Game of Thrones
2011 | David Benioff & D. B. Weiss
When you play the game of thrones, you win or you die.
ซีรีย์ที่สร้างจากนิยายแฟนตาซียอดขายถล่มทลายเบสท์เซลเลอร์ A Song of Ice and Fire ของนักเขียนขาวอเมริกัน George R. R. Martin ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1996 จนถึงปัจจุบันพิมพ์ออกมาแล้ว 4 เล่ม คือ A Game of Thrones, A Clash of Kings, A Storm of Swords, และ A Feast for Crows ส่วนเล่มที่ 5 ที่ชื่อ A Dance with Dragons มีแผนจะออกในเดือนกรกฎาคมนนี้ โดยทั้งหมดในหนังสือซีรีย์นี้จะมีทั้งหมด 7 เล่ม
ตัวเนื้อเรื่องจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Westerors ซึ่งมีผู้คนอาศัยอยู่ แบ่งเป็น หมู่เหล่า กลุ่มชนต่างๆ หลากหลาย จนกระทั่งกลุ่ม Targaryen สามารถเข้าตียึดครองและรวมอาณาจักรทั้ง 7 เข้าด้วยกัน สถาปนาตนเป็นผู้ปกครองสูงสุดผู้ครอบครอง Iron Throne มาเป็นเวลากว่า 300 ปี กลุ่ม Targaryen เป็นเผ่าพันธุ์พิเศษที่เชื่อว่าสืบเชื้อสายมาจากมังกร (ซึ่งตามในท้องเรื่อง มังกรตัวสุดท้ายตายไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน และไม่มีใครได้เห็นอีกเลย)
Game of Thrones เป็นเหตุการณ์ 15 ปีหลังจากที่ Robert Baratheon ถล่ม Targaryen ในสงครามที่ชื่อว่า War of the Usurper และขึ้นครอง Iron Throne เป็นผู้ปกครองสูงสุดของ 7 อาณาจักรแห่ง Westerors
หลังจากที่ Targaryen พ่่ายแพ้สงคราม เชื้อสายของ Targaryen ก็ถูกสังหารทั้งหมด เหลือแต่เพียงสองพี่น้อง Viserys Targaryen และ Daenerys Targaryen ซึ่งเป็นเชื้อสายของกษัตริย์แห่ง Targaryen ที่หลบหนีออกมาได้ และหวังว่าวันหนึ่งจะได้กลับไปทวงบัลลังก์คืน
ในช่วงแรกจะมี 4 กลุ่มที่เกี่ยวข้องกัน คือ Stark ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือ ผู้ครอบครอง Winterfell โดย Lord Eddard Stark เป็นเพื่อนเก่าแก่ของ Robert Baratheon ผู้ครอง Iron Throne และเป็นพระราชาแห่ง Westerors คนปัจจุบัน ส่วนราชินี Cersei Baratheon แต่เดิมเป็นคนตระกูล Lannister ซึ่งว่ากันว่าเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในอาณาจักรทั้งเจ็ด และสุดท้ายก็คือ สองพี่น้องตระกูล Targaryen ที่ยังมีชีวิตอยู่
เนื้อเรื่องอาจจะดูสลับซับซ้อนและมีตัวละครมากมายจนดูสับสน แต่ความจริงแล้วบทถูกเขียนขึ้นมาอย่างชาญฉลาดแยบยลมาก โดยให้ผู้ชมได้ค่อยๆ เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของตัวละครและเนื้อเรื่องได้เองระหว่างที่ดูไป โดยไม่ต้องอาศัยคำอธิบายให้เยิ่นเย้อมากความ การเดินเรื่องก็ทำออกมาได้อย่างน่าติดตามอย่างที่สุด เข้มข้นขึ้นไปทุกนาที ตัวผมดูไป 5 ตอนต่อกันแล้วก็รอจนเขาฉายจบเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เพื่อดู 5 ตอนที่เหลือรวดเดียว เพราะทนรอทีละอาทิตย์ไม่ไหว
Game of Thrones นับว่าเป็นซีรีย์ที่มีความสมบูรณ์ตั้งแต่ฉาก การเลือกนักแสดง การเขียนบท การเดินเรื่อง องค์ประกอบศิลป์ ชุดเครื่องแต่งกาย สเปเชี่ยลเอฟเฟ็ค ไปจนถึงเพลงประกอบ มันเหมือนกับการได้ดูหนัง Epic ความยาว 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว ยิ่งตอนสุดท้ายของซีซัน 1 ต้องบอกว่าทำออกมาได้อลังการมาก แทบจะรอซีซัน 2 ไม่ไหวกันเลย ถ้าทีมงานยังสามารถผลิตงานระดับนี้ออกมาได้อีก …ไม่น่าแปลกใจเลยที่ซีรีย์เรื่องนี้ได้ไฟเขียว ให้สร้างซีซันสองตั้งแต่ที่ฉายตอนแรกจบ ซึ่งมียอดผู้ขมกว่า 2.2 ล้านคน และตอนสุดท้าย season finale ที่เพิ่งฉายไปเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา ก็มียอดผู้ชมไต่ขึ้นไปเกิน 3 ล้าน