Harry Potter 20th Anniversary: Return to Hogwarts
Latest

Harry Potter

3000 1688 PRADT
3-MINUTE READ

Harry Potter

20TH ANNIVERSARY: RETURN TO HOGWARTS
Joe PearlmanCasey Patterson
(2022)

★★★★☆
 

เฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีของการดัดแปลงหนังสือนิยายซีรีส์ ​Harry Potter เล่มแรก Philosopher’s Stone มาเป็นภาพยนตร์กำกับโดย Chris Columbus (ที่โด่งดังมาจากภาพยนตร์ Home Alone) ในปี 2001 ซึ่งมีนักแสดงนำเกือบครบทุกคนกลับมาพบกันอีกครั้ง เพื่อระลึกถึงวันในอดีตที่พวกเขาได้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานการแสดงร่วมกัน

เปิดมาด้วยฉากอินโทรสวยงามอลังการสมกับที่เป็นซีรีส์ภาพยนตร์พันล้านเหรียญ โดยทำเป็นเหมือนนักแสดงแต่ละคนต่างได้รับบัตรเชิญให้ไปร่วมงานครบรอบ 20 ปี คล้ายกับจดหมายเชิญที่แฮรีได้รับจากฮอกวอตส์ในภาคแรก (แต่ไม่มีนกฮุกนะ) ผู้ชมจะได้เห็นภาพของ Emma Watson (Hermione Granger) เจอซองจดหมายซ่อนอยู่ในหนังสือมือสอง, Robbie Coltrane (Rubeus Hagrid) พบซองจดหมายขณะกำลังนั่งอยู่ในร้านกาแฟ, Matthew Lewis (Neville Longbottom) พบซองจดหมายขณะที่กำลังนั่งอยู่ในรถแท็กซี่

หลังจากนั้นภาพก็ตัดไปชานชาลาที่ 9 3/4 ที่มีนักแสดงคนอื่นๆ มาสมทบคือ Mark Williams (Arthur Weasley), Bonnie Wright (Ginevra Weasley), James & Oliver Phelps (Fred & George Weasley), Evanna Lynch (Luna Lovegood) รวมถึง Helena Bonham Carter (Bellatrix Lestrange) ที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ Daily Prophet ซึ่งลงข่าวงานเลี้ยงศิษย์เก่าฮอกวอตส์

ทุกคนมารวมตัวกันอีกครั้งในห้องโถงใหญ่ของฮอกวอตส์ที่ประดับประดาด้วยโคมไฟและเทียนไขเวทมนตร์ที่ลอยอยู่กลางอากาศ มีตัวประกอบเต้นรำที่ให้เความรู้สึกเหมือนตอนที่ Beauxbatons Academy of Magic ปรากฏตัวครั้งแรกในภาค Goblet of Fire (2005) ในฉากนี้ก็จะมีนักแสดงปรากฏตัวเพิ่มมาอีกคือ Tom Felton (Draco Malfoy), Alfred Enoch (Dean Thomas) และ Gary Oldman (Sirius Black)

ช่วงต่อมาเป็นการพูดคุยระหว่าง Chris Columbus (ผู้กำกับภาค Philosopher’s Stone และ Chamber of Secrets) กับ Daniel Radcliffe (Harry Potter) เกี่ยวกับเหตุผลที่ Chris ได้มากำกับภาพยนตร์ในภาคแรก และการความยากลำบากในการหาตัวเด็กที่จะมารับบท Harry ในภาคแรกที่ใช้เวลาในการออดิชันเด็กหลายร้อยหลายพันคนแต่ก็ยังไม่เจอคนที่ใช่ จนกระทั่ง Chris ได้เห็น Daniel ใน David Copperfield ละครโทรทัศน์ของ BBC โดยบังเอิญ

Rupert Grint (Ronald Weasley), Emma Watson (Hermione Granger) และ Daniel Radcliffe (Harry Potter) พูดคุยกันถึงช่วงเวลาที่พวกเขาได้พบกันครั้งแรกเพื่อทำสกรีนเทสดูว่าทั้งสามคนสามารถแสดงเข้าขากันได้ไหม ส่วน Chris อธิบายถึงวิธีการทำงานที่ต้องทำงานร่วมกับนักแสดงเด็กที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการแสดงมาก่อน ซึ่งทำให้เขารู้สึกเหนื่อยมาก แต่หลังจากที่ภาคแรกประสบความสำเร็จอย่างสูง กวาดรายได้ไปมากกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐ ผู้คนยอมรับวิสัยทัศน์ของผู้กำกับและยอมรับในตัวนักแสดงชุดนี้ ก็ทำให้เขามีพลังที่เล่นอะไรก็ได้ตามที่เขาต้องการในภาค Chamber of Secrets ซึ่ง Chris ก็ทำออกมาได้ดีจริงๆ เป็นภาคที่ดูแล้วรู้สึกเลยว่าสนุกว่าหนังสือมาก ส่วนตัวคิดว่าหนังสือเล่มสองเป็นเล่มที่สนุกน้อยที่สุด

