THE DESPERATE HOUR
Phillip Noyce
(2022)
Amy Carr (Naomi Watts) แม่หม้ายที่เลี้ยง Noah (Colton Gobbo) ลูกชายและ Emily (Sierra Maltby) ลูกสาว ในเมือง Lakewood หลังจากที่สามีของเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งทำให้ Noah ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง เขาทำตัวเหมือนไม่สนใจเธอ แม้ว่าเวลาจะผ่านมาเกือบหนึ่งปีแล้วก็ตาม และในวันนี้เขาก็อ้างว่าไม่สบายและไม่ยอมไปโรงเรียน Amy จึงปล่อยให้ลูกชายนอนต่อ ก่อนที่ตัวเองจะออกไปวิ่งจ็อกกิงยามเช้าตามเส้นทางวิ่งผ่านป่าใกล้เมือง
ระหว่างที่เธอวิ่งจ็อกกิง เธอก็ได้รับโทรศัพท์หลายสาย ทั้งจาก Greg เพื่อนร่วมงานที่โทรมาถามเรื่องไฟล์ที่เขาหาไม่เจอ, โทรศัพท์จากลูกสาวที่ขอให้เธอนำรูปปั้นไดโนเสาร์ไปให้ที่โรงเรียน, โทรศัพท์จากแม่ของเธอขอให้ช่วยไปรับรถแทน รวมถึง FaceTime กับเพื่อนที่จะนัดเจอกันในสัปดาห์หน้า Amy สังเกตว่ามีรถตำรวจวิ่งสวนทางไปหลายคัน แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เมื่อเธอโทรไปที่ร้าน Reliable Auto Body เพื่อนัดเวลาไปรับรถ ทางร้านก็แจ้งให้เธอทราบว่าตำรวจได้ตั้งด่านปิดถนนบริเวณหน้าร้านและเขาก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ขณะที่เธอยืนมองลำธารและดูรูปถ่ายของสามีที่จากไปพร้อมกับฟังข้อความเสียงสุดท้ายที่เขาฝากไว้ เธอก็ได้รับข้อความเตือนจากตำรวจว่าโรงเรียนใน Lakewood ทั้งหมดถูกล็อคดาวน์เนื่องจากเกิดเหตุวิกฤตขึ้น เธอจึงรีบติดต่อโรงเรียนประถมที่ลูกสาวเธออยู่ จนได้ความว่ามีเหตุร้ายบางอย่างเกิดขึ้นที่โรงเรียนฝั่งมัธยม
เธอจึงโทรหา Noah ลูกชายที่เธอคิดว่าเขายังคงนอนอยู่ที่บ้าน แต่เขาไม่รับโทศัพท์ ทำให้เธอยิ่งเป็นกังวล จนได้รู้จากเพื่อนบ้านที่เห็น Noah ขับรถออกไปจากบ้านเพื่อไปโรงเรียน ก็ยิ่งทำให้เธอตกใจมากขึ้นไปอีก เธอต้องหาหนทางไปที่โรงเรียนโดยเร็วที่สุด แต่เธออยู่ห่างจากบ้านถึง 8 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากโรงเรียน 6.5 กิโลเมตร ซึ่งต้องใช้เวลาเดินถึง 1 ชั่วโมง
THE DESPERATE HOUR เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่นำเสนอ active shooter หรือการสังหารหมู่ที่เกิดขึ้นในโรงเรียน แต่กลับทำออกมาได้ไม่น่าเชื่อเลยสักนิด แม้ว่าจะมีนักแสดงนำมากฝีมืออย่าง Naomi Watts ที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงมาแล้วถึง 2 ครั้งจากเรื่อง 21 GRAMS (2004) และ THE IMPOSSIBLE (2013)
ผู้กำกับให้เราดูภาพนางเอกวิ่งจ็อกกิงจากบ้าน พร้อมกับคุยโทรศัพท์หลายสาย เดินบ้าง วิ่งบ้าง แต่สามารถไปอยู่ตรงจุดที่ห่างจากบ้านถึง 8 กิโลเมตร ภายในเวลา 10 นาที นี่คือต้องวิ่งด้วยความเร็วเกือบ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง! โอเค ช่วงแรกอาจจะมีการตัดต่อ ไม่ได้ใช้เวลาจริงก็เป็นไปได้ แต่เข้าใจว่าหลังจากที่เธอได้รับข้อความเตือนจากตำรวจ ว่าโรงเรียนถูกถูกล็อคดาวน์ อันนี้คือเป็นเวลาที่เดินตามเวลาจริงแล้ว
