Frozen II

2019 | Chris Buck & Jennifer Lee

ภาพยนตร์แอนิเมชันภาคต่อของ Frozen (2013) เริ่มต้นด้วยการย้อนอดีตกลับไปสมัยเด็กของ Anna (Hadley Gannaway) และ Elsa (Mattea Conforti) เนื่องจากคงไม่ได้วางแผนว่าจะสร้างภาคต่อ แต่ปรากฏว่าทำรายได้ทะลุ 1 พันล้านเหรียญ จึงทำให้เกิดภาคต่อได้ — ราชา Agnarr (Alfred Molina) เล่าเรื่องราวของราชา Runeard ซึ่งเป็นคุณปู่ของ Anna และ Elsa ว่าได้สร้างสัมพันธ์อันดีระหว่าง Arendelle และ มนุษย์เผ่า Northuldra ซึ่งอาศัยอยู่กับธรรมชาติในป่าที่เต็มไปด้วยพลังเวทมนตร์จากวิญญาณของดิน, ไฟ, น้ำ, และลม ด้วยการสร้างเขื่อนกั้นน้ำ

แต่อยู่มาวันหนึ่งชาว Northuldra ก็เข้าโจมตีทหารของ Arendelle จากนั้นวิญญาณของธาตุทั้งหมดก็หายไป — Agnarr ได้รับการช่วยเหลือจากบุคคลปริศนาที่ช่วยให้เชาออกมาจากป่าได้ ก่อนที่กำแพงหมอกประหลาดจะแผ่ขยายครอบคลุมทั้งผืนป่า ซึ่งทำให้คนที่อยู่ในป่าไม่สามารถออกมาได้ ส่วนคนภายนอกก็ไม่สามารถเข้าไปได้อีกต่อไป

เวลาสามปีผ่านไปหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก Elsa (Idina Menzel) เริ่มได้ยินเสียงปริศนาที่มีแต่เธอคนเดียวที่ได้ยิน เธอไล่ตามเสียงนั้นไปและใช้พลังจนทำให้วิญญาณแห่งธาตุดินน้ำลมไฟตื่นขึ้นมาจากการหลับไหล ส่งผลให้ Arendelle เกิดไฟดับ ลมพายุพัด แผ่นดินไหว ทำให้ทุกคนต้องอพยพออกจากเมืองไปอยู่บนภูเขา

Pabbie (Ciarán Hinds) ปรากฏตัวออกมาเพื่อแจ้งว่า พวก Elsa ต้องออกเดินทางเพื่อไปหาความจริงเกี่ยวกับอดีตของ Arendelle ซึ่งอาจจะไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่ทุกคนได้ยินมา — Elsa, Anna (Kristen Bell), Kristoff (Jonathan Groff), Olaf (Josh Gad), และ Sven จึงต้องออกเดินทางไปยังป่าที่เป็นต้นกำเนิดของเรื่องราวทั้งหมด

เป็นภาคต่อที่ทำภาพออกมาได้สวยงามละเอียดยิ่งกว่าเดิม ด้วยเทคโนโลยีที่ดีกว่าเมื่อ 6 ปีก่อน แต่เนื้อเรื่องยังคงด้อยกว่าภาคแรก ส่วนเพลงประกอบก็ยังคงทำได้ดี แม้ว่าจะไม่ได้ระดับลงลึกเข้ากับเนื้อเรื่องเมื่อเทียบกับภาคแรก เพลงส่วนใหญ่ไม่ติดหูเลย นอกจากเพลง Into the Unknown ที่ทีมการตลาดโหมกระหน่ำทุกช่องทางก็กลายเป็นเพลงที่ติดหูได้เหมือนกิน

โดยรวมก็นับว่าเป็นแอนิเมชันที่ทำออกมาได้ดี — บทของ Olaf แทบไม่ได้มีส่วนสำคัญกับการเดินเรื่องเลย แต่ก็ยังอุตส่าห์มีเพลงให้ร้องได้อีก — ส่วนตัวคิดว่าช่วงสุดท้ายของเรื่องน่าจะไปได้สุดกว่านี้อีก จากการที่ปูเรื่องมาอย่างดีจนถึงทางเลือกที่ต้องเลือกว่าจะแก้ไขความผิดพลาดในอดีตแต่ก็จะทำให้ Arendelle ล่มสลาย — สุดท้ายคือ Elsa มาช่วยได้ทัน ทำให้มันลดระดับความพีคไปเยอะเลย

อย่างไรก็ตาม Frozen II ก็กลายเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล ด้วยรายได้ทั่วโลกรวม 1,325 ล้านเหรียญ ชนะ Frozen (2013) ที่ทำรายได้ไป 1,281 ล้านเหรียญ และ Incredibles 2 (2018) ที่ทำรายได้ไป 1,243 ล้านเหรียญ