ผู้คนในแถบอีสานยังคงเชื่อเรื่องผีสาง โดยเรียกทุกอย่างที่อยู่เหนือธรรมชาติว่าผี ไม่ใช่เพียงแค่วิญญาณของผู้ที่ตายไปแล้วเท่านั้น แต่มีผีอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ป่า ภูเขา ต้นไม้ หรือไร่นา

ในปี 2018 ทีมงานถ่ายทำสารคดีเดินไปทั่วประเทศไทยเพื่อสัมภาษณ์ผู้ที่เป็นร่างทรง ได้ตัดสินใจตามติดชีวิตของป้านิ่ม (เสาวนีย์ อุทุมมา) ร่างทรง “ย่าบาหยัน” เธอเชื่อว่า ย่าบาหยัน เป็นผีบรรพบุรุษซึ่งเป็นผีฝ่ายดีที่คอยคุ้มครองหมู่บ้านแถบนี้มานานมาก แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานหรือประวัติว่าย่าบาหยันเป็นใครมาจากไหน แต่ย่าบาหยันก็เป็นสิ่งที่ผู้คนต่างนับถือสืบต่อกันมา

ตระกูลของป้านิ่มเป็นร่างทรงของย่าบาหยันมาหลายชั่วอายุคน ตั้งแต่เกิดมาป้านิ่มก็พบว่าคุณยายของเธอเป็นร่างทรงของย่าบาหยันแล้ว ย่าบาหยันจะเลือกเฉพาะผู้หญิงให้มาเป็นร่างทรง โดยทุกปีก็จะมีการทำพิธีใหญ่โตเพื่อทำนายทายทักอนาคตของหมู่บ้าน หลังจากที่คุณยายเสีย ย่าบาหยันก็เลือกน้าสาวของป้านิ่มเป็นร่างทรงคนต่อไป และหลังจากที่น้าเสีย ย่าบาหยันก็เลือกน้อย พี่สาวของป้านิ่ม แต่น้อยไม่ต้องการเป็นร่างทรง ทำให้ย่าบาหยันย้ายเข้าร่างของป้านิ่ม ซึ่งในตอนแรกเธอก็ไม่ได้ต้องการเป็นร่างทรง แต่เกิดอาการเจ็บป่วยทรมาน จนเธอยอมรับย่าบาหยันเข้ามาในร่าง ทำให้เธอหายจากอาการเจ็บป่วยทั้งมวล

ป้านิ่มจึงต้องทำหน้าที่เป็นร่างทรง คอยช่วยเหลือผู้คน ในแต่ละวันก็จะมีชาวบ้านที่เจ็บป่วยเดินทางมาให้เธอช่วยใช้พลังของย่าบาหยันรักษา บ้างก็มาเพื่อขอพร แก้บน แก้กรรม ต่างๆ เธอเชื่อว่าเธอสามารถรักษาอาการที่เกิดจากสิ่งลี้ลับ อาทิ คุณไสย หรือผีไร่ผีนา

วันหนึ่งป้านิ่มต้องเดินทางไปงานศพของวิโรจน์ ยะสันเทียะ สามีของน้อย (ศิราณี ญาณกิตติกานต์) พี่สาวของเธอ ป้านิ่มเล่าว่าผู้ชายในตระกูลยะสันเทียะมักจะตายไม่ดี ปู่ของวิโรจน์ก็ถูกคนงานปาก้อนหินใส่จนเสียชีวิต พ่อของวิโรจน์ทำโรงงานเจ๊งจึงคิดเผาโรงงานเพื่อเอาประกัน แต่ถูกจับได้ก็เลยกินยาฆ่าตัวตาย ลูกชายคนโตของวิโรจน์ก็ประสบอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์คว่ำตายเมื่อหลายปีก่อน ทำให้ตอนนี้ครอบครัวของน้อยเหลือเพียงเธอกับมิ้ง (นริลญา กุลมงคลเพชร) ลูกสาว แค่สองคนเท่านั้น

ป้านิ่มเริ่มสังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกๆ ของมิ้ง แต่เธอก็ยังไม่มั่นใจว่ามันคืออะไร ทีมงานถ่ายสารคดีคิดว่านี่อาจจะเป็นการเปลี่ยนผ่านร่างทรง ทีมงานจึงตัดสินใจติดตามถ่ายชีวิตของมิ้งด้วยอีกคน แต่เมื่อเวลาผ่านไปพฤติกรรมก้าวร้าวของมิ้งก็เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น สภาพร่างกายของมิ้งก็มีลักษณะคล้ายกับช่วงเวลาก่อนที่ย่าบาหยันจะย้ายเข้าร่างของน้อยและนิ่ม แต่น้อยปฏิเสธที่จะให้ลูกสาวของเธอเข้าพิธีรับเป็นร่างทรงของย่าบาหยัน

ป้านิ่มเชื่อว่าย่าบาหยันไม่ได้เป็นผู้ที่ทำให้มิ้งมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ป้านิ่มจึงต้องทำพิธีเพื่อช่วยมิ้ง แต่กว่าที่เธอจะค้นพบความจริง ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะสายเกินไปแล้ว

ปกติไม่ค่อยชอบภาพยนตร์ที่ใช้เทคนิค found footage หรือบันทึกฟิล์มที่ถูกพบหลังจากเหตุการณ์ในเรื่องผ่านไปหมดแล้ว เรื่องที่ดังๆ อย่าง THE BLAIR WITCH PROJECT, CLOVERFIELD, หรือ PARANORMAL ACTIVITY ก็ไม่รู้สึกว่ามันพิเศษยังไง เทคนิคกล้องสั่นๆ ไม่ใช่เทคนิคที่ใช้แล้วเวิร์คทุกครั้ง เท่าที่เคยดูมามีเรื่องเดียวที่รู้สึกว่าชอบคือ [•REC]

ร่างทรง (THE MEDIUM / 랑종) ใช้เทคนิคนี้ถ่ายทอดเรื่องราวที่เหมือนสารคดีได้อย่างลงตัว มีการตัดสลับฉากสัมภาษณ์ตัวละครเหมือนกับพวกเขาเป็นชาวบ้านจริงๆ ชอบความฟุตเทจซ้อนฟุตเทจ คือนอกจากที่เราจะได้ดูภาพวิดีโอที่ทีมงานสารคดีถ่ายไว้แล้ว เรายังได้เห็นภาพวิดีโอที่ทีมงานเปิดให้ตัวละครในเรื่องดู และยังมีภาพวีดีโอจากกล้องวงจรปิดที่ทีมงานได้เห็นพร้อมกับผู้ชม

ชอบมุมกล้องที่สร้างบรรยากาศอึดอัดกับปมที่คลี่คลายออกมาอย่างได้จังหวะ แม้ว่าจะรู้สึกอืดไปหน่อยกับความยาว 122 นาที ถ้าสามารถตัดต่อให้สั้นลงกว่านี้สัก 15-20 นาที อาจจะดีกว่านี้

นักแสดงทุกคนเล่นได้สมบทบาท ส่วนที่ชอบมากคือการเล่าเรื่องที่ทำให้ผู้ชมคิดว่าป้านิ่มคือตัวเอกของเรื่อง เป็นแม่พระที่จะมาหยุดยั้งความชั่วร้าย นับว่าเป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่มีการหักมุมได้อย่างร้ายกาจ บทสรุปตอนจบทำได้โหดดีมาก

ร่างทรง (THE MEDIUM / 랑종) ฉายรอบปฐมทัศน์ที่งาน 부천국제판타스틱영화제 (Bucheon International Fantastic Film Festival) วันที่ 11 กรกฎาคม 2021 และออกฉายโรงภาพยนตร์ในประเทศเกาหลีใต้วันที่ 14 กรกฎาคม 2021 มีผู้เข้าชมในวันแรกมากกว่า 129,000 คน

Shudder ได้ลิขสิทธิ์ภาพยนตร์เรื่องนี้สำหรับสตรีมมิงในสหรัฐอเมริกา และปล่อยให้สมาชิกชมได้ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2021 — ส่วนประเทศไทยมีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 28 ตุลาคม 2021