ETERNALS
Chloé Zhao
(2021)
ภาพยนตร์ดัดแปลงจาก Eternals เผ่าพันธุ์สมมุติที่สร้างสรรค์โดย Jack Kirby นักเขียนการ์ตูนชาวอเมริกัน (ผู้สร้าง Captain America) ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือการ์ตูน The Eternals ฉบับที่ 1 เดือนกรกฎาคม 1976
5,000 ปีก่อนคริสตกาล เหล่า Eternals ที่มีพลังพิเศษ 10 คนประกอบด้วย Ajak (Salma Hayek), Sersi (Gemma Chan), Ikaris (Richard Madden), Kingo (Kumail Nanjiani), Sprite (Lia McHugh), Phastos (Brian Tyree Henry), Makkari (Lauren Ridloff), Druig (Barry Keoghan), Gilgamesh (Don Lee) และ Thena (Angelina Jolie) ถูกส่งตัวมายังลงโลกมนุษย์ตามความต้องการของ Arishem (สมาชิกเผ่าพันธุ์ Celestial ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์แรกที่กำเนิดขึ้นมาในจักรวาล) เพื่อมาปกป้องมนุษย์จาก Deviants สัตว์ประหลาดต่างดาวที่เข้ามารุกราน พวกเขาได้รับคำสั่งห้ามไม่ให้แทรกแซงวิถีชีวิตของมนุษย์ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ Deviants
We were instructed not to interfere in any human conflicts unless Deviants were involved.
เหล่า Eternals ใช้ชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์มายาวนาน จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา อาทิ Gilgamesh ในมหากาพย์กิลกาเมช, Ikaris ที่เพี้ยนไปเป็น Íkaros, Thena กลายเป็น Athena เทพีแห่งสงคราม, Phastos ที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาทางเทคโนโลยีหลายอย่างของมนุษย์
We have watched and guided. We have helped them progress and seen them accomplish wonders.
พวกเขาไล่ล่าเหล่า Deviants จนสามารถกำจัดตัวสุดท้ายได้ในช่วงปีคริสตศักราช 1500 แต่หลังจากที่พวกเขาปฏิบัติภารกิจสำเร็จ พวกเขาก็ยังไม่ได้รับคำสั่งให้เดินทางกลับ เมื่อไม่มีศัตรูที่พวกเขาต้องต่อสู้ พวกเขาจึงเริ่มถกเถียงกันเรื่องความรับผิดชอบและความสัมพันธ์กับมนุษย์โลก จนในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจแยกย้ายกันไปอาศัยอยู่ตามที่ต่างๆ เพื่อรอคำสั่งจาก Arishem
One thing that sets apex predators apart is that there are no other animals in their habitat strong enough to hunt them.
