Aleksandra (Светла́на Хо́дченкова) นักกีฬาฟันดาบหญิง Sabre อันดับหนึ่งในรัสเซีย เธอเป็นหัวหน้าทีมฟันโอลิปิกฟันดาบที่มีเป้าหมายสุดท้ายคือเหรียญทองโอลิมปิกประเภทหญิงเดี่ยว ซึ่งเธอพลาดคว้าได้เพียงเหรียญเงินในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งก่อน และนี่อาจเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายของเธอที่จะสามารถเข้าร่วมได้ในฐานะนักกีฬา

Kira (Ста́ся Милосла́вская) สาวน้อยหน้าใหม่ที่ใช้ความเร็วและสัญชาตญาณเอาชนะคู่ต่อสู้จนสามารถมาพบกับ Aleksandra ในรอบชิงชนะเลิศชิงถ้วยแห่งชาติรัสเซีย ซึ่ง Aleksandra สามารถใช้ประสบการณ์และเทคนิคที่สั่งสมมาเอาชนะเธอไปได้อย่างเฉียดฉิว

วันต่อมา Gavrilov (Сергей Пускепалис) โค้ชทีมชาติก็พาตัว Kira เข้ามาร่วมทีมด้วย เขาเชื่อว่าสัญชาตญาณและความเร็วของเธอจะนำชัยชนะมาได้ แต่ Aleksandra กลับเห็นว่า Kira ยังอ่อนด้อยทั้งประสบการณ์และเทคนิค สิ่งเหล่านี้ไม่สามาถฝึกสอนให้ถึงระดับโอลิมปิกได้ภายในระยะเวลา 1 ปี

ในฐานะหัวหน้าทีม Aleksandra พร่ำบอก Kira ว่าทีมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เป็นเหมือนครอบครัว ถ้าไม่มีทีมก็ไม่มีเธอ แต่ส่วนลึกในใจของ Aleksandra นั้น เธอคิดว่า Kira กำลังมาเขย่าบัลลังก์ และอาจจะกลายเป็นอุปสรรคที่มาขัดขวางเป้าหมายเหรียญทองโอลิมปิกของเธอ

ชื่อเสียงของ Kira โด่งดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเธอเดินสายคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันนอกประเทศ จน Aleksandra คิดว่าถ้าเธอไม่ลงมือทำอะไรสักอย่างโดยเร็ว วันที่เธอจะพ่ายแพ้ก็คงมาถึงในไม่ช้านี้ เธอรู้ว่า Kira ไม่ลงรอยกับพ่อเท่าไหร่ เธอเห็นโอกาสเมื่อพ่อของ Kira มาปรากฏตัวอยู่หน้าทางเข้าก่อนการแข่งขัน เธอจึงแสร้งทำตัวเป็นคนดีพาเขาเข้ามาพบกับ Kira

และมันก็ได้ผล จิตใจของ Kira สั่นคลอนจนสมาธิไม่อยู่กับการแข่งตามที่ Aleksandra คาดการณ์เอาไว้ นอกจากนี้เธอยังใช้จังหวะระหว่างการแข่งขันผลัก Kira จนล้มได้รับบาดเจ็บที่เส้นเอ็นเข่า ต้องพักรักษาตัวถึง 3 เดือน ทำให้โค้ชตัด Kira ออกจากทีม

แม้ว่าทุกคนจะมองว่ามันเป็นอุบัติเหตุที่สามารถเกิดขึ้นได้ในการแข่งขัน แต่ Aleksandra กลับรู้สึกผิดในการกระทำของเธอ และต้องการชดเชยด้วยการแอบมาฝึกให้กับ Kira โดยที่โค้ชไม่รู้ อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดโค้ชก็รู้เรื่อง และเปิดเผยความจริงว่าเขานำตัว Kira มาเข้าทีมเพื่อต้องการปลุกสัญชาตญาณที่ต้องการเอาชนะของ Aleksandra ขึ้นมาอีกครั้งเท่านั้น ทุกคนในทีมจึงหันมาปกป้อง Kira เพื่อให้เธอกลับมาเข้าทีมเพื่อไปแข่งขันโอลิมปิกในรีโอเดจาเนโร

ฉากแข่งฟันดาบทำออกมาได้ดีมาก ชอบเทคนิคการถ่ายทำที่ดูแล้วลุ้นไปด้วย สนุกสมเป็นกีฬาที่แพ้ชนะคาดเดากันไม่ได้ พลิกผันกันได้ในเสี้ยววินาที

แม้ว่าจะไม่ค่อยชอบเพลงประกอบกับสเปเชียลเอฟเฟคคะแนนที่ลอยออกมากลางอากาศเท่าไหร่นัก ส่วนตัวคิดว่าถ้าใช้เป็นแบนเนอร์แสดงคะแนนเหมือนที่ถ่ายทอดทางโทรทัศน์น่าจะดูสมจริงกว่านี้

นักแสดงนำทั้งสองคน Светла́на Хо́дченкова (Svetlana Khodchenkova) และ Ста́ся Милосла́вская (Stasya Miloslavskaya) เล่นได้สมบทบาท ติดแค่บทยังไม่ค่อยพีคเท่าที่ควร หรือเพราะว่ามันเป็นภาพยนตร์ดรามาเกี่ยวกับกีฬา มันก็เลยไปได้แค่นี้ อาจเป็นเพราะเป็นเรื่องทีมชาติรัสเซียด้วย มืดมนกว่านี้คงเป็นไปได้ยาก

แต่โดยรวมก็ยังชอบนะ เพราะไม่ค่อยจะได้เห็นภาพยนตร์เกี่ยวกับ Fencing หรือกีฬาฟันดาบ

ภาพยนตร์ภาษารัสเซีย ผลงานกำกับของ Эдуард Бордуков (Eduard Bordukov) ที่เขาร่วมเขียนบทด้วย ตัวบทส่วนหนึ่งน่าจะได้แรงบันดาลใจมาจากการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนครั้งที่ 31 จัดขึ้นในปี 2016 ที่ Rio de Janeiro ประเทศบราซิล โดยผลการแข่งขันในครั้งนั้น นักกีฬาฟันดาบหญิงประเภท Sabre ของรัสเซียสามารถคว้าเหรียญทองมาได้ทั้งประเภทเดี่ยว Individual sabre (Яна Карапетовна Егорян / Yana Egorian) และประเภททีม Team sabre (Софья Александровна Великая / Sofia Velikaya, Яна Карапетовна Егорян / Yana Egorian, Екатерина Владимировна Дьяченко / Ekaterina Dyachenko, Юлия Петровна Гаврилова / Yuliya Gavrilova) และยังได้เหรียญทองจาก Foil ในประเภทหญิงเดี่ยว (И́нна Васи́льевна Деригла́зова / Inna Deriglazova)

НА ОСТРИЕ (ON THE EDGE) ฉายครั้งแรกในสหพันธรัฐรัสเซียวันที่ 26 พฤศจิกายน 2020

Saber fencing is like Formula 1 racing. It’s aggressive, fast and requires split-second decision making. — Daryl Homer (US Olympic saber fencer)

กีฬาฟันดาบในการแข่งโอลิมปิกจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ Foil, Épée และ Sabre โดยในแต่ละประเภทก็จะมีรูปแบบของดาบและกฏแตกต่างกัน

Foil

นักกีฬาสามารถทำคะแนนได้เมื่อปลายดาบสัมผัสกับส่วนกลางตัวของคู่ต่อสู้ ตั้งแต่หัวไหล่จนถึงขาหนีบและถึงส่วนเอวทางด้านหลังเท่านั้น ถ้าดาบสัมผัสโดนแขน ขา คอ หรือศีรษะ ก็จะถือว่าผิดกฏ นักกีฬาต้องใช้ทักษะวางแผนป้องกันไม่ให้คู่ต่อสู้ทำคะแนน พร้อมกับพลิกให้เป็นโอกาสที่ตัวเองจะทำคะแนนได้

Épée

นักกีฬาสามารถทำคะแนนได้เมื่อปลายดาบสัมผัสกับร่างคู่ต่อสู้ตรงส่วนไหนก็ได้ แต่ความยากอยู่ตรงที่การบังคับทิศทางของดาบซึ่งมีน้ำหนักถึง 770 กรัม เมื่อเทียบกับดาบที่ใช้ใน Foil หรือ Sabre ที่มีน้ำหนักเพียง 350 – 400 กรัม

Sabre

นักกีฬาสามารถทำคะแนนได้เมื่อปลายดาบสัมผัสกับร่างคู่ต่อสู้ รวมถึงการใช้ด้านข้างของดาบสัมผัสได้ทุกส่วนที่อยู่เหนือเอวขึ้นไปจนถึงศีรษะ ยกเว้นมือ ส่วนหน้ากากที่ใช้ป้องกันใบหน้าของนักกีฬาก็จะเชื่อมกับระบบไฟฟ้าเพื่อบันทึกแต้มอัตโนมัติเมื่อถูกดาบสัมผัส Sabre เป็นดาบที่มีความยาวน้อยที่สุดและเบาที่สุดในสามประเภท เน้นการบุกเข้าปะทะอย่างรวดเร็วและมีความรุนแรงที่สุดในกีฬาฟันดาบ