ภาคต่อที่เป็นเรื่องราวต่อเนื่องกับ SPIDER-MAN: Far From Home หลังจากที่ Quentin Beck หรือ Mysterio (Jake Gyllenhaal) ปล่อยวิดีโอคลิปที่ได้รับการตัดต่อให้ดูเหมือนว่า Spider-Man เป็นคนสั่งให้โดรนฆ่า Mysterio และเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของ Spider-Man ซึ่งก็คือ Peter Parker (Tom Holland) ทำให้ชีวิตของ Peter พบกับความปั่นป่วน รวมถึง MJ แฟนสาวและ Ned เพื่อนสนิท พลอยติดร่างแหไปด้วย

Peter จึงเดินทางไปพบกับ Doctor Strange (Benedict Cumberbatch) เพื่อขอให้เขาใช้พลังย้อนเวลากลับไปแก้ไขเรื่องที่ทุกคนรู้ความจริงของเขา แต่ Doctor Strange ไม่มี Time Stone ที่ใช้ควบคุมเวลาแล้ว จึงเสนอให้ใช้เวทมนตร์ลบความทรงจำของทุกคนแทน

ระหว่างที่ Doctor Strange กำลังร่ายมนตร์ Peter กลับขอให้ยกเว้นการลบความทรงจำของ Ned (Jacob Batalon), MJ (Zendaya) และป้า May (Marisa Tomei) ทำให้ Doctor Strange ไม่พอใจและตัดสินใจสะกดคาถาเอาไว้ชั่วคราว แต่เวทมนตร์บางส่วนเล็ดลอดข้ามมิติออกไปโดยที่ไม่มีใครรู้

ในไม่ช้า ศัตรูของ Spider-Man จากมิติอื่นที่รู้ตัวจริงของ Peter Parker ก็ปรากฏตัวขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับ Spider-Man ความยุ่งเหยิงวุ่นวายจึงถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง Peter จะต้องหาทางแก้ไขเรื่องนี้ก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลายมากไปกว่านี้

SPIDER-MAN: No Way Home เป็นภาคต่อที่เขียนบทได้ดีมากจริงๆ เรื่องเทคนิคด้านภาพสวยงามอลังการแบบไม่ต้องอธิบายอะไรอีก ควรค่าแก่การชมในโรงภาพยนตร์ นี่คือดูในโรงไปสองรอบแล้ว

ตอนแรกก็คิดอยู่ว่าคนเขียนบทจะผูกเรื่องยังไงให้ภาคนี้เหนือกว่าภาค Far From Home ได้อีก ภาคนี้แทบไม่มีการเล่นกับจุดหักมุมเหมือนภาคก่อน แต่ใช้การเล่นกับอารมณ์และ Nostalgia ได้อย่างยอดเยี่ยม

เหล่าแฟนภาพยนตร์ Spider-Man ที่ผ่านการรีบูทมาแล้วถึงสองรอบ (แต่ละภาคที่ออกมาก็กวาดรายได้ไม่เคยตำ่กว่า 700 ล้านเหรียญ) ต่างก็ยินดีปรีดาตั้งแต่ที่เห็นตัวอย่างภาพยนตร์เปิดเผยโฉมหน้าตัวร้ายจากอดีตกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในภาคนี้ นับว่าเป็นการเล่นเรื่อง Multiverse ได้ถูกจังหวะมาก

ส่วนข้อด้อยนิดเดียวของเรื่องนี้ก็คือ มันเป็นการยืมพลังจาก Spider-Man เวอร์ชันของ Sam Raimi และเวอร์ชันของ Marc Webb มาช่วยเสริมความรู้สึกโหยหาอดีตของเหล่าแฟนๆ ได้อย่างมหัศจรรย์ โดยเฉพาะการเล่นมุขล้อตัวเอง มันเป็นภาคที่ไม่สามารถเรียกได้ว่ายืนอยู่ด้วยตัวของมันเองแบบเดียวกับภาค Homecoming หรือ Far From Home

หลังจบภาพยตร์จะมี post-credits 2 คลิปตามสไตล์ของ Marvel อันแรกก็จะเป็นการเชื่อมโยงกับ VENOM: Let There be Carnage ส่วนอีกอันจะเป็นตัวอย่างภาพยนตร์ DOCTOR STRANGE in the Multiverse of Madness ซึ่งทาง Marvel ปล่อยทาง YouTube ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2021 ใครที่เห็นไปแล้วก็ไม่จำเป็นต้องนั่งรอดูคลิปที่สอง

SPIDER-MAN: No Way Home ฉายรอบปฐมทัศน์ที่โรงภาพยนตร์ Fox Village ในลอสแอนเจลิสวันที่ 13 ธันวามคม 2021 ก่อนจะฉายในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์วันที่ 15 ธันวาคม ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในสหรัฐอเมริกาวันที่ 17 ธันวาคม ส่วนประเทศไทยเปิดรอบพิเศษ Fan Screening ที่โรงภาพยนตร์พารากอน และเอสเอฟ เซ็นทรัลเวิล์ด ในวันที่ 18-19 ธันวาคม ก่อนจะเข้าฉายจริงวันที่ 23 ธันวาคม 2021