เหล่านักแสดงรวมถึงผู้กำกับและ J. K. Rowling ต่างชื่นชม Stuart Craig ผู้ออกแบบฉากต่างๆ ในภาพยนตร์ซีรีส์นี้ โดยเฉพาะฉากห้องโถงใหญ่ของฮอกวอตส์ในภาคแรกที่ใช้เทียนไขจุดไฟจริงหลายร้อยเล่มผูกเอ็นตกปลาห้อยลงมาจากเพดานโดยที่ไม่ได้ใช้ CGI และฉากสนามแข่งควิดดิชที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่ามันคือสนามแข่งที่มีอยู่จริงในโลกนี้

ช่วงต่อมามี Alfonso Cuarón มาพูดเกี่ยวกับการทำงานกำกับภาค Prisoner of Azkaban และความประทับใจที่ได้ร่วมงานกับ Alan Rickman (Severus Snape), Gary Oldman (Sirius Black) และ David Thewlis (Remus Lupin) รวมถึงปฏิสัมพันธ์ระหว่างการถ่ายทำของ Gary Oldman ที่คอยให้คำแนะนำ Daniel Radcliffe อยู่ตลอด เหมือนกับในหนังสือ

มีมุขตลกนิดหน่อยในช่วงนี้ เนื่องจากภาค Prisoner of Azkaban ถ่ายทำกันในปี 2003 แต่หนังสือเพิ่งออกถึงแค่เล่ม 5 (Order of the Phoenix) ทำให้ไม่มีใครรู้ภาพรวมของเรื่องทั้งหมดแม้แต่ตัวผู้กำกับเอง ว่าสุดท้ายตัวละครแต่ละคนจะเป็นอย่างไร จะมีจุดหักมุมตรงไหนอีก ทำให้ Gary Oldman คิดว่าถ้าเขารู้เรื่องราวทั้งหมด จะทำให้เขาสามารถตีความตัวละครได้ดียิ่งขึ้น ในตอนนี้ Daniel Radcliffe ก็เปิดเผยความจริงกับ Gary ว่า Alan Rickman น่าจะเป็นนักแสดงคนเดียวที่รู้เรื่องทั้งหมดจาก J. K. Rowling โดยตรง และเขาก็ไม่เคยบอกใครเลย

ช่วงต่อมาเป็น Mike Newell ผู้กำกับภาค Goblet of Fire มาเล่าถึงการทำงานที่ต้องดัดแปลงหนังสือกว่า 600 หน้ามาเป็นภาพยนตร์ และประสบการณ์ซี่โครงร้าวหลังจากที่ลงไปเล่นกับ James Phelps (Fred Weasley) เพื่อแสดงให้ดูว่าควรทะเลาะกันอย่างไร

ถัดมาเป็น Helena Bonham Carter ผู้รับบทเป็น Bellatrix Lestrange ตัวละครที่บทไม่เยอะ แต่เธอกลายเป็นหนึ่งในตัวละครที่โดดเด่นน่าจดจำที่สุดในเรื่อง นักแสดงทุกคนตื่นเต้นเมื่อได้เข้าฉากกับเธอเพราะไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลยว่าเธอจะปล่อยของแบบไหนออกมาในวันนั้น แม้แต่การถ่ายฉากเดิม การแสดงของเธอก็จะแตกต่างออกไปทุกครั้ง

David Yates ผู้กำกับคนสุดท้ายที่กำกับถึง 3 ภาคคือ Order of the Phoenix, Half-Blood Prince และภาคสุดท้าย Deathly Hallows ที่ยาวมากจนต้องแบ่งออกเป็นสองตอน ก็มาเล่าถึงเรื่องการถ่ายทำที่ต้องมีความเป็นผู้ใหญ่และมีความซับซ้อนมากขึ้นไปอีก และปัญหาที่สตูดิโอเป็นกังวลว่า Emma อาจตัดสินใจไม่กลับมารับบท Hermione Granger อีก

ช่วงที่พูดถึงนักแสดงที่จากไปแล้ว ก็ทำออกมาได้ประทับใจมาก Richard Harris (1930-2002), Richard Griffiths (1947-2013), John Hurt (1940-2017), Helen McCrory (1968-2021), Alan Rickman (1946-2016) สรุปว่าชอบมาก ทั้งบทสัมภาษณ์ การตัดต่อ และเพลงประกอบ โดยเฉพาะตอนจบที่เลือกใช้ภาพของ Alan Rickman ในบท Severus Snape พูดว่า Always

Harry Potter 20th Anniversary: Return to Hogwarts ปล่อยสตรีมมิงสำหรับสมาชิก HBO Max และ HBO Go ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2022

REPORT / REQUEST
REPORT / REQUEST