Robert (Daniel Zolghadri) หนุ่มวัย 17 ปี ผู้ฝันอยากจะเป็นนักเขียนการ์ตูนแนวตลกแบบผู้ใหญ่ และมีคุณครู Katano (Stephen Adly Guirgis) คอยสนับสนุนแนะแนวทางให้เขาสานฝันส่งผลงานไปให้นิตยสาร เพื่อที่จะได้เป็นนักเขียนการ์ตูนอาชีพ

แต่ชีวิต Robert ถูกตีกรอบโดยครอบครัว เขามีความรู้สึกว่า เขามีความจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมในมหาวิทยาลัย การออกจากโรงเรียนเพื่อไปเป็นนักเขียนการ์ตูนตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ ไม่เคยอยู่ในความคิดของเขาเลย

Katano จึงขอให้ Robert วาดรูปภาพร่างกายที่เปล่าเปลือยของเขา เพื่อแสดงให้ Robert เห็นว่าเขามีความสามารถมากพอที่จะเดินไปตามเส้นทางของนักเขียนการ์ตูนอาชีพ แต่ระหว่างที่ Robert กำลังวาดภาพ เสียงนาฬิกาที่เขาตั้งไว้ในโทรศัพท์ก็ดังขึ้น Robert จึงรีบขอตัวกลับอย่างรวดเร็ว

Katano คิดว่า Robert อาจเข้าใจความตั้งใจของเขาผิดไป จึงขับรถตามออกไปเพื่อปรับความเข้าใจ แต่กลับเกิดอุบัติเหตุรถชนกันอย่างรุนแรง ทำให้ Katana เสียชีวิตคาที่ ต่อหน้า Robert

การเสียชีวิตอย่างปุบปับของครูผู้ชี้แนะ และยังเป็นผู้ใหญ่คนเดียวที่ยอมรับความสามารถด้านการเขียนการ์ตูนของเขา สร้างความกระทบกระเทือนทางจิตใจ เคว้งคว้างเพราะไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร เขาตัดสินใจที่จะเลิกไปโรงเรียน และพยายามยืนหยัดด้วยลำแข้งตัวเองด้วยการออกไปหาห้องเช่าอยู่ เพื่อไล่ตามความฝันที่จะเป็นนักเขียนการ์ตูนอาชีพ

ขณะที่เขาทำงานพิเศษในสำนักงานทนายความ เขาก็ได้พบกับลูกความของสำนักงานชื่อ Wallace (Matthew Maher) อดีตพนักงานผู้ช่วยลงสีของนิตยสารการ์ตูน Image Comics หนึ่งในผู้ผลิตหนังสือการ์ตูนรายใหญ่ของวงการ (รองจาก Mavel Comics และ DC Comics) ทำให้ Robert ตื่นเต้นมาก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอกับคนที่อยู่ในวงการผลิตหนังสือการ์ตูน ซึ่งทำให้เขาเกิดความหวังว่า นี่คือโอกาสที่เขาจะได้เรียนรู้ และอาจได้แจ้งเกิดในวงการในฐานะนักเขียนการ์ตูนมืออาชีพ

ภาพยนตร์แนว coming-of-age ผลงานกำกับภาพยนตร์ยาวเรื่องแรกของ Owen Kline นักแสดง/นักเขียนการ์ตูนชาวอเมริกัน ซึ่งเขาเป็นคนเขียนบทเองด้วย กับการเล่าเรื่องการก้าวข้ามผ่านวัยในรูปแบบที่ค่อนข้างแตกต่างจากภาพยนตร์แนวเดียวกัน ที่เราเคยได้เห็นผ่านตากันมามากมายหลายเรื่อง

ชอบความตลกเสียดสีในหลายฉากที่ข้ามเส้นสามัญสำนึกของคนปกติไปแล้ว ตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องที่ทำให้ผู้ชมไม่แน่ใจว่าตัวละคร Katano คือครูที่ต้องการช่วยเหลือผลักดันลูกศิษย์อย่างแท้จริงอย่างที่เขาพูดจริงไหม หรือห้องเช่าใต้ดินราคาถูกที่ดูยังไงมันก็ผิดปกติ แล้วยังต้องอาศัยอยู่ร่วมกับผู้ชายบุคลิกประหลาดอีกสองคนอีกด้วย แต่ Robert กลับมองไม่เห็นสิ่งเหล่านั้นหรือจงใจมองข้ามทุกสิ่งไป เพื่อมุ่งสู่จุดหมายปลายทางที่จะเป็นนักเขียนการ์ตูน

ส่วนที่รู้สึกติดอยู่ห้วงความคิด ก็คือตอนจบที่รวบรัดเกินไปหน่อย จบแบบเหมือนยังไม่จบ ซึ่งต่างจากภาพยนตร์ที่ปล่อยปลายเปิด ปล่อยให้ผู้ชมได้จินตนาการส่วนที่ขาดหายไปเอง แต่เรื่องนี้มันจบแบบห้วนๆ ชีวิตของ Robert จะเดินไปทางไหนต่อ จะแสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วใช้ชีวิตต่อไปเพื่อค้นหาเมนเทอร์คนใหม่ หรือฉุกคิดได้แล้วกลับไปใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ จบแบบ Robert ยังไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เพราะตามจริงแล้ว Robert ก็ยังคงเป็นเด็กที่เพิ่งก้าวข้ามผ่านวัยมาเป็นผู้ใหญ่ มันก็เป็นแค่ความล้มเหลวตรงจุดเริ่มต้นของชีวิตผู้ใหญ่เท่านั้นเอง

FUNNY PAGES ฉายรอบปฐมทัศน์ในงานเทศกาลภาพยนตร์ Cannes วันที่ 24 พฤษภาคม 2022 ก่อนจะเข้าฉายในสหรัฐอเมริกา วันที่ 26 มิถุนายน