Extremely Wicked, Shockingly Evil and Vile
Latest

Extremely Wicked, Shockingly Evil and Vile

Joe Berlinger

Extremely Wicked, Shockingly Evil and Vile

2048 2048 PRADT
3-MINUTE READ

Extremely Wicked, Shockingly Evil and Vile

2019 | Joe Berlinger
★★★☆☆

ภาพยนตร์ที่สร้างจากหนังสือ The Phantom Prince: My Life with Ted Bundy บันทึกประวัติ ที่เขียนโดย Elizabeth Kendall แฟนของ Ted Bundy เรื่องราวในภาพยนตร์ก็จะเป็นเรื่องของ Ted Bundy จากมุมมองของ Elizabeth เริ่มตั้งแต่ที่เธอพบกับ Ted จนถึงวันที่เขาถูกตัดสินประหารชีวิต

เปิดเรื่องมาเป็นฉากที่ Elizabeth Kendall (Lily Collins) คุยกับ Theodore Robert Bundy (Zac Efron) ที่อยู่ในคุกว่า ยังจำคืนที่เราพบกันได้ไหม ก่อนที่จะย้อนอดีตกลับไปปี 1969 เมื่อ Elizabeth พบกับ Ted ที่บาร์แห่งหนึ่ง

ทั้งคู่ก็เริ่มคบหากัน และ Ted ก็ย้ายเข้ามาอยู่กับ Liz และยังช่วยดูแล Molly ลูกสาวของ Liz ทั้งสามคนดูเป็นครอบครัวสุขสันต์

ปี 1974 สำนักข่าวต่างรายงานเกี่ยวกับการหายตัวไปของหญิงสาวหลายคนใน Washington ไปจนถึง Oregon รวมถึงการพยายามลักพาตัว พยานที่เห็นเหตุการณ์ได้ให้การว่า เห็นชายหนุ่มที่ใส่เฝือกที่แขน ขอความช่วยเหลือจากผู้หญิงให้ช่วยเขายกเรือขึ้นบนหลังคารถเต่า Volkswagen

หลังจากที่ภาพสเก็ตช์ของคนร้ายถูดตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ ทางตำรวจก็ได้รับโทรศัพท์แจ้งเบาะแสจากประขาชนมากมาย จนกระทั่งวันที่ 16 มิถุนายน 1975 Ted ก็ถูกจับตัวได้ เนื่องจากตำรวจสังเกตเห็นรถของ Ted ขับวนเวียนในช่วงเช้ามืด และพยายามขับรถหนีเมื่อ Ted เห็นรถสายตรวจ เมื่อตำรวจพบหน้ากาก ชะแลง กุญแจมือ ถุงขยะ ขดลวด ที่เจาะน้ำแข็ง และเครื่องมืออื่นๆ ในรถ ทำให้เขาถูกจับทันที

ตำรวจขยายผลด้วยการเชิญหญิงสาวที่ถูกลักพาตัวแต่หนีรอดมาได้ ให้มาชี้ตัวคนร้ายจากเสียงที่เธอได้ยินตอนนั้น และเธอก็ชี้ตัว Ted ว่าเป็นเจ้าของเสียงที่ลักพาตัวเธอ Ted เชื่อว่านี่เป็นแผนการหาแพะของตำรวจ เนื่องจากตำรวจไม่สามารถหาหลักฐานที่ระบุว่าเป็นเขาได้ แต่หลังจากขึ้นศาล ผู้พิพากษาก็ตัดสินว่า Ted มีความผิดฐานลักพาตัวจริง

ในตอนท้ายของเรื่องก็เป็นเรื่องราวอย่างที่ทุกคนรู้กัน ผู้พิพากษาตัดสินว่า Ted มีความผิดในทุกข้อกล่าวหาทั้งการพยายามลักพาตัวและการฆาตรรมหญิงสาว มีโทษประหารชีวิต ขณะที่เขายังยืนยันความบริสุทธิ์และไม่ยอมรับสารภาพในข้อกล่าวหาใดเลย ก่อนที่ภาพจะตัดไปฉากที่ Ted คุยกับ Elizabeth ตอนต้นเรื่อง ซึ่งก็คือฉากจบของเรื่องที่เฉลยความจริงทุกอย่าง

Take care of yourself, young man. I say that to you sincerely; take care of yourself, please. It’s a tragedy for this court to see such a total waste, I think, of humanity that I have experienced in this court. You’re a bright young man. You would have made a good lawyer and I would have loved to have you practice in front of me, but you went another way, partner. Take care of yourself. I don’t feel any animosity toward you. I want you to know that. Once again, take care of yourself.

หนังสือฉบับที่ตีพิมพ์ในปี 1981 ไม่ได้มีการตีพิมพ์ใหม่หลังจากที่ out of print ไปกว่า 30 ปี กลายเป็นของที่มีค่าสำหรับนักสะสม ด้วยราคาขายไม่ต่ำว่า 500 เหรียญสหรัฐในปัจจุบัน ตัวบทภาพยนตร์เน้นไปที่การต่อสู้ในศาล และเรื่องราวที่ผ่านการรับรู้ของ Elizabeth เท่านั้น

ส่วนที่ไม่ค่อยชอบก็คือ ตัวผู้กำกับและคนเขียนบท จงใจตัดเนื้อหาบางส่วนของหนังสือออกจากบทหนัง เพื่อสร้างคาแรกเตอร์ให้ตัว Ted ทำให้ผู้ชมเกิดความไม่แน่ใจว่าเขาเป็นคนร้ายจริงหรือเปล่า จากการพิสูจน์หลักฐานสมัยยุค 1970 ที่ไม่ได้มี dental record แต่ใช้กล้องถ่ายรูปฟันไปเทียบกับภาพถ่ายของเหยื่อ หรือ ภาพวาดจากคำบอกเล่าของพยาน ไม่ได้มีกล้องมือถือเหมือนสมัยปัจจุบัน อีกทั้งคนที่เห็นหน้าฆาตรกรตัวจริงก็ตายไปหมดแล้ว ส่วนคนที่รอดมาจากการถูกจับก็ไม่เคยเห็นหน้าคนร้าย

การแคส Zac Efron ก็กลายเป็นจุดด้อยอีกข้อ ที่ไม่ใช่เหตุผลด้านความสามารถทางการแสดง แต่เป็นเพราะหน้าตาดีเกินกว่า Ted ตัวจริงไปมาก เหมือนผู้กำกับบังคับให้ผู้ชมเชื่อในสิ่งที่ Elizabeth เห็น ด้วยการใช้คนบุคคลิกหน้าตาดีมาหลอกล่อ และตัดเนื้อหาที่จะทำให้คนดูคิดว่า Ted เป็นฆาตรกร

ขอชื่นชมการแสดงของดาราสมทบทุกคน เล่นดีมาก ตั้งแต่ Lily Collins ในบท Elizabeth แฟนของ Ted, Angela Sarafyan ในบท Joanna เพื่อนของ Liz, Haley Joel Osment ในบท Jerry เพื่อนร่วมงานของ Liz, Kaya Scodelario ในบท Carole Ann Boone, John Malkovich ในบทผู้พิพากษา Edward D. Cowart, จนถึง Jim Parsons ในบทอัยการ Larry Simpson


Theodore เกิดในปี 1946 เป็นบุตรชายของ Eleanore Louise Cowell ไม่มีใครทราบว่าพ่อของเขาคือใคร เขาอาศัยอยู่กับแม่ และ ตายาย ที่หลอกเขาว่า แม่เป็นพี่สาว เนื่องจากมีลูกโดยไม่ได้แต่งงาน และตากับยาย เป็นพ่อแม่ของเขา

ในเวลาต่อมา แม่พา Ted ไป Washington และแต่งงานกับ Johnnie Bundy ซึ่งรับ Ted เป็นลูกบุญธรรม Ted จึงเปลี่ยนนามสกุลเป็น Bundy — ช่วงเวลาสมัยเด็ก Ted ไม่ชอบพ่อเลี้ยงเพราะเขาเป็นชนชั้นแรงงาน — ช่วงวัยรุ่น Ted กลายเป็นพวกลักเล็กชโมยน้อย แต่เขาก็ยังเรียนหนังสือ จนจบการศึกษาปริญญาตรีภาคศิลปะในปี 1972 จากมหาวิทยาลัย Washington และในปี 1974 เขาก็เข้ามหาวิทยาลัยกฏหมาย Utah (แต่เรียนไม่จบ) ซึ่งเป็นปีแรกที่เขาลงมือฆ่าครั้งแรก

ช่วงเวลา 1974 – 1978 เขาได้ลงมือสังหารผู้หญิงอย่างโหดเหี้ยมไปไม่น้อยกว่า 30 ราย จากจำนวนที่เขารับสารภาพ แต่ทางตำรวจเชื่อว่าจำนวนจริงน่าจะมากกว่านั้นอีก เขาใช้การแต่งตัว และหน้าตา บวกกับการเป็นนักเรียนกฏหมาย เข้าหาเหยื่อเพื่อลักพาตัวไปฆ่า แล้วยังสามารถหลบหนีการจับกุมของตำรวจได้อีกหลายครั้ง

แต่หลังจากที่เขาถูกจับเข้าคุกครั้งสุดท้าย เขาก็กลายเป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่ทุกคนต่างสนใจ เนื่องจากเขาไม่ได้อยู่ในชนชั้นแรงงานเหมือนฆาตกรต่อเนื่องในสมัยนั้น ปากต่อปากสร้างเรื่องเติมแต่ง จนกลายตำนานว่า Ted Bundy เป็นฆาตกรที่เก่งกาจ สมองดี รูปหล่อ และมีการศึกษาสูง

THIS ARTICLE WAS FIRST PUBLISHED ON

 
To ensure the accuracy of the records, please contact via email
if any information requires correction or updating.

REPORT / REQUEST
REPORT / REQUEST