HomePod คือ Smart Speaker ตัวแรกของ Apple ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีมาก เมื่อเทียบกับขนาดของตัวลำโพง โดยส่วนตัวคิดว่าเสียงคุณภาพใกล้เคียง Bose SoundLink II ($299) แต่ HomePod ให้เสียงเบสแรงกว่าเยอะ การเชื่อมต่อต้องใช้ AirPlay ผ่านสัญญาณ Wi-Fi แม้ว่าในสเปคระบุว่ามี Bluetooth 5.0 แต่มันถูกล็อกไว้ใช้สำหรับการเชื่อมต่อกับ iOS เท่านั้น ไม่สามารถใช้ส่งสัญญาณเสียงได้
ตัว HomePod ต้องเริ่มการติดตั้งผ่านเครื่องที่รัน iOS 11.2.5 ขึ้นไป และใช้ Apple ID ที่เป็นสมาชิกของ Apple Music หลังจากเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ iOS device อีก เมื่อต้องการเล่นเพลงก็สามารถใช้คำสั่ง “Hey Siri, play…” และตัว HomePod เองก็ไม่ถูกนับรวมใน device limit ของ Apple Music ด้วย
สำหรับการสตรีมมิ่งเพลงจากผู้ให้บริการรายอื่น อาทิ Spotify ต้องใช้อุปกรณ์ที่รองรับ AirPlay ในการส่งเพลงไปยัง HomePod ซึ่งวิธีการก็ไม่ต่างจากลำโพงไร้สายยี่ห้ออื่น
นอกจากนี้ HomePod ยังสามารถใช้เป็นลำโพงสำหรับ Apple TV ได้อีกด้วย แต่ในขณะนี้เสียงที่ได้จะมีระดับที่ค่อยกว่าเสียงที่เล่นเพลงจาก Apple Music คิดว่าอาจจะเป็น software bug หรือมีการกำหนดระดับเสียงเพื่อไม่ให้ลำโพงเสียหาย เนื่องจากเสียงจากภาพยนตร์มักมีความดังที่ต่างจากเสียงเพลงค่อนข้างมาก
Siri ก็ยังคงแย่เหมือนเดิม คือทำอะไรไม่ค่อยได้ (ในหน้าสินค้าก็เอาไว้เป็น feature ล่างสุด) นอกจากรับคำสั่งพื้นฐาน เช่น Stop / Play / Pause / Turn the volume up / Turn the volume down / Set the volume to xx percent / Next song / Previous song / Go forward xx seconds ก็ยังมีคำสั่งเฉพาะเกี่ยวกับเพลงที่สามารถใช้ได้ ดังนี้
» Hey Siri, play some music.
» Hey Siri, play A list classical.
» Hey Siri, what song is this?
» Hey Siri, when was this released?
» Hey Siri, play more by this artist.
» Hey Siri, repeat the last track.
» Hey Siri, play something lively.
» Hey Siri, play some Alternative.
» Hey Siri, play some upbeat Rock.
» Hey Siri, play a playlist from Arcade Fire.
» Hey Siri, what’s Adele’s newest album?
» Hey Siri, play the latest song by Ed Sheeran.
» Hey Siri, play Best of the Week.
» Hey Siri, play this year’s Grammy nominees.
ที่ชอบมากคือไมค์ของ HomePod รับคำสั่งเสียงได้ดีกว่าในอุปกรณ์ iOS อื่นๆ มาก พูดเสียงค่อยในระยะใกล้ก็ได้ยิน หรือแม้แต่ขณะที่กำลังเล่นเพลงที่ดังมากก็ได้ยังยินเสียงเราพูด “Hey Siri” พร้อมรับคำสั่งตลอดเวลา และสามารถใช้คำสั่งต่อกันไปได้เลย โดยไม่ต้องรอการตอบรับจาก Siri เหมือนใน iOS
ส่วนที่ยังมีปัญหาคือชื่อศิลปินแปลกๆ โดยเฉพาะชื่อที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ แล้วมันก็จะพยายามเล่นเพลงที่ไม่ใช่เพลงที่เราต้องการ จนบางครั้งการหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดยังเร็วกว่า ตรงจุดนี้คิดว่าน่าจะแก้ยากพอสมควร
Control Center ของ iOS จะมี HomePod แสดงขึ้นมาโดยอัตโนมัติเมื่ออยู่ในวง Wi-Fi เดียวกัน สามารถสั่งให้ HomePod เล่นเพลงจาก Apple Music ได้เลย แต่เครื่องที่สั่งต้อง enable iCloud Music Library ก่อน ถ้าไม่ได้ enable iCloud ก็จะเป็นการสตรีมเพลงจากเครื่องที่สั่งเล่นเพลง
ความสามารถอื่นๆ นอกจากใช้เล่น Apple Music
» ใช้ตั้งเวลา (Set Timer) แต่ยังทำ multiple timers ไม่ได้
» แปลงหน่วยวัดค่าตวง และ ค่าเงิน
» HomeKit เปิดปิดไฟ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่รองรับ
» สั่ง play หรือ subscribe Podcast
» อ่านข่าว (ในพื้นที่ที่รองรับ)
วันที่ 29 พฤษภาคม 2018 Apple ปล่อยเฟิร์มแวร์ HomePod 11.4 พร้อม AirPlay 2 รองรับ Stereo pairing ระหว่าง HomePod 2 ตัว และรองรับ Multi-room audio สามารถสั่งให้เล่นเพลงสำหรับ HomePod ที่ตั้งอยู่ในแต่ละห้อง หรือสั่งให้เล่นเพลงเดียวกันทุกเครื่องพร้อมกัน
HomePod เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2018 ในประเทศออสเตรเลีย, สหราชอาณาจักร, และสหรัฐอเมริกา เท่านั้น และเริ่มจำหน่ายในประเทศแคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี ในวันที่ 18 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมา