GRETEL & HÄNSEL
Osgood Perkins
(2020)
ภาพยนตร์ดัดแปลงจากจาก Hänsel und Gretel นิทานชื่อดังผลงานของ Wilhelm Grimm และ Jacob Grimm หรือที่รู้จักกันในชื่อของ Brothers Grimm ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1812 เป็นภาษาเยอรมันในหนังสือชื่อ Kinder- und Hausmärchen (Children’s and Household Tales)
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงที่สวยงามคนหนึ่ง เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่งดงามที่สุดในหมู่บ้าน แต่โชคร้ายที่เธอป่วยด้วยโรคที่ไม่มีใครรักษาได้ ว่ากันว่าเธอคงไม่อาจมีชีวิตรอดถึง 1 ปี แต่พ่อของเธอยังคงเชื่อมั่นว่าเขาจะสามารถหาวิธีรักษาเธอให้ได้ จนกระทั่งเขาได้ยินเรื่องราวของแม่มดที่มีพลังพิเศษสามารถรักษาโรคได้ทุกอย่างบนโลกใบนี้ แม่มดยอมช่วยรักษาเด็กผู้หญิงโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน นอกจากขอให้พ่อของเธอเชื่อมั่นในศาสตร์แห่งความมืด
แต่ทว่าแม่มดไม่ได้เพียงแค่ดึงเอาโรคร้ายออกจากตัวเธอเท่านั้น แม่มดยังมอบพลังพิเศษให้กับเธออีกด้วย เด็กสาวกลายเป็นผู้ที่สามารถมองเห็นอนาคตจนชาวบ้านต่างพากันมาให้เธอช่วยบอกอนาคตของพวกเขา แต่พวกเขากลับได้รับแต่คำทำนายที่น่ากลัวจนไม่มีใครอยากรับฟังอีกต่อไป พลังของเธอเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นรอบตัวเธอ จนเธอถูกเนรเทศออกจากหมู่บ้านให้ไปอาศัยซ่อนตัวอยู่ในป่าลึกอย่างโดดเดี่ยว
Gretel (Sophia Lillis) และ Hänsel (Sam Leakey) น้องชาย ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากหลังจากที่พ่อของพวกเขาเสียไป ทำให้ Gretel ต้องออกไปหางานทำในคฤหาสน์ที่เธอหวังว่าจะได้ทำงานเป็นคนทำความสะอาดหรือคนทำอาหาร แต่เจ้าของบ้านจิตวิปริตต้องการที่จะได้ร่างกายของเธอ เธอจึงปฏิเสธและกลับมาพบกับแม่ของเธอที่บ้าน ซึ่งผิดหวังที่เธอไม่ยอมทำงานเพื่อหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัว แม่ของเธอจึงขับไล่เธอและน้องชายออกจากบ้าน
ระหว่างการเดินทาง Gretel และ Hänsel ก็ได้รับการช่วยเหลือจากนายพราน (Charles Babalola) ที่บอกให้พวกเขาเดินทางไปอาศัยอยู่กับคนป่า ซึ่งพวกเขาจะสามารถใช้ชีวิตได้ด้วยการหาสมุนไพรและตัดฟืน
เช้าวันถัดมาสองพี่น้องก็เดินทางต่อจนพบกับบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยว Holda (Alice Krige) หญิงชราเจ้าของบ้านให้การต้อนรับพวกเขาเป็นอย่างดี ด้วยอาหารและขนมมากมาย และยังให้ที่พักกับสองพี่น้องอีกด้วย แต่ Gretel ไม่ชอบการเป็นผู้รับ เธอคิดเสมอว่าไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ ทุกอย่างต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน เธอจึงเสนอตัวช่วยงานบ้านหญิงชราเพื่อแลกกับอาหารและที่พัก
Hänsel มีความสุขมากที่มีอาหารและขนมอร่อยทาน แต่ Gretel รู้สึกเคลือบแคลงในจุดประสงค์ที่แท้จริงของหญิงชรา ตัว Gretel มีความสามารถพิเศษมาตั้งแต่เด็ก เธอสามารถมองเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น และขณะที่เธออยู่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ เธอก็ฝันเห็นห้องลับที่มีศพของเด็กๆ
และในความฝัน เธอก็ยังได้เห็นร่างที่แท้จริงของหญิงชรา ทำให้เธอต้องคิดวางแผนจัดการกับหญิงชราก่อนที่หญิงชราจะลงมือจัดการเธอกับน้องชาย
พล็อตเรื่องทำออกมาได้น่าสนใจมาก กับการตีความแบบใหม่และการเพิ่มเรื่องราวของต้นกำเนิดแม่มดในนิทาน Hänsel & Gretel
การถ่ายทำและการออกแบบฉากก็ทำได้สวยงามจริงๆ การเดินเรื่องที่มีความคัลท์ในรูปแบบใกล้เคียงกับ The WITCH
แต่น่าเสียดายที่ไปไม่สุดกับการขมวดปมในช่วงท้ายที่ยังไม่ประทับใจเท่าไหร่ หลังจากที่พยายามบีบคั้นอารมณ์มาตลอดทั้งเรื่อง มันควรจะจบแบบมืดมนชั่วร้ายไปเลย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเรตติ้งที่อยู่ในระดับ PG-13 ในขณะที่ The WITCH มีความโหดมากกว่าจนได้เรต R