The King’s Man
Matthew Vaughn
(2021)
Orlando Oxford (Ralph Fiennes) ดยุกแห่งออกซฟอร์ด เดินทางไปค่ายกักกันแห่งหนึ่งในแอฟริกาใต้ พร้อมกับ Emily (Alexandra Maria Lara) ภรรยาและ Conrad (Alexander Shaw) เพื่อพบกับ Kitchener (Charles Dance) ในฐานะผู้ส่งเสบียงของกาชาด (Red Cross) แต่ถูกซุ่มโจมตีโดยทหารฝ่ายตรงข้าม เป็นเหตุให้ Emily เสียชีวิต ซึ่งก่อนที่เธอจะตายเธอขอให้ Orlando สัญญากับเธอว่าจะปกป้อง Conrad จากสงครามที่โหดร้าย
ปี 1914 จุดเริ่มต้นของสงคราม (ซึ่งต่อมากลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 1) Orlando ได้รับการขอร้องจาก Kitchener ให้ไปพบกับ อาร์ชดยุก Franz Ferdinand (Ron Cook) แห่งออสเตรีย พร้อมกับ Conrad (Harris Dickinson) ซึ่งสามารถปกป้องอาร์ชดยุกจากการถูก Gavrilo Princip (Joel Basman) ลอบปาระเบิดสังหารได้ — Gavrilo ถูกจับหลังจากที่เขาใช้ปืนยิงอาร์ชดยุก และภรรยาจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เบื้องหน้าของ Orlanda ที่ทุกคนรู้จักคือดยุกผู้รับสงบ ไม่ข้องเกี่ยวกับสงคราม แต่เบื้องหลังเป็นผู้จัดตั้งสมาคมสายลับที่มีสมาชิกอีกสองคนคือ Shola (Djimon HounsouGemma Arterton) แม่บ้านผู้ดูแลที่ยิงปืนแม่นยำ และมีสติปัญญาชาญฉลาดระดับที่สามารถถอดรหัสลับของทหารได้
เรื่องราวจุดเริ่มต้นของ Kingsman องค์กรลับที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศอังกฤษในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 — กลับมาพร้อม Matthew Vaughn ผู้กำกับคนเดิมที่ยังคงร่วมเขียนบทเช่นเคย แต่ทำออกมาได้แย่ลงทุกภาค อันนี้คงโทษคนเขียนบทอย่างเดียวไม่ได้ เพราะผู้กำกับซึ่งทำมาตั้งแต่ Kingsman: The Secret Service ยังคงร่วมเป็นคนเขียนบทด้วย การเดินเรื่องที่ทำให้อารมณ์สะดุดไม่ต่อเนื่อง การพยายามยัดใส่เรื่องสปายการเมืองที่เหมือนจะเป็นเรื่องจริงจัง สลับกับแอคชันที่ดูเหนือจริงจนตลกซึ่งเป็นฉากต่อสู้ที่ทำให้แฟนซีรีส์ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกใจมาตั้งแต่ภาคแรก (แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างความประทับใจระดับนั้น) แล้วยังใส่ฉากสงครามยิ่งใหญ่แบบ 1917 กลายเป็นความงุนงงว่าเรื่องนี้ต้องการไปทางไหนกันแน่ เพราะสุดท้ายแล้วมันก็ไม่ไปสุดสักทาง
มีการหักมุมนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้บทดีขึ้น กลับทำให้รู้สึกเหมือนถูกหลอก จากตัวอย่างภาพยนตร์ที่เห็นฉากต่อสู้ Rasputin (Rhys Ifans) ซึ่งทำออกมาได้น่าสนุกตื่นเต้น แถมยังปรากฏหน้าในใบปิดอีก แต่ Rasputin ไม่ใช่บอสใหญ่จ้า ผู้กำกับพยายามปกปิดตัวหัวหน้าองค์กรผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังไว้ยาวนานจนเกือบจบเรื่อง ซึ่งก็ทำให้เราเดาได้แหละว่ามันต้องเป็นตัวประกอบคนหนึ่งที่ออกมาแล้ว
การเล่าเรื่องเหมือนพยายามชี้นำว่า Conrad จะเป็นผู้นำยุคต่อไป มีฉากกล้าหาญแบกคนฝ่าดงกระสุนปืนกลางสนามรบ แต่ตัดบทให้ตายแบบง่อยๆ เพื่อใช้เป็นจุดให้ Orlando ได้ไปต่อ คือครั้งแรกตอนเมียตายก็น่าจะพอแล้วนะ สองครั้งนี่มันซีเรียสเกินจะเป็นภาพยนตร์แนวตลกแล้วล่ะ กลายเป็นความครึ่งๆ กลางๆ แบบงงๆ ไม่เลือกไปสักทาง อยากจะเป็นภาพยนตร์สายลับจริงจังแต่ก็ยังอยากเก็บแฟนๆ ที่ต้องการเห็นฉากต่อสู้แบบ Kingsman: The Secret Service เอาไว้ด้วย
หลังจบฉากเครดิตมีฉากพิเศษ Adolf Hitler เข้าร่วมองค์กรฝ่ายตัวร้ายที่มีหัวหน้าคนใหม่… เลอะเทอะไปกันใหญ่ พอได้แล้ว!
The King’s Man ฉายรอบปฐมทัศน์ในสหราชอาณาจักรวันที่ 7 ธันวาคม และเปิดฉายในโรงภาพยนตร์วัน่ที่ 22 ธันวาคม 2021 ภาพยนตร์เรื่องนี้จะฉายในโรงภาพยนตร์เป็นเวลา 45 วันก่อนจะปล่อยขายบนดิจิทัลแพลฟอร์ม ส่วนในประเทศไทยเข้าฉายวันที่ 30 ธันวาคมในชื่อ กำเนิดโคตรพยัคฆ์คิงส์แมน ซึ่งเป็นชื่อภาษาไทยอย่างเป็นทางการ — หลังจากภาคนี้ยังมีภาคสปินออฟ Kingsman: The Blue Blood มีกำหนดฉายปี 2023