กลุ่มผู้รอดชีวิตจากภาคที่แล้ว ย้ายมาอยู่ในนครนิวยอร์ก แต่พวกเขากลับตกเป็นเป้าหมายของฆาตกรหน้ากากผีอีกครั้ง พวกเขาจึงต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดไปให้ได้
SCREAM VI
Matt Bettinelli-Olpin • Tyler Gillett
(2023)
ภาคต่อของ SCREAM ซึ่งนับเป็นภาคที่ 6 ของซีรีส์ภาพยนตร์ slasher เรื่องนี้ โดยเล่าเรื่องราว 1 ปี หลังจากภาคที่แล้ว เปิดตัวมาด้วยฉาก Laura (Samara Weaving) อาจารย์สาวที่ถูกคนร้ายสวมหน้ากากผีลวงไปฆ่าในตรอกอย่างโหดเหี้ยม
คนร้ายที่ลงมือก็คือ Jason (Tony Revolori) นักเรียนในขั้นที่หมกมุ่นกับคดีฆาตกรรมใน Woodsboro เขาร่วมมือกับ Greg เพื่อนร่วมห้องวางแผนจะลงมือสังหาร Sam (Melissa Barrera) และ Tara (Jenna Ortega) สองสาวพี่น้องผู้รอดชีวิตจากคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง เพื่อทำภาพยนตร์ที่ Richie และ Amber สองฆาตกรในภาคที่แล้วต้องการสร้างให้สำเร็จ
Greg ถูกฆาตกรปริศนาอีกคนสังหารไปแล้ว แต่ฆาตกรยังคงรอเล่นเกมทางโทรศัพท์กับ Jason ก่อนจะลงมือสังหาร Jason อย่างโหดเหี้ยม หลังจากนั้นฆาตกรก็ทิ้งใบขับชี่รถยนต์ของ Sam ไว้ในที่เกิดเหตุ เธอจึงถูกตำรวจดึงเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่องอีกครั้ง
ด้านเนื้อเรื่องก็คงไม่ต่องเล่าอะไรมาก สำหรับภาพยนตร์แนว slasher ที่สร้างมาแล้วถึง 5 ภาค เรื่องราวของฆาตกรโรคจิตที่ซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มตัวละครที่โผล่มาหลอกล่อผู้ชมให้เกิดความไขว้เขวว่าใครคือคนร้าย และกลุ่มตัวเอกที่มีถึง 4 คน! แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าการเปิดเผยตัวจริงของคนร้ายก็คือ กลุ่มตัวเอกไม่มีใครตายสักคน รวมถึง Gale Weathers (Courteney Cox) นักข่าวหญิงอมตะที่อยู่มาตั้งแต่ SCREAM ภาคแรกในปี 1996
สิ่งที่ชอบในภาคนี้คือการฉีกกฏต่างๆ การเล่นใหญ่ขึ้น กับฉากสังหารที่โหดเลือดสาดกระเซ็นยิ่งกว่าเดิม อาทิ ฉากหน้ากากผีไล่ตามสองสาวพี่น้องเข้าไปในในร้านสะดวกซื้อที่เต็มไปด้วยผู้คน และลงมือฆ่าคนที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างบ้าคลั่ง — ฉากปีนข้ามบันไดที่พาดระหว่างตึก (อันนี้ไม่ใหม่ เพราะเคยเห็นในเรื่องอื่นมาแล้ว แต่ทำได้ดี) — ฉากรถไฟใต้ดินที่ใช้แสงเงาและมุมกล้อง สร้างความตื่นเต้นลุ้นระทึกแทบลืมหายใจกันเลยทีเดียว — ในที่สุดภาคนี้มีคนร้าย 3 คน ซึ่งเป็นจุดที่เราบ่นมาตั้งแต่ภาคที่แล้วว่า ถ้าจะฉีกกฏให้สนุกขึ้น มันก็น่าจะมีจำนวนคนร้ายเพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนที่ไม่ค่อยชอบก็คือ หลายฉากดูยืดจนน่ารำคาญ เช่น ฉากหนีคนร้ายเข้าไปในห้อง, ฉากที่ Gale สู้กับคนร้าย — ฉากที่คนร้ายควรจะตายแต่ดันไม่ตาย — ฉากที่ตัวเอกน่าจะตายแต่ก็ไม่ตาย รวมถึงตรรกะของตัวละครหลายตัว ที่ทำให้เรางงว่า การตัดสินใจแปลกๆ เหล่านั้น เป็นเพราะพวกเขากำลังตื่นตระหนกตกใจกลัว หรือเพราะพวกเขาโง่กันแน่ ทำให้ภาพยนตร์มีความยาวถึง 115 นาที ทั้งที่น่าจะตัดต่อให้เหลือแค่ 90 – 100 นาทีได้
สิ่งที่เกลียดตั้งแต่ภาคที่แล้วมาจนถึงภาคนี้คือการใช้ผี Billy Loomis (Skeet Ulrich) คนร้ายในภาคแรก ที่ไม่ได้มาแค่เสียงวิญญาณหลอน แต่มีหน้าโผล่มาด้วย (ใบหน้าที่ดูชราแล้ว ทั้งที่ตายตั้งแต่ยังหนุ่ม!)
SCREAM VI ฉายรอบปฐมทัศน์ที่ AMC Lincoln Square Theater ในแมนแฮตตัน สหรัฐอเมริกา วันที่ 6 มีนาคม 2023 ก่อนจะเปิดฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ วันที่ 10 มีนาคม ส่วนในประเทศไทย ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายด้วยชื่อ “หวีดสุดขีด 6” ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม