เหตุการณ์หนึ่งวันก่อนหน้า Normandy landings ในวันที่ 6 มิถุนายนปี 1944 พลทหารอเมริกันถูกส่งตัวไปเพื่อทำลายหอส่งวิทยุของเยอรมันที่อยู่ในโบสถ์เก่าแก่ แต่ก่อนที่เครื่องบินจะถึงจุดหมาย ก็โดนยิงร่วง ทำให้ทหารส่วนใหญ่เสียชีวิต ส่วนคนที่ยังไม่ตายก็โดนทหารเยอรมันฆ่า

มีเพียงทหาร 5 คนที่รอดชีวิตมาได้คือ Ford (Wyatt Russell), Boyce (Jovan Adepo), Tibbet (John Magaro), Chase (Iain De Caestecker), และ Dawson (Jacob Anderson)

Dawson เหยียบกับระเบิดตายเป็นคนแรก ทหาร 4 คนที่เหลือก็มุ่งหน้าต่อไปจนไปเจอ Chloe (Mathilde Ollivier) หญิงชาวฝรั่งเศสที่ตกลงจะช่วยพาพวกเขาไปยังหมู่บ้านของเธอ ซึ่งเป็นที่ตั้งของหอส่งสัญญาณวิทยุของเยอรมัน ทั้งหมู่บ้านอยู่ในการควบคุมของหารเยอรมัน

Chloe อาศัยอยู่กับป้าที่โดนทหารเยอรมันจับไปทดลองจนไม่สามารถสื่อสารอะไรได้ กับน้องชาย ส่วนพ่อแม่โดนทหารเยอรมันฆ่าไปแล้ว

ระหว่างที่ Tibbet และ Chase ออกไปหาจุดรวมพล ก็มีทหารเยอรมัน Hauptsturmführer Wafner (Pilou Asbæk) เข้ามาในบ้านและคิดจะข่มขืน Chloe แต่ Boyce และ Ford ออกมาช่วยทัน และจับ Wafner ไว้ได้

Ford จึงสั่งให้ Boyce ไปตาม Tibbet และ Chase แต่ระหว่างทางเขาก็ไปพบทหารเยอรมันกำลังใช้ปืนไฟเผาชาวบ้าน และโดนสุนัขไล่ตามจนต้องหนีเข้าไปซ่อนในรถบรรทุกศพ ทำให้เขาสามารถลอบเข้าไปโบสถ์ได้สำเร็จ

Boyce พบว่าภายในโบสถ์ไม่ได้มีแค่เครื่องส่งสัญญาณวิทยุ แต่ยังเป็นห้องทดลองขนาดใหญ่ ที่เยอรมันใช้ทดลองกับชาวบ้าน Boyce พบหลอดฉีดยาประหลาดจึงแอบหยิบมา นอกจากนี้เขายังเจอ Rosenfeld (Dominic Applewhite) ทหารอีกคนที่รอดชีวิต และถูกจับมาไว้ในห้องทดลองนี้ด้วย

ทั้งสองหนีออกมาจากโบสถ์ ผ่านทางระบายน้ำใต้ดิน และกลับมาที่บ้านของ Chloe พบว่า Ford ยังคงพยายามคาดคั้น Wafner เรื่องจำนวนทหารและอาวุธในโบสถ์ Wafner มีปฏิกิริยากับหลอดฉีดยาที่ Boyce หยิบมาจากห้องทดลอง แต่ก็ไม่ยอมปริปากว่าหลอดฉีดยานั้นมีไว้ทำอะไรกันแน่ เวลาก็เหลือน้อยลงทุกที Ford จึงตัดสินใจที่จะบุกเข้าไปที่โบสถ์เพื้อทำลายหอส่งคลื่นวิทยุที่เป็นเป้าหมายหลัก

Mathilde Ollivier สวยงาม ดูจากการแสดงและสำเนียงการพูด คล้าย Léa Seydoux มาก ส่วน Jacob Anderson (Grey Worm จาก Game of Thrones) ออกมาแป๊บเดียวก็ตายแล้ว ทำไมได้บทตัวประกอบอะไรขนาดนี้ ค่าตัวแพงหรือว่าต้องรีบกลับเล่น Game of Thrones

ชอบฉากเปิดอลังการ Visual Effects ดีมาก ถ้าดูแบบไม่คิดอะไรมากก็สนุกตื่นเต้นใข้ได้ แบบหนัง Action + Horror ไม่ได้มีหักมุมอะไรที่เหนือการคาดเดา