เวลาผ่านไปกว่า 500 ปี Sprite, Sersi และ Dane Whitman (Kit Harington) คนรักของเธอถูกลอบโจมตีโดยสัตว์ประหลาด Deviants ที่พวกเขาคิดว่าได้กำจัดไปหมดแล้ว แต่ครั้งนี้มีสัตว์ประหลาดมีความแข็งแกร่งยิ่งกว่าตัวก่อนๆ ที่พวกเขาเคยปะทะด้วย นอกจากนี้มันยังมีพลังพิเศษที่สามารถรักษาตัวเองได้ Ikaris ตามมาช่วยเหลือได้ทัน พวกเขาจึงต้องออกเดินทางไปพบกับ Ajak ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมและเป็นคนเดียวที่สามารถติดต่อกับ Arishem ได้
แต่เมื่อไปถึงก็พบว่า Ajak ถูกสัตว์ประหลาดสังหารไปแล้ว พวกเขาจึงเข้าใจว่าสัตว์ประหลาดดูดพลังพิเศษของ Ajak ไป ทำให้มันมีพลังที่สามารถรักษาแผลตัวเองได้ แต่ก่อนที่ Ajak จะตาย เธอได้เลือก Sersi ให้เป็นผู้นำกลุ่มคนต่อไปและส่งต่ออุปกรณ์สื่อสารที่สามารถติดต่อกับ Arishem ทำให้ Sersi รู้ความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับ Eternals, Deviants และ Arishem
ETERNALS เป็นภาพยนตร์ที่สวยงาม เต็มไปด้วยนักแสดงมากมาย ซึ่งทำให้การแจกจ่ายบทอย่างทั่วถึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย กับความยาวเกือบ 160 นาที ที่ดูเหมือนจะยาวไปสักนิดสำหรับภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรแอคชันแฟนตาซี แต่กลับยังไม่ยาวพอที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันกับตัวละครในเรื่อง — แค่ชื่อตัวละครในช่วงแรก ถ้าไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้ที่รู้มาก่อนว่าใครเล่นเป็นตัวละครตัวไหน ก็แทบจะจำชื่อได้ไม่ครบ กว่าเราจะได้ยินชื่อ Gilgamesh ก็เป็นช่วงที่พวกเขากลับมาพบกันอีกครั้งแล้ว
เข้าใจว่าผู้กำกับต้องการเน้นความสัมพันธ์ของ Sersi และ Ikaris ทำให้พวกเขาได้ “เวลา” ที่จะปรากฏตัวอยู่บนจอนานกว่าคนอื่นๆ จนรู้สึกว่ามันมากเกินไปนิด ไม่ว่าจะเป็นฉากบอกรัก ฉากเมคเลิฟที่ไม่เคยปรากฏในภาพยนตร์ของมาร์เวล หรือฉากแต่งงานที่ดูยิ่งใหญ่อลังการ แต่เรากลับไม่รู้สึกว่าฉากเหล่านี้มันช่วยเสริมโครงเรื่องให้เดินไปข้างหน้าได้อย่างไร นอกจากทำให้สมาชิกคนอื่นกลายเป็นแค่ตัวประกอบ
การตัดต่องุนงงสร้างความสับสนที่ไม่จำเป็น การใช้แฟลชแบ็คย้อนอดีตกลับไปกลับมาเป็นช่วงๆ เพื่ออธิบายว่ามันมีส่วนต่อเนื่องกับฉากต่อไปอย่างไร ยิ่งสร้างความหงุดหงิดน่ารำคาญ นอกจากนี้การหยอดมุขตลกที่ไม่ค่อยได้จังหวะ เมื่อเทียบกับภาพยนตร์ Marvel เรื่องอื่นๆ ทำให้เราขำในจังหวะที่ไม่ลงตัวของมันมากกว่าที่จะขำมุขที่ตัวละครพูด
ส่วนที่ชอบคือแลนด์สเคปสวยงามมาก ถ้าดูใน IMAX ตามที่ผู้กำกับแนะนำก็จะรู้สึกถึงสเกลความยิ่งใหญ่ของ Celestials เมื่อเทียบกับมนุษย์และเหล่า Eternals — โรงที่ดูเป็น IMAX 3D สามารถแยกระหว่างตัวละครและฉากได้อย่างชัดเจน
ETERNALS ฉายรอบปฐมทัศน์ที่ Dolby Theatre ในลอสแอนเจลิสวันที่ 18 ตุลาคม 2021 และเปิดฉายในโรงภาพยนตร์หลายประเทศในยุโรปวันที่ 3 พฤศจิกายน 2021 หลังจากนั้นจึงเปิดฉายในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรวันที่ 5 พฤศจิกายน 2021 ส่วนในประเทศไทยเข้าฉายตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2021 ในชื่อไทยอย่างเป็นทางการว่า “ฮีโร่พลังเทพเจ้า” — Disney ประกาศว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะฉายในโรงภาพยนตร์เป็นเวลา 45 วัน ก่อนที่จะปล่อยบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม