Latest

ROCKETMAN

2000 2500 PRADT
3 MINUTE READ

ROCKETMAN

Dexter Fletcher
(2019)

★★★★½
 

ภาพยนตร์มิวสิคัลประวัติชีวิตของ Elton John ศิลปินชาวอังกฤษที่มีผลงานเพลงมากกว่า 30 อัลบัม มียอดขายรวมกว่า 300 ล้านก๊อปปี้ มีเพลงฮิตมากกว่า 58 เพลง — ผลงานเพลง Candle in the Wind (1973) ที่เขาและ Bernie Taupin ร่วมกันแต่งเพื่อระลึกถึง Marilyn Monroe ก็ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใร 500 เพลงที่ดีที่สุดตลอดกาลโดยนิตยสาร Rolling Stone — ในปี 1997 ที่เขานำเพลง Candle in the Wind กลับมาทำใหม่เพื่อเจ้าหญิง Diana ก็กลายเป็นเพลงซิงเกิ้ลที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของอังกฤษและอเมริกา ด้วยยอดขายมากกว่า 33 ล้านก๊อปปี้

เพลงฮิตเพลงแรกของเขาคือเพลง Your Song ที่ออกในปี 1970 ก็ถูกนำไปคัฟเวอร์โดยศิลปินอีกหลายคน รวมทั้งในภาพยนตร์ Moulin Rouge! (2001) ของ Baz Luhrmann และยังคงดังอยู่จนถึงทุกวันนี้ — เขาประพันธ์เพลงในอัลบั้ม Lion King ให้กับ Walt Disney ร่วมกับ Tim Rice ในปี 1994 ซึ่งเพลง Can You Feel the Love Tonight ก็ได้รางวัล Best Original Song ในงานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 67 — นอกจากนี้เขายังทำเพลงให้กับ Lion King ในฉบับมิวสิคัล, Aida, และ Billy Elliot ฉบับมิวสิคัล

ภาพยนตร์ Rocketman มีข่าวจะสร้างนานแล้ว โดยมีชื่อสตูดิโออย่าง Walt Disneys Pictures และ Focus Features รวมถึงชื่อผู้กำกับอย่าง David LaChapelle และ Michael Gracey อีกทั้งยังมีชื่อนักแสดงนำ Tom Hardy ที่จะมาเล่นนำ แต่ในปี 2014 โปรเจคหนังเรื่องนี้ก็หยุดไปเนื่องจากนักแสดงนำและผู้กำกับถอนตัว รวมถึงปัญหาระหว่า Elton กับทางสตูดิโอ

จนกระทั่ง Paramount Pictures เข้ามาจัดการในปี 2018 หนังเรื่องนี้จึงได้ Dexter Fletcher มาเป็นผู้กำกับ คนเขียนบทก็คือ Lee Hall ที่มีผลงานอย่าง Billy Elliot (2000), War Horse (2011), Billy Elliot the Musical (2005), และ Cats (2019) ส่วนนักแสดงนำคนใหม่คือ Taron Egerton ที่เคยมีผลงานเป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์ Kingsman: The Secret Service (2014) และ Robin Hood (2018)

ตัวภาพยนตร์ใช้ Elton (Taron Egerton) เป็นคนเล่าเรื่องของตัวเองตั้งแต่สมัยเด็ก เขามีชื่อว่า Reginald Dwight อาศัยอยู่กับ Sheila (Bryce Dallas Howard) แม่ที่ไม่ค่อยใส่ใจอะไรนอกจากตัวเอง, Stanley (Steven Mackintosh) พ่อที่ไม่เคยสนใจในพรสวรรค์ทางดนตรีของเขา, และ Ivy (Gemma Jones) คุณยายที่รักเขามาก

คุณยายเป็นคนเดียวในครอบครัวที่คอยสนับสนุนให้ Reginald ทำอย่างที่เขาต้องการ และด้วยพรสวรรค์ที่สามารถฟังเมโลดี้เพียงครั้งเดียวก็สามารถจำและเล่นได้ ทำให้เขาได้เข้าไปเรียนใน Royal Academy of Music สถาบันดนตรีที่เก่าแก่ที่สุดในอังกฤษ ซึ่งก่อตั้งขึ่นในปี 1822

