I SEE YOU
Adam Randall
(2019)
Greg Harper (Jon Tenney) สืบคดีลักพาตัว Justin Whitter (Riley Caya) เด็กซึ่งหายตัวไปขณะกำลังขี่จักรยานผ่านสวนป่าในเมืองแห่งหนึ่ง พบหลักฐานที่อาจจะเป็นของคนร้ายเป็นมีดพับสีเขียว ซึ่งอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับคดีลักพาตัวเด็กเมื่อหลายปีก่อน
ครอบครัวของ Greg ก็กำลังประสบปัญหา Connor (Judah Lewis) ลูกชายของเขามีท่าทีต่อต้าน Jackie (Helen Hunt) ภรรยาของเขาอย่างรุนแรงด้วยสาเหตุบางอย่างที่ตัวภาพยนตร์ไม่ได้บอก แต่ก็พอจะเดาได้ว่าน่าจะเป็นปัญหาที่ Jackie ไปแอบมีความสัมพันธ์กับชายอื่น
Jackie รู้สึกผิดต่อลูกและสามีของเธอ เธอจึงยอมทำทุกอย่างเพื่อรักษาครอบครัวไว้ แม้ว่าเธอจะรู้ว่า ความผิดที่เธอก่อคงไม่ได้รับการอภัย
แต่แล้วก็เริ่มมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นในบ้าน ตั้งแต่ ช่างที่เข้ามาซ่อมหน้าต่างในบ้านขณะที่ไม่มีคนอยู่ ช่างอ้างว่ามีเด็กผู้หญิงในบ้านเป็นคนเปิดประตูให้, ช้อนส้อมเครื่องเงินที่หายไปโดยที่เธอคิดว่าช่างที่มาซ่อมหน้าต่างขโมยไป, ถ้วยกาแฟหาย, รูปภาพหลายรูปถูกนำออกจากกรอบ
วันหนึ่ง Todd (Sam Trammell) คนรักเก่าของ Jackie มาหาเธอที่บ้าน แต่เธอบอกเขาว่าเธอไม่สามารถที่จะพบกับเขาได้อีกแล้ว ขณะที่ Todd กำลังเซ้าซี้อยู่นั้น ก็มีแก้วกาแฟหล่นลงมาใส่ศีรษะเขาจนแตก มันคือแก้วกาแฟของ Jackie ที่หายไป เธอรีบพาเขาไปปฐมพยาบาลในห้องใต้ดิน เธอบอกเขาว่าหลังจากที่เธอไปส่งลูกที่โรงเรียนแล้ว เธอจะกลับมาพาเขาไปโรงพยาบาล แต่เมื่อเธอกลับมาที่บ้านอีกครั้งก็พบว่า Todd เสียชีวิตแล้ว เธอตกใจมากเพราะคิดว่าลูกของเธอเป็นคนลงมือ เมื่อ Greg ทราบเรื่องก็รีบช่วยนำศพไปฝังในป่า เพื่อไม่ให้ลูกตัวเองต้องโทษ
ข่วงต้นเกือบ 40 นาทีแรก ค่อนข้างน่าเบื่อไปนิด ในตอนแรกคิดว่าเป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญแบบมีภูติผีปิศาจ จากที่เห็นในฉากแรกที่เด็กผู้ชายที่กำลังขี่จักรยานอยู่กระเด็นออกจากจักรยานโดยที่ไม่ได้ชนกับอะไร หรือเหตุการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านที่ไม่สามารถอธิบายได้
แต่ภาพยนตร์ก็มาเฉลยในช่วงหลังว่าแท้จริงแล้วเป็นคน โดยถ่ายทอดอีกมุมมองหนึ่งให้ผู้ชมได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงที่ผ่านมา แล้วยังผูกเรื่อง Phrogging (การแอบเข้าไปอาศัยในบ้านคนอื่นโดยที่เจ้าของบ้านและคนในบ้านไม่รู้) มาหักมุมกันได้อีก กลายเป็นความระทึกว่าคนร้ายตัวจริงคือใครกันแน่ ซึ่งก็ทำออกมาได้สนุกดี เสียงเพลงประกอบชวนหลอนทำให้นึกถึงบรรยากาศบ้านผีสิง แต่สิ่งที่รบกวนจิตใจตอนดูที่สุดก็คือใบหน้าของ Helen Hunt ที่ไม่รู้ไปทำอะไรมา มันดูผิดธรรมชาติมาก
