Latest

THE LAST VERMEER

Dan Friedkin

THE LAST VERMEER

2000 1800 PRADT
3 MINUTE READ

THE LAST VERMEER

Dan Friedkin
(2020)

★★★½☆
 

ภาพยนตร์ดัดแปลงจากหนังสือ The Man Who Made Vermeers: Unvarnishing the Legend of Master Forger Han van Meegeren ตีพิมพ์ครั้งแรกปี 2008 ผลงานของ Jonathan Lopez นักเขียน/นักวิชาการประวัติศาสตร์ศิลปะชาวอเมริกัน ที่มีงานเขียนลงใน Art & Antiques, Apollo: The International Magazine of the Arts, ARTnews, the Associated Press, U.S. News & World Report, The Boston Globe, The International Herald Tribune รวมถึง De Groene Amsterdammer

หนังสือ The Man Who Made Vermeers เป็นประวัติของ Han van Meegeren หนึ่งในนักปลอมแปลงงานศิลปะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ที่ Jonathan Lopez เขียนขึ้นจากการศึกษาข้อมูลและค้นคว้าจากบันทึกเอกสารจำนวนมาก

เนื้อเรื่องเริ่มต้นวันที่ 29 พฤษภาคม 1945 หลังจากระบอบเผด็จการของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ล่มสลายลง กัปตัน Joseph Piller (Claes Bang) ได้รับมอบหมายให้สืบค้นหาของมีค่าต่างๆ ที่ถูกขโมยหรือถูกขายให้กับนาซี ทีมของเขาได้พบคอลเลกชันลับของ Hermann Göring หนึ่งในนักการเมืองและผู้นำทางการทหารที่อำนาจสูงสุดของพรรคนาซีในช่วงปี 1933 ถึง 1945

คลังคอลเลกชันลับของ Hermann Göring อยู่ในตู้รถรางที่ซ่อนอยู่ในเหมืองเกลือร้างในออสเตรีย ภายในมีงานศิลปะที่นาซีขโมยมาจำนวนมากกว่า 6,500 ชิ้น และหนึ่งในนั้นคือภาพวาด Christ and the Adulteress พร้อมกับจดหมายฉบับหนึ่งแนบอยู่

Joseph จึงไปสอบถามกับผู้ที่รับรองว่าเป็นผลงานของ Johannes Vermeer จนได้ชื่อ Han van Meegeren (Guy Pearce) ผู้ที่ขายภาพนี้ให้กับ Hermann Göring ด้วยราคามากกว่า 1.5 ล้านกิลเดอร์ ทำให้ Joseph เชิญ Han van Meegeren ไปสอบปากคำถึงที่มาของภาพ Christ and the Adulteress ว่าเป็นของที่ถูกขโมยมาจากครอบครัวชาวยิวในช่วงที่นาซีรุ่งเรืองหรือไม่ แต่ Han van Meegeren ไม่ยอมบอกว่าเขาได้ภาพนี้มาอย่างไร แม้ว่าการขายภาพซึ่งถือเป็นสมบัติของชาติให้กับนาซีเพื่อผลประโยขน์ส่วนตนจะมีโทษถึงประหารชีวิตก็ตาม

ระหว่างการสอบสวน Alex De Klerks (August Diehl) จากกระทรวงยุติธรรม ต้องการตัว Han van Meegeren เนื่องจากเขาเชื่อว่า Han van Meegeren ใช้เงินที่ได้จากการขายงานศิลปะสนับสนุนกลุ่ม Abwehr หน่วยสปายที่ทำงานให้กับ Reichswehr และ Wehrmacht นอกจากนี้ยังช่วยฟอกเงินให้กับนาซี Joseph จึงตัดสินใจพา Han van Meegeren หนีออกจากคุก และนำไปซ่อนตัวที่ Goudstikker Art Gallery ในอัมสเตอร์ดัม

Han van Meegeren เชื่อว่านักวิจารณ์ศิลปะที่ตั้งตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญ เป็นคนที่คอยชี้นำผู้คนว่างานชิ้นไหนไร้ค่า งานชิ้นไหนมีคุณค่า สร้างมูลค่าให้กับงานศิลปะชิ้นนั้นๆ พ่อค้าร่ำรวยต่างก็อยากเป็นเจ้าของงานศิลปะที่ทรงคุณค่า ซึ่งจะช่วยให้พวกเขากลายเป็นชนชั้นสูงที่เข้าใจวัฒนธรรมและงานศิลป์ พิพิธภัณฑ์ต่างก็แย่งชิงงานศิลปะดังๆ มาไว้ในพิพิธภัณฑ์ของตัวเอง ทำให้คุณค่าของงานศิลปะนั้นกลายเป็นตำนานที่ผู้คนอยากจะชื่นชม

