ภาพยนตร์ดัดแปลงจาก MRS. ‘ARRIS GOES TO PARIS หนังสือนิยายของ Paul Gallico นักเขียนชาวอเมริกัน ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1958 ซึ่งเป็นหนังสือเล่มแรกของซีรีส์ โดยมีหนังสือตามออกมาอีก 3 เล่มคือ MRS. ‘ARRIS GOES TO NEW YORK (1960), MRS. ‘ARRIS GOES TO PARLIAMENT (1965) และ MRS. ‘ARRIS GOES TO MOSCOW (1974) บอกเล่าเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางของหญิงรับจ้างทำความสะอาดบ้านในลอนดอน

Ada Harris (Lesley Manville) หญิงรับจ้างทำความสะอาดบ้านในปี 1957 ทำหน้าที่คล้ายสาวใช้ เพียงแต่เธอไม่ได้เป็นลูกจ้างถาวรและไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านของนายจ้าง เธอเก็บกล่องพัสดุที่เธอได้รับมาตั้งแต่ปี 1944 หลังจากที่สามีของเธอเข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่สองและไม่กลับมาอีกเลย เธอคิดว่าถึงเวลาที่เธอต้องยอมรับความจริงว่าสามีของเธอได้จากโลกนี้ไปแล้ว ภายในกล่องนั้นบรรจุแหวนที่กู้มาได้จากซากเครื่องบิน พร้อมกับจดหมายรายงานว่าสามีของเธอเสียชีวิตในสนามรบ

เธอรับงานทำความสะอาดบ้านของหญิงสาวที่ฝันอยากเป็นจะเข้าวงการนักแสดง และบ้านของคุณนายที่ดูร่ำรวย แต่ฐานะการเงินฝืดเคืองจนต้องขนรูปภาพศิลปะไปขาย แถมยังงกไม่ยอมจ่ายเงินค่าจ้างทำความสะอาด พยายามบ่ายเบี่ยงเมื่อถูกทวง โดยอ้างว่าเศรษฐกิจไม่ดี ต้องประหยัด ลดค่าใช้จ่ายในบ้าน

ชีวิตสามัญธรรมดาที่เศร้าหมองของ Ada ถูกจุดประกายขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเธอเห็นชุด Christian Dior ของคุณนายที่ซื้อมาจากห้องเสื้อในปารีส ประเทศฝรั่งเศส ด้วยราคาสูงถึง 500 ปอนด์ (ในปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 12,000 ปอนด์ หรือประมาณ 500,000 บาท) มันกลายเป็นความฝันของเธอที่จะต้องเก็บเงินเพื่อเดินทางไปปารีสและซื้อชุดของ Dior มาให้ได้

เธอได้รับเงินบำนาญก้อนหนึ่งที่มอบให้กับหญิงม่ายที่สามีเสียชีวิตในสงครามและยังไม่ได้แต่งงานใหม่ เธอจึงสามารถเดินทางไปปารีสได้ เมื่อเธอไปถึงห้องเสื้อ Dior ก็พบว่ามันเป็นวันแสดงแฟชันโชว์ครบรอบ 10 ปีพอดี

และเหตุบังเอิญนี้ยังทำให้เธอได้รู้จักเพื่อนใหม่หลายคน คือ Marquis de Chassagne (Lambert Wilson) พ่อหม้ายผู้ดีเก่า, Natasha (Alba Baptista) สาวสวยนางแบบแถวหน้าของแบรนด์ที่คิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับการเป็นนางแบบ, André (Lucas Bravo) ผู้ดูแลบัญชีที่ชอบอ่านหนังสือปรัชญาและรู้ความจริงเกี่ยวกับฐานะทางการเงินที่ไม่ดีของห้องเสื้อ, รวมถึง Claudine (Isabelle Huppert) ผู้ดูแลจัดการธุรกิจที่ในตอนแรกไม่ชอบเธอเพราะคิดว่าลักษณะท่าทางของ Ada ไม่เหมาะกับชุดเฉิดฉายอลังการของ Dior ที่เป็นเสื้อผ้าชั้นสูง

ชอบการเล่าเรื่องที่สนุก สามารถดูได้อย่างเพลิดเพลิน แม้ว่าจะมีหลายจุดที่ดูเหนือจริงเกินไปหน่อย อาทิ ทุกคนในปารีสพูดภาษาอังกฤษได้คล่องกันทุกคนเลย ทุกคนเป็นคนดีเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือความซวยซ้ำซวยซ้อนที่ตอนหลังก็ยังมีความโชคดีในโชคร้ายมาช่วยเยียวยาจิตใจ ชอบพล็อตเรื่องรองของตัวละครสบทบที่มีความ romantic comedy น่ารักแบบความรักของหนุ่มสาว นักแสดงทุกคนเล่นไ้ด้สมบทบาท โดยเฉพาะ Lesley Manville ที่เจิดจรัสสุดในเรื่องนี้

ส่วนที่ไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ก็คือตัวละคร Claudine ที่รับบทโดย Isabelle Huppert ซึ่งปกติเป็นนักแสดงคนโปรด แต่ครั้งนี้ไม่แน่ใจว่ามันเป็นการแสดงแบบที่ตรงตามกับหนังสือต้นฉบับหรือเปล่า เป็นตัวละครตัวเดียวที่รู้สึกว่าไม่มีมิติใดๆ มันไม่น่าจดจำ และธรรมดาจนคิดว่าเอานักแสดงคนอื่นมาเล่นก็คงไม่รู้สึกต่างกันเท่าไหร่

Mrs. Harris Goes To Paris เข้าฉายในสหรัฐอเมริกาวันที่ 15 กรกฎาคม 2022 ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Focus Features ส่วนการจัดจำหน่ายนอกประเทศเป็นของ Universal Pictures ซึ่ง “มิสซิสแฮร์ริสไปปารีส” มีกำหนดเข้าฉายในประเทศไทยวันที่ 22 กันยายน เฉพาะโรงภาพยนตร์ในเครือ SF