เรื่องราวของของสองพี่น้อง กับการเดินทางผ่านป่าพิศวง เพื่อหาทางกลับบ้าน — แอนิเมชันแนวแฟนตาซีที่ยอดเยี่ยม ทั้งลายเส้น ดนตรีประกอบ การออกแบบตัวละคร
OVER the GARDEN WALL
Patrick McHale
(2014)
แอนิเมชันมินิซีรีส์ความยาว 10 ตอน ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก TOME of the UNKNOWN แอนิเมชันเรื่องสั้นของ Patrick McHale ผู้กำกับ/นักเขียนบทชาวอเมริกัน ว่าด้วยเรื่องราวของของสองพี่น้อง กับการเดินทางผ่านป่าพิศวง เพื่อหาทางกลับบ้าน
Wirt (Elijah Wood) และ Greg (Collin Dean) สองพี่น้อง เดินหลงทางอยู่ในป่าพิศวงในดินแดนที่ถูกเรียกว่า The Unknown พวกเขาได้พบกับชายตัดฟืน (Christopher Lloyd) เตือนพวกเขาเรื่อง The Beast หรืออสูรร้ายที่อาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้
ทั้งคู่เดินไปตามเส้นทางที่ชายตัดฟืนบอก เพื่อไปที่เมือง Pottsfield ซึ่งอยู่ไม่ไกล โดยระหว่างทาง Greg ได้ช่วยชีวิต Beatrice (Melanie Lynskey) นกสีน้ำเงินที่พูดภาษาคนได้
Beatrice สัญญาว่าจะตอบแทนพวกเขาด้วยการนำทางพวกเขาไปพบกับ Adelaide ผู้วิเศษแห่งป่าพิศวง แต่ Wirt ไม่เชื่อใจนกพูดได้ จึงตัดสินใจเดินทางไปเมือง Pottsfield ที่กำลังมีงานเทศกาล และพวกเด็กๆ ก็ถูกจับได้ว่าเป็นผู้บุกรุก
หลังจากที่พวกเขารอดจากเมือง Pottsfield มาได้ Wirt จึงยอมเดินทางไปหา Adelaide แต่ระหว่างทาง พวกเขาก็ได้พบกับโรงเรียนที่เต็มไปด้วยสัตว์ป่าต่างๆ โดยมีผู้สอนคือ Langtree (Janet Klein) ลูกสาวเจ้าของโรงเรียนที่กำลังเศร้าใจเนื่องจากคู่หมั้นหายตัวไป โรงเรียนที่จะต้องปิดตัวลงเพราะไม่มีเงินทุน และกอริลลาดุร้ายที่มักจะปรากฏตัวขึ้นมาสร้างความปั่นป่วน
พวกเขาหลงทางอีกครั้ง และตัดสินใจเข้าไปในโรงเตี๊ยมเพื่อถามชาวบ้าน แต่กลับได้รับคำเตือนเรื่อง The Beast อสูรร้ายที่ใช้เวทมนตร์เสกให้คนกลายเป็นต้นไม้ เพื่อใช้กลั่นเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับตะเกียงของมัน
เจ้าของโรงเตี๊ยมย้ำว่ามีอสูรร้ายเพียงตนเดียวในป่าพิศวงที่ถือตะเกียง ทำให้ Wirt เริ่มเชื่อว่าชายตัดฟืนอาจเป็นอสูรร้ายปลอมตัวมา
การจะไปถึงบ้านของ Adelaide จำเป็นต้องขึ้นเรือเฟอร์รี่ และต้องต้องใช้เงินซื้อตั๋ว Beatrice และ Fred (Fred Stoller) ม้าพูดได้ เห็นพ้องต้องกันว่าจะขโมยเงินของ Quincy Endicott เศรษฐีเจ้าของไร่ชา ซึ่งกำลังสับสนว่าเขาตกหลุมรักวิญญาณสาวสวยที่เขาพบในคฤหาสน์ของเขา หรือกำลังจะเป็นบ้าเพราะเห็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง
OVER the GARDEN WALL คือแอนิเมชันแนวแฟนตาซี (แฝงความไซโคทริลเลอร์) ที่ยอดเยี่ยม ทั้งลายเส้น ดนตรีประกอบ การออกแบบตัวละคร เนื้อเรื่องที่มีความสลับซับซ้อน กับฉากหน้าที่ดูเป็นการ์ตูนสำหรับเด็ก โดยมี Greg เป็นเหมือนตัวแทนของเด็ก เขาตื่นเต้นกับทุกสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนในดินแดนพิศวง เขามีความร่าเริงเหลือล้น ไม่กลัวที่จะพูดคุยกับคนแปลกหน้าหรือสัตว์ที่ไม่รู้จัก กล้าที่จะทดลองสิ่งใหม่ๆ
ส่วน Wirt เป็นเหมือนตัวแทนของวัยรุ่น ที่มีมุมมองต่างจากเด็ก มีความสับสนในความคิด ไม่ยอมเชื่อใจใครง่ายๆ มีความเกรี้ยวโกรธเมื่อน้องไม่ยอมทำตามที่เขาบอก เมื่อเจอสถานการณ์ที่ดูไม่ดี ก็มักจะพยายามหนี หรือจินตนาการถึงผลลัพธ์ในแง่ร้ายไว้ก่อน
แม้จะบอกว่า OVER the GARDEN WALL เป็นการ์ตูนเด็ก แต่มันก็เป็นการ์ตูนที่ค่อนข้างน่ากลัว โดยในแต่ละตอนจะมีองค์ประกอบหลอนๆ อาทิ หมาปิศาจตัวใหญ่ที่มีดวงตาเรืองแสง ชาวบ้านหัวฟักทองที่ร่างจริงเป็นโครงกระดูก หรือคุณป้าหัวโตที่กินเต่าสีดำเป็นอาหาร รวมกับบรรยากาศวังเวงของฤดูใบไม้ร่วงย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งข้างใต้ภาพ บทพูด และเพลงประกอบเหล่านั้น ก็ยังมีความหมายแฝง ที่ผู้ชมวัยผู้ใหญ่สามารถหยิบไปขบคิดได้อีก
ชอบการเล่นกับความคาดหวังของผู้ชม ที่เรามักจะคาดเดาล่วงหน้าว่าเนื้อเรื่องจะเดินไปต่ออย่างไร หรือจุดจบของการเดินทางอยู่ที่ไหน คนที่มีรูปลักษณ์ภายนอกน่ากลัวอาจไม่ได้เป็นคนชั่วอย่างที่คิด
เฉกเช่นเดียวกันกับหญิงสาวที่สวยงามอาจซ่อนบางอย่างที่น่ากลัวไว้ภายใน สิ่งที่เราคิดหรือเชื่อ ก็อาจไม่ใช่ความจริงทั้งหมด
ส่วนน่าทึ่งมากก็คือจุดหักมุมที่เก็บซ่อนไว้อย่างแยบยล และสร้างความประทับใจสุดเมื่อมันถูกเปิดเผยออกมาในสองตอนสุดท้าย
OVER the GARDEN WALL ฉายทางครั้งแรก Cartoon Network วันที่ 3 พฤศจิกายน 2014 และวางจำหน่ายในรูปแบบ DVD วันที่ 8 กรกฎาคม 2015 โดยมีแอนิเมชันสั้นเรื่อง TOME of the UNKNOWN ที่เป็นจุดกำเนิดของมินิซีรีส์แถมมาด้วย
บริษัท Madman Entertainment วางจำหน่าย OVER the GARDEN WALL ในรูปแบบ Blu-ray วันที่ 6 เมษายน 2016 เฉพาะในประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เท่านั้น ส่วนในสหราชอาณาจักร มินิซีรีส์เรื่องนี้ก็ได้วางจำหน่ายภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Manga Entertainment วันที่ 2 มีนาคม 2020 — ส่วนในประเทศไทย ซีรีส์เรื่องนี้สามารถชมได้ทาง HBO GO