องการน้ำตาลสำหรับใส่กาแฟดับเบิลเอสเพรสโซ่ไหม แล้วลุงตอบว่า Lo zucchero è opera del diavolo (น้ำตาลคือผลงานของปิศาจ)

ตอนจบมีการหยอดทิ้งท้ายว่ามันจะมีภาคต่อ เพราะยังมีเทวดาตกสวรรค์อีก 199 องค์ ตามความเชื่อในพระคัมภีร์เอโนค (Book of Enoch) กลายเป็นทีมนักบวชไล่ล่าปิศาจ! Constantine ช่วยด้วย

THE POPE’S EXORCIST เข้าฉายในประเทศอิตาลี วันที่ 13 เมษายน 2023 ด้วยชื่อ “L’ESORCISTA DEL PAPA” ก่อนจะเข้าฉายในสหรัฐอเมริกา วันที่ 14 เมษายน ส่วนในประเทศไทย เข้าฉายตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน ด้วยชื่อ “โป๊บปราบผี”

REPORT / REQUEST
REPORT / REQUEST