ภาพยนตร์แนวสยองขวัญจากประเทศอิตาลี ผลงานของ Dario Argento กับเรื่องราวของหญิงโสเภณีที่ประสบอุบัติเหตุ ทำให้เธอสูญเสียการมองเห็น แต่ชีวิตของเธอยังคงตกอยู่ในอันตราย เมื่อเธอตกเป็นเป้าหมายของฆาตกรต่อเนื่อง
OCCHIALI NERI
DARK GLASSES
Dario Argento
(2022)
เกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในกรุงโรม ประเทศอิตาลี คนร้ายลงมือสังหารผู้หญิงอย่างโหดเหี้ยมด้วยการรัดคอ ทางตำรวจก็ยังไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้ มีเพียงคำให้การของพยานที่เห็นเหตุการณ์ว่าเห็นคนร้ายขับรถตู้สีดำหนีไปจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว และจุดเชื่อมโยงของเหยื่อทั้งหมดก็คือทุกคนล้วนเป็นหญิงขายบริการทางเพศ
Diana (Ilenia Pastorelli) โสเภณีถูกคนร้ายขับรถตู้ไล่ตาม เธอพยายามขับรถหนีด้วยความหวาดกลัวแต่ก็ไม่พ้น รถของเธอถูกรถตู้ของคนร้ายพุ่งชนจนเสียหลัก ไปชนกับรถอีกคันที่บังเอิญผ่านมา เป็นเหตุให้คนขับชายชาวจีนเสียชีวิตทันที ส่วนผู้หญิงก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสปางตาย มีเพียง Chin (Xinyu Zhang) ลูกชายของพวกเขาที่รอดชีวิตโดยไม่ได้รับบาดเจ็บราวกับปาฏิหาริย์
Diana ฟื้นสติขึ้นมาในโรงพยาบาล และพบว่าตัวเองสูญเสียการมองเห็น เนื่องจากได้รับศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายที่ขับรถตู้สีขาวไล่ตามเธอจนเกิดอุบัติเหตุ คือฆาตกรต่อเนื่องที่เจาะจงฆ่าเฉพาะหญิงโสเภณี และเธอก็คือเป้าหมายรายที่สี่
สมาคมผู้พิการทางสายตาส่ง Rita (Asia Argento) มาเป็นครูผู้ฝึกสอนช่วย Diana ให้สามารถใช้ชีวิตด้วยตัวเอง และยังพาไปรับสุนัขนำทางที่จะคอยปกป้องเธออีกด้วย ขณะเดียวกันคนร้ายที่รู้ว่าเธอยังไม่ตาย ก็ยังคงไม่ลดละความพยายามที่จะสังหารเหยื่อที่เป็นเป้าหมายของเชา
ผลงานภาพยนตร์แนว giallo ของ Dario Argento ผู้กำกับชาวอิตาเลียนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุค 70s – 80s ด้านภาพยนตร์สยองขวัญจนได้รับสมญานามว่า Master of Horror มีผลงานสร้างชื่อคือ Suspiria (1977)
ภาพยนตร์แนว giallo คือแขนงหนึ่งในภาพยนตร์อิตาลี ถือกำเนิดขึ้นมาในยุค 60s และได้รับความนิยมสูงสุดในยุค 70s ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะในด้านคดีฆาตกรรมปริศนา มีความไซโค มีความทริลเลอร์ และนำเสนอภาพของการฆ่าเหยื่ออย่างสยอดสยองเช่นเดียวกับแนว slasher ตัวเอกของเรื่องมักจะเป็นผู้หญิงที่ถูกคนร้ายตามล่า โดยใบหน้าของคนร้ายจะถูกปกปิดไว้จนถึงเวลาเฉลยตัวจริงในช่วงท้ายของเรื่อง
ชอบโครงเรื่องช่วงแรก และเพลงประกอบแนวอิเล็กทรอนิกส์ที่ให้อารมณ์แบบภาพยนตร์สยองขวัญยุค 70s แต่หลังจากเธอไปบ้านเด็กกำพร้าเพื่อเยี่ยมเด็กจีนที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุแล้ว ทุกอย่างก็ดิ่งหลงเหวไปเลย ตรรกะและสามัญสำนึกพินาศไปหมด
