DE BATTRE MON CŒUR S’EST ARRÊTÉ
THE BEAT THAT MY HEART SKIPPED
Jacques Audiard
(2006)
ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวของ Thomas Seyr (Romain Duris) ชายหนุ่มวัย 28 ปี เขาทำอาชีพเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินเพื่อเก็งกำไร งานของเขา รวมไปถึงการใช้กำลังรุนแรง เพื่อไล่ที่ และทวงเงินอีกด้วย แต่อยู่มาวันหนึ่งเขาได้บังเอิญไปพบกับ Monsieur Fox (Sandy Whitelaw) อตีตอาจารย์และผู้จัดการของแม่เขาซึ่งเป็นนักเปียโน และเป็นคนที่มองเห็นแววของเขาตั้งแต่เด็ก
Monsieur Fox ได้เอ่ยปากชวน Thomas ให้มาลองทดสอบเพื่อเป็นนักเปียโน แต่ Thomas ไม่ได้เล่นเปียโนเลย หลังจากที่แม่ของเขา เสียชีวิตไป ซึ่งก็ผ่านมาเกือบสิบปีแล้ว เขาจึงต้องไปจ้างอาจารย์เปียโน เพื่อมาช่วยแนะแนวทางให้เขาผ่านการทดสอบ
พล็อตเรื่องดูเหมือนไม่มีอะไรมาก แต่แท้จริงแล้วมันเต็มไปด้วยเรื่องราว ความสัมพันธ์ที่ซ้อนเหลื่อมกันอยู่ ทั้งอาจารย์-ลูกศิษย์ พ่อ-ลูก อาชีพการงาน-ความฝัน เพื่อน-การทรยศ และยังมีการใช้ดนตรีประกอบ มายำรวมกันอย่างลงตัว ทั้งเพลงคลาสสิคของ Johann Sebastian Bach, Franz Liszt, Johannes Brahms กับเพลงสมัยใหม่อย่าง The Kills, Bloc Party, ไปจนถึงวงแนวอิเลคโทรวงโปรดของผมอย่าง Télépopmusik
ตัวเอก Romain Duris แสดงดีมากๆในเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้ได้ดูหนังที่เขาแสดงไปหนึ่งเรื่องชื่อ Arsène Lupin ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนวดรามาอย่างรุนแรง ไม่ใช่หนังเพลงรื่นรมย์นะครับ DE BATTRE MON CŒUR S’EST ARRÊTÉ เข้าฉายที่ House RCA ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2006
DE BATTRE MON CŒUR S’EST ARRÊTÉ (THE BEAT THAT MY HEART SKIPPED) ฉายรอบปฐมทัศน์ในงาน Internationale Filmfestspiele Berlin วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2005 และเข้าฉายในประเทศฝรั่งเศส วันที่ 16 มีนาคม
ภาพยนตร์เรื่องนี้คว้า César Awards มาได้ 8 รางวัล รวมถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยม จากที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 10 สาขา ในงานประกาศรางวัลครั้งที่ 31 จัดโดย Académie des Arts et Techniques du Cinéma มาตั้งแต่ปี 1976 ซึ่งเป็นงานมอบรางวัลของภาพยนตร์ฝรังเศสและถือเป็นรางวัลสูงสุดในประเทศฝรั่งเศสเทียบได้กับ Academy Awards ของอเมริกา
31e cérémonie des César
1. Meilleur film (De battre mon cœur s’est arrêté)
2. Meilleur réalisateur (Jacques Audiard)
3. Meilleur acteur dans un second rôle (Niels Arestrup)
4. Meilleur espoir féminin (Linh Dan Pham)
5. Meilleure musique écrite pour un film (Alexandre Desplat)
6. Meilleure adaptation et dialogues (Jacques Audiard, Tonino Benacquista)
7. Meilleure photographie (Stéphane Fontaine)
8. Meilleur montage (Juliette Welfling )