MULAN
Niki Caro
(2020)
โปรเจ็ค Mulan ฉบับคนแสดงที่ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์แอนิเมชันปี 1998 ซึ่งกวาดรายได้ไป 304 ล้านเหรียญ (ทุนสร้าง 90 ล้านเหรียญ) ได้มีการเปิดประเด็นกันมาตั้งแต่ปี 2010 โดยมีการเลือกตัวนักแสดงนำ Zhang Ziyi (จาง ซิยี่) และผู้กำกับ Chuck Russell (The Mask, Eraser) แต่โปรเจ็คก็โดนพับเก็บไป จนกระทั่งปี 2015 ก็มีรายงานว่า Disney เลือก Elizabeth Martin และ Lauren Hynek มาเป็นคนเขียนบทสำหรับภาพยนตร์ แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้เป็นมือเขียนบทที่มีชื่อเสียง
ในปี 2016 Disney จึงจ้าง Rick Jaffa และ Amanda Silver (The Relic, Rise of the Planet of the Apes, Jurassic World, Dawn of the Planet of the Apes, Jurassic World, In the Heart of the Sea, War for the Planet of the Apes, Avatar 3) คู่นักเขียนบทมือโปรมาเขียนบทใหม่อีกครั้ง และเลือก (Liu Yifei) หลิว อี้เฟย์ รับบทเป็น Mulan
Niki Caro ผู้กำกับหญิงที่มีผลงานสร้างชื่อจากภาพยนตร์ Whale Rider (2002) McFarland, USA (2015) และ The Zookeeper’s Wife (2017) ถูกเลือกมาเป็นผู้กำกับ ใช้ทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญ กลายเป็นภาพยนตร์ที่ใช้ทุนสร้างสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ (ที่มีผู้หญิงเป็นผู้กำกับ)
ฉบับภาพยนตร์ปี 2020 ไม่มีตัวละคร Mushu มังกรจิ๋วคู่หูสุดฮาที่ทุกคนจำได้จากแอนิเมชัน เนื่องจากไม่ได้รับความนิยมจากขาวจีน ที่คิดว่ามังกรเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรนำมาใช้เป็นตัวละครตลกโง่ๆ และประเทศจีนก็เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ Disney จึงนับเป็นการตัดสินในที่ดีในแง่ของการตลาด แต่อาจจะไม่ถูกใจแฟนๆ นอกประเทศจีนเท่าไหร่นัก
Mulan เป็นตัวละครหญิงที่ได้แรงบันดาลใจมาจากตำนานของ Hua Mulan (花木蘭) ผู้หญิงที่มีชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 4 – 6 ในประเทศจีน เธอปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อเข้าร่วมรบแทนพ่อของเธอที่ชรามากแล้ว หลังจากที่เธอทำภารกิจจนสำเร็จ และได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ์ เธอก็ปฏิเสธตำแหน่งในวังเพื่อเดินทางกลับหมู่บ้านของเธอ และเปิดเผยความจริงเรื่องที่เธอเป็นผู้หญิง
Böri Khan (Jason Scott Lee) กับกองทัพของเขาบุกเข้าทำลายป้อมปราการของจักรพรรดิ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางค้าขายที่เรียกว่าว่าเส้นทางสายไหม (Silk Road) ทำให้การค้าขายต้องหยุดชะงัก ส่งผลร้ายต่อเมืองหลวง
กองทับของ Khan รับการฝึกฝนและช่วยเหลือจาก Xian Liang (Gong Li) สตรีลึกลับที่มีพลังสูงส่ง มีความสามารถในการสู้รบ และยังแปลงร่างได้ ผู้คนต่างเรียกเธอว่าแม่มด
จักรพรรดิ์ (Jet Li) จึงมีบัญชาให้ทุกครอบครัวในประเทศจีนส่งตัวผู้ชายมาครอบครัวละ 1 คนเพื่อเข้าร่วมกองทัพที่จะขจัด Böri Khan
