L’EMPEREUR
MARCH OF THE PENGUINS 2: THE NEXT STEP
Luc Jacquet
(2017)
ภาพยนตร์สารคดีภาษาฝรั่งเศส ภาคต่อของ La Marche de l’empereur (2005) ซึ่งในช่วงแรกมีทั้งชื่อ La Marche de l’empereur 2 และ La Marche de l’empereur: l’appel de l’Antarctique แต่สุดท้ายก็มาลงที่ชื่อ L’Empereur ส่วนชื่อภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการคือ March of the Penguins 2: The Next Step (ฟังดูเบสิค ไม่อลังการเลย)
เรื่องราวของ Emperor Penguin หรือ เพนกวินจักรพรรดิ ซึ่งเป็นเพนกวินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจำนวนเพนกวินต่างๆ ที่มีถิ่นฐานอยู่ในทวีปแอนตาร์กติกา สถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายที่สุดบนโลก — ในสภาพอากาศที่หนาวเย็นเช่นนี้ มนุษย์หรือสัตว์ทั่วไปคงจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงโดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน
ทุกครั้งที่เดินทางกลับมาที่ Oamock ซึ่งเป็นเหมือนโอเอซิสท่ามกลางน้ำแข็งและหิมะ สถานที่ที่เหล่าเพนกวินมากกว่า 7,000 ตัวมารวมกัน มันก็จะพบกับปัญหาเดิมๆ คือการตามหาลูกของมัน จากฝูงเพนกวินที่หน้าตาคล้ายกันไปหมด วิธีเดียวที่มันจะทำได้คือส่งเสียงเรียกระหว่างเดินหาไปเรื่อยๆ และหวังว่าจะเจอลูกและคู่ของมัน
เมื่อลูกของมันเริ่มเจริญเติบโต ก็ต้องการอาหารมากขึ้นเรื่อยๆ จนการที่ตัวแม่และพ่อสลับกันออกเดินทางไปทะเลเพื่อนำอาหารกลับมาให้ลูกนั้นไม่พอเพียงอีกต่อไป ทำให้พ่อและแม่ต้องออกไปหาอาหารพร้อมกันเพื่อนำอาหารที่มีปริมาณมากพอสำหรับลูก โดยพวกมันต้องใช้เวลาหลายอาทิตย์ในการเดินทางไปกลับ
นั่นหมายความว่าพวกมันจะต้องทิ้งลูกไว้ตามลำพัง ระหว่างที่พวกมันออกไปหาอาหาร ลูกๆ ของเหล่าเพนกวินก็จะอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม โดยมีเพนกวินผู้ใหญ่คอยดูแล เหมือนสถานรับเลี้ยงเด็กขณะที่พ่อแม่ออกทำงานแบบเดียวกับมนุษย์ นอกจากนี้เพนกวินเด็กๆ ยังต้องพจญกับอันตรายต่างๆ ที่พวกมันไม่เคยเจอมาก่อน เช่น Giant Petrel ซึ่งเป็นนกขนาดใหญ่ที่คอยดักจับลูกเพนกวิน
เพนกวินออกหาอาหารใต้ทะเลลึก บางครั้งพวกมันต้องดำน้ำลงไปกว่า 600 เมตร และอยู่ใต้ผิวน้ำกว่า 20 นาที แผ่นน้ำแข็งที่ลอยอยู่บนผิวทะเล ก็เป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งที่ทำให้มันลอยตัวขึ้นมาไม่ได้ — ความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่งของเพนกวินจักรพรรดิคือ พวกมันรู้ขีดจำกัดของลูกๆ ว่าจะทนความหิวได้นานแค่ไหน แม้ว่าพวกมันจะอยู่ห่างกันหลายร้อยกิโลเมตร
L’Empereur มีการเล่าเรื่องที่ดีและภาพสวยมากเช่นเคย — ผู้บรรยายคือ Lambert Wilson นักแสดงชาวฝรั่งเศสที่มีผลงานเป็นที่รู้จักกันจากบท The Merovingian ใน The Matrix Reloaded
ดนตรีประกอบฝีมือ Cyrille Aufort ซึ่งเคยร่วมงานกับผู้กำกับในภาพยนตร์สารคดี La Glace et le Ciel (Ice and the Sky) ในปี 2015 ก็ไพเราะและเข้ากับภาพเป็นอย่างดี แต่ในใจก็แอบอยากให้ Émilie Simon กลับมาร่วมทำเพลงอีกครั้ง — ส่วนด้านการตัดต่อก็ยังไม่ประทับใจระดับ La Marche de l’empereur เนื่องจากส่วนตัวแล้วชอบการเดินเรื่องแบบ linear มากกว่าการแบ่งเป็นส่วน และใช้การ flashback นอกจากว่ามันสามารถจะทำให้เกิดความพิเศษยิ่งกว่าการเดินเรื่องแบบตามเวลา
ผู้กำกับให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่ต้องรอถึง 12 ปีเพื่อจะทำภาคต่อ เนื่องเทคโนโลยีในปัจจุบันพัฒนาขึ้นมากแล้ว จากที่ใช้ฟิล์ม super 16 ก็เปลี่ยนมาใช้ digital 4K ร่วมกับ sound design ที่ทำให้ผู้ชมได้ยินเสียงในระดับที่ใกล้ตัวเพนกวินมาก ขณะถ่ายทำในอุณหภูมิ ติดลบ 40 องศาเซลเซียส — และยังมีการใช้กล้องถ่ายใต้น้ำได้อย่างสวยงาม ซึ่งไม่สามารถทำได้ในภาคแรก