Han van Meegeren ขอให้ Joseph ตามหา Theo Wijngaarden ผู้ร่วมงานของเขาที่จะมาตอบคำถามที่ Joseph ต้องการแต่ทว่าไม่มีใครหาตัวเขาเจอ Han van Meegeren จึงบอกให้ไปถาม Dirk Hannema (Adrian Scarborough) นักวิจารณ์งานศิลปะและผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ Boijmans Van Beuningen ในรอตเทอร์ดาม

ท้ายที่สุดคนจากกระทรวงยุติธรรมก็เข้ามาชิงตัว Han van Meegeren ไปได้ เขาถูกนำตัวไปขึ้นศาลในข้อหาขายสมบัติของชาติดัตช์ให้กับนาซีเพื่อสร้างความร่ำรวยให้กับตัวอง และให้ความช่วยเหลือนาซีในช่วงที่นาซีครอบครองประเทศ Joseph จึงต้องหาหลักฐานและพยานเพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริง

ผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของ Dan Friedkin ที่ทำออกมาได้น่าติดตาม แม้ว่าช่วงกลางเรื่องจะเอื่อยไปหน่อย กับการเสียเวลาไปเล่าความสัมพันธ์ของตัวละครที่ไม่ได้มีความสำคัญเท่าไหร่ แต่การแสดงที่ยอดเยี่ยมของ Guy Pearce ในบท Han van Meegeren ก็ทำให้ผู้ชมรู้สึกลุ้นเอาใจช่วยเขาไปด้วย ช่วงสุดท้ายของเรื่องเป็นฉากในศาลซึ่งเป็นจุดไคลแมกซ์นั้น สามารถทำถ่ายทำออกมาได้อย่างทรงพลัง

Han van Meegeren เสียชีวิตโดยอาการหัวใจวายในวันที่ 30 ธันวาคม 1947 ซึ่งเป็นเวลาเพียง 6 สัปดาห์หลังจากการพิจารณาคดีในศาล ช่วงเวลานั้นเขาเป็นบุคคลมีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศเนเธอร์แลนด์


Johannes Vermeer (1632 – 1675) จิตรกรชาวดัตช์ที่ช่วงที่เขามีชีวิตอยู่ก็ไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก มีฐานะปานกลาง หลังจากที่เขาเสียชีวิตลงก็ยังทิ้งหนี้สินไว้ให้ภรรยาและลูก ตลอดชีวิตการเป็นจิตรกร เขาสร้างผลงานวาดภาพน้อยกว่า 75 ภาพ ซึ่งจนถึงปัจจุบันมีเพียง 34 ภาพที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองว่าเป็นผลงานของ Vermeer แต่ชื่อของเขากลับถูกลืมไปจากประวัติศาสตร์ศิลปะชาวดัตช์เป็นเวลากว่า 200 ปี จนกระทั่งในศตวรรษที่ 19 นักวิจารณ์ศิลปะ Gustav Friedrich Waagen และ Théophile Thoré-Bürger เขียนบทความเกี่ยวกับ Johannes Vermeer และผลงาน 66 ภาพของเขา ทำให้ชื่อเสียงของ Vermeer โด่งดังขึ้นจนได้รับการยอมรับในโลกศิลปะ ว่าเป็นหนึ่งในจิตรกรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในสมัยยุคทองของเนเธอร์แลนด์ โดยเฉพาะเทคนิคการใช้แสงเงาในภาพของเขาที่ผู้คนต่างขนานนามว่าเป็น Master of Light

The Art of Painting, Girl with a Pearl Earring, The Milkmaid สามภาพนี้ติดอยู่ในสิบภาพผลงานของ Vermeer ที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุด

ภาพยนตร์ The Last Vermeer ฉายครั้งแรกในงาน Telluride Film Festival วันที่ 31 สิงหาคม 2019 ซึ่ง Sony Pictures Classics ได้สิทธิ์การฉายภาพยนตร์ กำหนดฉายวันที่ 22 พฤษภาคม 2020 แต่ถูกเลื่อนเนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 จนได้ฉายจริงโรงภาพยนตร์ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2020

REPORT / REQUEST
REPORT / REQUEST