ครอบครัวตระกูล Hua มีเพียงลูกสาว 2 คน ทำให้ Hua Zhou (Tzi Ma) ซึ่งเป็นผู้ชายคนเดียวในบ้าน ต้องเข้าร่วมกองทัพอีกครั้งแม้ว่าตัวเขาจะชรามากแล้ว แต่ Mulan ไม่สามารถยอมให้พ่อออกไปรบ เธอจึงแบบขโมยดาบกับชุดเกราะของพ่อ แล้วหนีออกจากบ้านเพื่อเข้าร่วมกองทัพ ส่วนครอบครัวของเธอเมื่อทราบเรื่องก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้าพวกเขาไปตามตัวเธอกลับมา ความลับที่เธอเป็นผู้หญิงก็จะแตก และเธอก็คงต้องถูกประหารชีวิต
Disney ไม่ได้ดัดแปลงจากแอนิเมชันมาเป็นคนแสดงแบบเดียวกับภาพยนตร์เรื่องก่อนๆ อย่าง Cinderella, Beauty & The Beast หรือ Aladdin ที่ยังคงมีส่วนความเป็นมิวสิคัล มีลูกเล่นและมุขตลกที่แม้ว่าจะไม่ได้ระดับการ์ตูน แต่ก็ยังคงส่วนที่แฟนการ์ตูนคาดหวังไว้ว่าจะได้เห็น
แต่สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ แทบจะไม่เหลืออะไรเลยจากฉบับการ์ตูน นอกจากตัวเอกที่ชื่อ Mulan กับเสียงเพลง Reflection ที่ล่องลอยมาให้ได้ยินกันในบางฉาก แน่นอนว่าไม่มีเพลง I’ll Make A Man Out Of You
นอกจากนี้บทของกัปตัน Li Shang ก็ถูกตัดทิ้งไปด้วย ด้วยสาเหตุจาก #MeToo Movement การที่หัวหน้าที่เป็นผู้ชายมีความรักกับลูกน้อง (ที่เป็นผู้หญิง) นั้นเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม แต่ก็ยังโดนกลุ่ม LGBTQ วิจารณ์ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง Li Shang และ Mulan ซึ่งปลอมตัวเป็นผู้ชาย (Li Shang ไม่รู้ว่า Mulan เป็นผู้หญิง) และยังคงรัก Mulan ตอนที่รู้ความจริงว่าเป็นผู้หญิง ถือว่า Li Shang เป็นตัวละคร bisexual ได้ จึงไม่ควรตัดตัวละครตัวนี้ออก — อย่างไรก็ตามบทตัวละคร Chen Honghui ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทดแทน โดยเขาเป็นทหารระดับเดียวกันกับ Mulan และยังมีความสนใจในตัว Mulan ขณะที่เขาคิดว่าเธอเป็นผู้ชาย
มันเป็นเรื่องยากที่จะพูดถึงภาพยนตร์ Mulan โดยที่ไม่เอาไปเปรียบเทียบกับฉบับแอนิเมชันที่ทำออกมาได้มีเอกลักษณ์มาก ทั้งลายเส้น การเคลื่อนไหว และดนตรีประกอบ
ในแง่ดีก็คือ Disney ไม่ได้พยายามจะแปลง Mulan จากแอนิเมชันมาเป็นภาพยนตร์ แต่พยายามสร้างสิ่งใหม่ๆ โดยใช้โครงเรื่องเดิม มีการนำเสนอตัวร้ายตัวใหม่อย่างแม่มดที่รับบทโดย Gong Li (กง ลี่) แต่กลับไม่มีการพัฒนาตัวละครใดๆ ทุกตัวละครมีแค่คาแรกเตอร์แบนๆ ว่าเป็นคนดี หรือคนร้าย เหมือนคาแรกเตอร์ในการ์ตูนสำหรับเด็ก ตัวละครคุณย่าก็ถูกตัดไป แต่กลับเพิ่มตัวละครน้องสาวที่ไม่ได้มีประโยชน์ใดๆ กับเนื้อเรื่องเลย
ส่วนเรื่องบ้านของตระกูล Mulan ก็ต่างจากฉบับแอนิเมชันอย่างสิ้นเชิง จากของเดิมที่ดูเป็นบ้านใหญ่โต มีสวน มีบึงขนาดใหญ่ที่นางไปนั่งร้องเพลง Reflection มีเรือนเก็บป้ายบูชาเหล่าบรรพชน มีรูปปั้นมังกร ในฉบับภาพยนตร์กลายเป็นบ้าน colony วงกลมที่อยู่รวมกับชาวบ้านคนอื่นๆ (ดูแล้วนึกถึง Pig Sty Alley จาก Kung Fu Hustle) อันนี้อาจเป็นเพราะต้นฉบับตำนานจีนหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ แต่เราก็ติดตากับภาพบ้านในแอนิเมชันของนางดูเหมือนบ้านขุนนางชนบทสมัยก่อนไปแล้ว
ฉากต่อสู้ก็ออกแบบมาใช้ได้ แต่มันยังดูตะกุกตะกัก มันดูไม่สมจริงและขาดความประณีต เอาจริงๆ มันยังเทียบไม่ได้กับ Crouching Tiger, Hidden Dragon ภาพยนตร์ที่ออกมาเมื่อ 20 ปีก่อนเลยด้วยซ้ำ