LA LA LAND
Damien Chazelle
(2016)
ภาพยนตร์มิวสิคัลผลงานของ Damien Chazelle ซึ่งเป็นที่รู้จักกันจากเรื่อง WHIPLASH ซึ่งเรื่องนี้เขาก็เขียนบทเองเช่นกัน
เปิดเรื่องมาอย่างสวยงามด้วยเพลง Another Day of Sun ที่ทุกคนออกมาร้องเล่นเต้นรำระหว่างรถติดอยู่บนถนนใน Los Angeles และเป็นที่ที่ Mia (Emma Stone) เจอกับ Sebastian (Ryan Gosling) เป็นครั้งแรก แต่ทั้งคู่ยังไม่รู้จักกัน
Mia มีความฝันอยากเป็นนักแสดง แต่โอกาสของเธอยังมาไม่ถึงสักที วันที่เธอต้องไปออดิชั่นก็บังเอิญเดินชนกับคนที่ร้าน จนกาแฟหกใส่เสื้อ และในระหว่างที่เธอกำลังทำการทดสอบบท ก็มีคนเข้ามาขัดจังหวะอีก — ในคืนนั้นเพื่อนๆ ของเธอจึงชวยเธอไปงานปาร์ตี้ซึ่งจัดขึ้นที่ Hollywood Hills โดยบอกว่า เธออาจจะเจอใครสักคนที่จะช่วยให้เธอไปถึงความฝันการเป็นนักแสดงก็ได้ ในฉากนี้ก็จะเป็นเพลง Someone in the Crowd
หลังจากที่เพื่อนๆ ของเธอแยกย้ายกันไปปาร์ตี้ในงาน Mia ก็ตัดสินใจหนีออกจากงานเพื่อกลับบ้าน แต่ก็พบว่ารถของเธอถูกลากไปแล้วเนื่องจากจอดในที่ห้ามจอด ทำให้เธอต้องเดินกลับบ้านเอง — ระหว่างทางเธอก็ได้ยินเสียงเปียโนจากภัตตาคาร Lipton’s เสียงของเปียโนสะกดใจ จนทำให้เธอต้องเดินเข้าไปดูว่าใครเป็นผู้เล่น แต่เมื่อเธอเดินเข้าไปก็พบว่าคนเล่นกำลังถูกไล่ออก เพราะไม่ยอมเล่นเพลงตามที่สั่ง
หลายเดิอนต่อมา Mia ก็พบกับ Sebastian อีกครั้งในงานปาร์ตี้ที่เขาเล่นคีย์บอร์ดอยู่ในวงร้องคัฟเวอร์เพลงดังยุค 80s และการพบกันครั้งนี้ทำให้ทั้งคู่ได้รู้จักกันจริงๆ สักที
โดยตัวเนื้อเรื่องมันก็ไม่ได้ใหม่อะไร เรื่องตัวละครสองคนที่มีความฝันและพยายามวิ่งตามความฝันของตัวเอง Sebastian ต้องการกอบกู้เพลงแจ๊สให้กลับมาแต่ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว แม้แต่เขาก็ต้องไปรับงานเล่นเพลงแนวที่เขาไม่ได้ขอบเพียงเพื่อให้ได้เงินมา ส่วน Mia ก็พยายามไล่ตามฝันที่อยากเป็นนักแสดง แต่ก็ไม่สำเร็จจนท้อแท้ยอมแพ้ แต่ก็ได้ Sebastian เข้ามาเป็นแรงผลักดันเป็นกำลังใจให้เธอทำตามความฝันให้ได้
แต่การแสดงที่ยอดเยี่ยมของ Ryan Gosling และ Emma Stone มันเข้ากันลงตัวที่สุด — การเดินเรื่อง เทคนิคการถ่ายภาพ การออกแบบท่าเต้น รวมกับบทเพลงที่แต่งทำนองโดย Justin Hurwitz และได้ Pasek and Paul มาเขียนเนื้อร้อง ทำให้หนังเรื่องนี้สวยงามและน่าจดจำในทุกฉาก และเพลงก็ติดหูตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ฟัง