ตั้งแต่ฉากที่ตำรวจพยายามยิงปืนใส่รถตู้ของคนร้ายในซอยแคบๆ แต่ยิงไม่โดนสักนัด จนถูกรถตู้ชนกระเด็นตาย ตำรวจหญิงอีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ก็วิ่งเข้าไปดูศพ ร้องห่มร้องไห้อยู่หน้ารถตู้ของคนร้าย แทนที่จะเข้าไปจับคนร้ายก่อน พอนางนึกขึ้นได้ว่าคนร้ายยังอยู่ในรถ นางก็ถือปืนไปเปิดประตูรถ แต่ถูกคนร้ายผลักประตูกระแทกหน้าจนล้มตึง แล้วก็ถูกคนร้ายใช้มีดปักหลังจนตาย เออ ถ้าจะโง่ขนาดนี้ก็สมควรแล้วนะ
ความบ้าบอยังไม่หมดแค่นั้น อิเด็กจีนเกิดกลายเป็นคนดี โทรไปบอกตำรวจหญิง (ที่เพิ่งถูกมีดแทงตายไปนั่นแหละ) ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน โดยที่ไม่รู้ว่าคนร้ายเก็บโทรศัพท์มือถือของตำรวจหญิงไปด้วย คนร้ายก็เลยรู้ที่ซ่อนของนางเอกว่านางหลบอยู่ที่บ้านของ Rita
ระหว่างทางคนร้ายขับรถตู้สวนกับรถของ Rita ต่างฝ่ายต่างจำกันได้ โอ๊ย นี่มันคือมุขตลกหรือเปล่า?! Rita จำได้ว่ารถตู้สีขาวคือรถของคนร้าย ส่วนคนร้ายก็จำได้ว่า Rita คือผู้หญิงที่อยู่กับนางเอก คนร้ายก็วนรถกลับไปตามฆ่า Rita ซึ่งโทรไปเตือน Diana ว่าเธอเห็นรถตู้สีขาวกำลังมุ่งหน้าไปที่บ้าน
Diana ก็ต้องหาทางหนี แต่จะหนีไปไหนได้ รถก็ไม่มี อิเด็กจีนตัวซวยก็แนะนำให้เดินเข้าไปในป่า เดินกันยังไงก็ไม่รู้ ไปโผล่เจอศพ Rita พอดี นางก็ร้องห่มร้องไห้ (นี่เธอกำลังโดนฆาตกรโรคจิตตามล่าอยู่นะ ช่วยลำดับความสำคัญในสมองด้วย)
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เดินหนีต่อ (ตอนนี้คนร้ายน่าจะเคลื่อนตัวด้วยความเร็วเท่าเต่า เพราะเดินตามคนตาบอดกับเด็กไม่ทันสักที) จนไปเจอหนองน้ำที่เต็มไปด้วยงู แล้วทั้งคู่ก็ถูกฝูงงูหลายสิบตัวรุมกัด ทั้งรัดแขน รัดคอ ทั้งคู่ก็ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจ ที่น่าจะได้ดังไปไกลประมาณ 10 กิโลเมตร แต่คนร้ายก็ไม่ปรากฏตัว
แม้จะถูกงูรัดคอและกัดทั่วตัว ทั้งคู่ก็ยังหลุดรอดมาขอความช่วยเหลือบนถนนได้ (คนปกติโดนงูรัดขนาดนั้น ถ้าไม่ตายเพราะพิษงู ก็คงเป็นลมจมน้ำในบึงตายไปแล้ว) โชคดีที่มีพลเมืองดีขับรถผ่านมา แต่แทนที่จะพาพวกเขาขึ้นรถหนีไป คนขับรถกลับหยิบปืนลูกซองออกมารอคนร้าย! ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็ถูกคนร้ายขับรถตู้ชนกระเด็นไปอีกคน นางเอกกับเด็กจีนก็ต้องหนีต่อ
มาถึงจุดนี้เราแอบเชียร์คนร้ายให้ฆ่าทั้งนางเอกและเด็กจีนได้สักที พวกคนที่อยู่ใกล้ใครก็ซวยไปหมดแบบนี้ อยู่ไปก็รกโลก
OCCHIALI NERI (Dark Glasses) ฉายรอบปฐมทัศน์ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ Berlin วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2022 ก่อนจะเข้าฉายในประเทศอิตาลี วันที่ 24 กุมภาพันธ์