เมื่อเขาโตขึ้นก็ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกวง Bluesology ในฐานะมือคีย์บอร์ด ออกแสดงตามคลับและบาร์ที่จ้างพวกเขาไปเล่น จนกระทั่งคืนหนึ่งที่พวกเขาออกทัวร์กับวงอเมริกัน ก็มีนักร้องคนหนึ่งแนะนำให้เขาเขียนเพลงเอง เปลี่ยนชื่อ และไปเริ่มต้นใหม่เพื่อที่จะได้โด่งดังเป็นศิลปินจริงๆ อย่างที่เขาต้องการ จึงทำให้เขาเกิดความคิดที่จะเปลี่ยนชื่อตัวเอง และได้ชื่อ Elton John มาในที่สุด

ปี 1967 Ray Williams (Charlie Rowe) ซึ่งทำงานอยู่ในค่ายเพลง DJM Records ของ Dick James ได้ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ New Musical Express เพื่อค้นหาศิลปิน, นักประพันธ์เพลง, นักร้อง, นักดนตรี เพื่อที่จะเอามาปั้นเป็นศิลปินกลุ่มใหม่ — Elton จึงเดินทางมาที่ DJM Records แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง เพราะเขาเคยเป็นแค่นักร้องแบ็คอัพและคนเล่นเปียโน — Elton มีเสียงร้องที่ดีและเล่นเปียโนเก่งมาก แต่เขาไม่สามารถเขียนเนื้อเพลงที่ดีได้ — Ray จึงหยิบซองเนื้อเพลงจากกองที่มีผู้สมัครส่งมามากมาย ให้ Elton เอาเนื้อร้องไปทำเป็นเพลงขึ้นมา

เหมือนเป็นโชคชะตาที่ทำให้ Elton John และ Bernie Taupin (Jamie Bell) ได้มาพบและแต่งเพลงร่วมกัน นับตั้งแต่ปี 1967 จนถึงปัจจุบัน ทั้งคู่ร่วมกันทำอัลบั้มมามากกว่า 30 อัลบั้มแล้ว — Bernie เป็นคนเขียนเนื้อเพลงฮิตอย่าง Rocketman, Crocodile Rock, Tiny Dancer, Candle in the Wind, Saturday Night’s Alright for Fighting, Goodbye Yellow Brick Road, Don’t Let the Sun Go Down on Me, Your Song, I’m Still Standing และอีกหลายเพลง

การเดินเรื่องทำได้น่าติดตาม แม้จะไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Elton John แต่เพลงดังของเขาก็ยังคงได้ยินวนเวียนอยู่เสมอ — เพลงที่ใช้ประกอบในเรื่องไม่ได้ออกมาตามช่วงเวลาที่ออกเพลงจริง แต่บนใบปิดหนังบอกว่า based on true fantasy ดังนั้นเพลงที่ใส่เข้ามาจึงถูกจัดวางให้เข้ากับเหตุการณ์ในช่วงนั้นนั่นเอง — ชอบฉาก Your Song กับ I’m Still Standing มาก แต่ที่ชอบที่สุดคือช่วงเพลง Goodbye Yellow Brick Road ที่ Jamie Bell ร้อง

ชอบการที่ค่ายหนังไม่ได้พยายามลดความดาร์กของหนังให้มันอ่อนลงแบบ Bohemian Rhapsody ที่ตัดอะไรหลายอย่างออกไปมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรื่องนี้มันมีการนำเสนอแบบมิวสิคัลด้วย เต้นรำร้องเพลงสูดโคเคนไปด้วยอะไรแบบนี้เป็นต้น ทำให้ทุกอย่างมันดูรื่นรมย์ต่างจากหนังดราม่าที่เน้นความสมจริง

นักแสดงทุกคนสวมบมบาทได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ Taron Egerton และ Jamie Bell ที่ร้องเพลงเองด้วย — Richard Madden ที่รับบท John Reid ก็เล่นดีมาก (และหน้าตาดีเกินตัวจริงไปมากเช่นกัน)

REPORT / REQUEST
REPORT / REQUEST