SKJELVET
THE QUAKE
John Andreas Andersen
(2008)
SKJELVET คือภาคต่อของ BØLGEN (The Wave) เป็นเรื่องราว 3 ปี หลังจากเหตุการณ์ใน Geiranger ที่ทำให้มีคนเสียชีวิตไป 248 คน
Idun (Ane Dahl Torp) หย่ากับ Kristian (Kristoffer Joner) และย้ายไปทำงานที่ Radisson Blu Hotel Plaza ใน Oslo พร้อมกับลูกๆ Sondre (Jonas Hoff Oftebro) กับ Julia (Edith Haagenrud-Sande) ส่วน Kristian ยังอยู่ใน Geiranger
ในช่วงวันหยุด Julia ลูกสาวของเขาก็แวะมาอยู่ด้วย ในระหว่างนั้นก็มีโทรศัพท์เข้ามาจาก Konrad แต่ Kristian ตัดสินใจไม่รับสาย ในคืนวันนั้น Julia ก็พบว่า Kristian ยังคงหมกมุ่นอยู่กับผู้คนที่เขาไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้เมื่อ 3 ปีก่อน แม้ว่า Julia จะบอกว่าเขาสามารถช่วยแม่, พี่ขาย, และตัวเธอ ไว้ได้ แต่เหมือนว่าแค่นั้นยังไม่พอสำหรับเขา วันรุ่งขึ้น Kristian ก็บอกให้ Julia กลับบ้านไปซะ เพราะเขาไม่ต้องการให้เธอมาอยู่เกะกะ
หลายวันผ่านไป Kristian ก็ได้ทราบข่าวทางโทรทัศน์ว่า Konrad คนที่เขาเคยทำงานด้วยและเป็นคนที่พยายามโทรหาเขาหลายครั้ง แต่เขาไม่ได้รับสาย ได้เสียชีวิตแล้วจากอุบัติเหตุอุโมงค์ถล่มใน Oslo ทำให้ Kristian ต้องเดินทางไป Oslo เพื่อสืบหาความจริง
เขาไปที่บ้านของ Konrad และพบกับลูกสาวชื่อ Merit (Kathrine Thorborg Johansen) และยังพบกับเอกสารการศึกษาแผ่นดินไหวมากมายในห้องทำงานของ Korad ซึ่งทำให้เขาเชื่อว่าแผ่นดินไหวขนาดใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นที่ Oslo
บริษัท NORSAR (Norwegian Seismic Array) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1968 ด้วยข้อตกลงร่วมกันระหว่าง Norway และ US ทำหน้าที่ตรวจจับแผ่นดินไหวและแรงระเบิดนิวเคลียร์ ก็ได้ให้ข้อมูลกับ Kristian ว่า ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง การสั่นไหวที่ Konrad บันทึกได้ ไม่ใช่แผ่นดินไหวจริง แต่เป็นการสั่นสะเทือนจากการก่อสร้าง เช่นการระเบิด
ในคืนนั้นเองทั้งเมือง Oslo ก็ไฟดับทั้งหมด ตามมาด้วยคลื่นแผ่นดินไหวที่ทำให้ Oslo Opera House พังทลายไปส่วนหนึ่ง และทำให้ Idun ซึ่งเข้าไปช่วย Julia ได้รับบาดเจ็บ Kristian พยายามบอกว่ามันกำลังจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ แต่ Idun คิดว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่าน้ัน และปฏิเสธที่จะหนีออกจากเมือง
Cinematography สวยงาม ฉากโรงแรมถล่มทำได้ดีจริง แต่นี่มันคือ Final Destination หรือเปล่า คนอะไรมันจะเจอความโชคร้ายซ้ำซ้อนได้ขนาดนี้ แม้ว่าจะชอบบทที่หยิบเอาแผ่นดินไหว ซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้มาใช้ แต่การกระทำของตัวละครในภาคนี้มันมีตรรกะที่แย่มาก ตั้งแต่ตัวเอก Kristian ที่สามารถช่วยครอบครัวตัวเองได้สำเร็จในภาคที่แล้ว แต่ยังจมปลักกับเรื่องคนอื่น จนผลักครอบครัวตัวเองออกไป
ส่วน Idun อดีตภรรยาที่เคยเจอเหตุการณ์มาก่อน กลับไม่เชื่อคำเตือนของของสามีตัวเอง รู้สึก déjà vu มาก) ลูกชายก็ไม่เชื่อพ่อ ลูกสาวก็โง่ บอกให้รอในรถ ก็ยังแอบขึ้นลิฟท์ตามไปอีก สรุปว่าครอบครัวนี้ไม่มีใครเชื่อใครเลย มันทำให้ไม่รู้สึกอยากเอาใจช่วยตัวละครตัวไหนทั้งนั้น