เธอใช้เวลาเกือบ 10 นาทีในการโทรขอร้องเพื่อนให้ช่วยขับรถมารับเธอ โทรหาตำรวจที่สถานีทั้งที่ช่วงเวลาแบบนี้สายก็ไม่น่าจะว่าง แล้วยังวิ่งทะลุป่าจนข้อเท้าแพลง เพื่อไปหารถที่จะรับเธอไปที่โรงเรียน จนในที่สุดเธอก็ใช้ Lyft เพื่อเรียกรถมารับเธอ ทั้งที่มันควรจะเป็นสิ่งแรกที่เธอทำ
เราไม่เข้าใจว่ากล้องจะจับภาพหน้าจอโทรศัพท์มากขนาดนั้นไปเพื่ออะไร ได้สปอนเซอร์จากแอปเปิลหรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็นภาพที่เธอกำลังพิมพ์ข้อความ เปิดหาเพลง ไถลจอหาเบอร์โทรศัพท์ ดูวิดีโอข่าวแบบจิ่วโดยไม่หมุนจอ แค่นั้นยังไม่พอ ผู้กำกับยังต้องการให้เราได้รับรู้ประสบการณ์แบบเดียวกับตัวเอก ด้วยการใช้เทคนิคแบบกล้องมือถือสั่นๆ ที่สั่นสะเทือนแม้กระทั่งตอนกล้องจับภาพนางเอกกำลังจ้องโทรศัพท์!
อยู่ดีๆ นางก็กลายเป็นนักสืบ ขอให้พนักงานที่บริษัทรถที่อยู่ใกล้โรงเรียน ออกไปดูว่ามีรถของลูกชายจอดอยู่หน้าโรงเรียนอยู่หรือเปล่า โดยที่เธอจำเลขทะเบียนได้แค่ 3 ตัวแรก แล้วยังจำตัวเลขสลับกันอีก หลังจากนั้นนางก็ยังวิ่งต่อไปจนหกล้มศีรษะกระแทกก้อนหิน โอ๊ย นี่มันวิบากกรรมอะไร
ช่วงกลางเรื่องนางเอกคิดว่าลูกของตัวเองอาจเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้ ตอนนี้นางก็เลิกดิ้นรนที่จะไปโรงเรียนแล้วนั่งหมดอาลัยตายอยาก นึกถึงภาพอดีตลูกชายที่น่ารักในความทรงจำอันสวยงาม เสียเวลาไปเปล่าๆ ปลี้ๆ อีก 10 นาที และหลังจากที่นางรู้ว่าลูกชายไม่ใช่คนร้าย วิญญาณนักสืบก็เข้าสิงร่างของนางอีกครั้งทำให้นางสามารถหาวิธีที่จะรู้ข้อมูลของคนร้ายตัวจริงในคดีนี้ นี่คือแม่หรือยอดมนุษย์กันแน่ นี่ยังไม่พูดถึงการที่นางสามารถโทรศัพท์ไปหาตำรวจที่รับผิดชอบได้รัวๆ ราวกับเป็นสายวีไอพี
เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับการสังหารหมู่ในโรงเรียนที่มีเหยื่อเสียชีวิต 1 คนถ้วน โดยที่เราไม่เห็นภาพของการสังหาร ไม่เห็นภาพของคนร้ายขณะลงมือ ไม่มีภาพรุนแรงนอกจากภาพนางเอกหกล้มศีรษะกระแทกก้อนหินเท่านั้น ไม่มีการเอ่ยถึงฆาตกรหรือมูลเหตุใดๆ
THE DESPERATE HOUR ฉายรอบปฐมทัศน์ในงาน Toronto International Film Festival วันที่ 12 กันยายน 2021 และเข้าฉายในสหรัฐอเมริกาวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2022 ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Roadside Attractions และ Vertical Entertainment พร้อมกับปล่อยให้เช่า/ซื้อบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีกำหนดเข้าฉายในประเทศไทยวันที่ 10 มีนาคม 2022 ด้วยชื่อ “ฝ่าวิกฤต วิ่งหนีตาย”