ในโลกอนาคต เกิดปรากฏการณ์วิวัฒนาการทางชีวภาพของมนุษย์ ส่งผลทำให้มนุษย์ไม่สามารถรับรู้ความเจ็บปวดอีกต่อไป เหลือเพียงมนุย์บางคนที่ยังสามารถรู้สึกเจ็บปวดได้ในเวลาที่พวกเขาหลับ แต่การกลายพันธุ์ของมนุษย์ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น Brecken (Sozos Sotiris) ลูกชายของ Djuna (Lihi Kornowski) ที่เธอชิงตัวกลับมาจากพ่อของเขา มีความสามารถพิเศษที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อ คือระบบย่อยอาหารที่สามารถย่อยสลายพลาสติกสังเคราะห์ได้ และมันกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ Djuna ว่าลูกของเธอเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป เธอจึงตัดสินใจฆ่าลูกของเธอเอง

เมื่อปราศจากเจ็บปวดที่เป็นเหมือนเครื่องเตือนภัยของมนุษย์ โลกก็แปรเปลี่ยนไปเป็นสถานที่อันตราย ทุกคนสามารเฉือนเนื้อหรือทำการผ่าตัดได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องใช้ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จนเกิดเป็นศิลปะแขนงใหม่ที่ใช้ร่างกายมนุษย์เป็นฐานในการแสดงการตัดต่อชิ้นส่วนอวัยวะต่อหน้าผู้ชม ซึ่งในศิลปะแนว Avant-Garde นี้ Saul Tenser (Viggo Mortensen) และ Caprice (Léa Seydoux) ได้รับการยกย่องในระดับแถวหน้าของวงการ

Saul ป่วยเป็นโรคที่เรียกว่า Accelerated Evolution Syndrome ร่างการของเขาจะสร้างอวัยวะภายในชิ้นใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ คล้ายกับเนื้องอกที่เขาต้องการตัดออกจากร่างกาย เมื่อเขาได้พบกับ Caprice อดีตศัลยแพทย์ที่ผันตัวมาเป็นศิลปิน พวกเขาจึงร่วมมือกันสร้างงานศิลปะแนวใหม่ขึ้นมา โดย Caprice จะใช้เครื่องมือสักลวดลายลงบนอวัยวะภายในของ Saul ที่งอกขึ้นมาใหม่ และเปิดการแสดงผ่าอวัยวะที่กลายเป็นผลงานศิลปะออกมาต่อหน้าผู้ชมแบบสดๆ

Saul ถูกเรียกตัวไปที่ National Organ Registry หน่วยงานที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้นเพื่อจัดเก็บฐานข้อมูลของอวัยวะที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งทั้ง Wippet (Don McKellar) หัวหน้าและ Timlin (Kristen Stewart) ผู้ช่วย ต่างก็แอบชื่นชมผลงานของ Saul และ Caprice อยู่แล้ว พวกเขามีหน้าที่จดบันทึกอวัยวะแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นมาในร่างกายมนุษย์ อวัยวะที่ไม่สามารถระบุการทำงานที่ชัดเจนของพวกมันได้ รัฐบาลกำลังหวั่นเกรงว่าอวัยวะประหลาดเหล่านี้จะสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมไปสู่รุ่นลูกหลานได้ และทำให้พวกเขาไม่เข้ากับคำจำกัดความของมนุษย์ปกติอีกต่อไป

คืนวันหนึ่ง Saul ได้พบกับ Lang Dotrice (Scott Speedman) ที่เข้ามายื่นข้อเสนอให้เขาใช้ศพของ Brecken ซึ่งเป็นลูกชายในงานแสดงครั้งต่อไปของเขา โดยบอกว่าทุกคนในงานจะต้องตื่นตะลึงกับสภาพภายในของลูกชายเข้าอย่างแน่นอน แต่ Saul รู้สึกไม่ชอบมาพากล จึงยังไม่ได้ตอบตกลง

ลึกๆ ในใจ Saul ก็รู้สึกสนใจว่าศพของเด็กคนนั้นมีความพิเศษอย่างไร เขาจึงใช้เส้นของ Cope (Welket Bungué) นายตำรวจที่เขาเป็นสายให้ เบิกทางเข้าไปคุยกับ Djuna ที่ถูกจับในข้อหาฆ่าลูกชายตัวเอง จนเขาได้รู้ความจริงว่า Lang เป็นหัวหน้ากลุ่มของมนุษย์ที่ดัดแปลงร่างกายตัวเองให้สามารถย่อยสลายพลาสติกสังเคราะห์ได้ พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาคือมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ที่ปรับสภาพให้เหมาะสมกับโลกที่เต็มไปด้วยมลภาวะและขยะอุตสาหกรรม เป้าหมายของพวกเขาคือการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงต่อสาธารณชนผ่านงานแสดงศิลปะของ Saul และ Caprice

ภาพยนตร์ของ Cronenberg นี่คือเป็นสไตล์ของเขาจริงๆ ทั้งการออกแบบฉาก บท และการเล่าเรื่องที่เปลี่ยนไปได้หลายแนว ตั้งแต่โลกอนาคตที่อึมครึม เต็มไปด้วยความลึกลับ มีซับพล็อตเป็นแนวสืบสวนแล้วยังมีเรื่องของความรักที่แปลกประหลาด ปริศนาของศิลปะและชีวิต การตั้งคำถามว่ามนุษย์ทำลายโลกใบนี้ไปแค่ไหนแล้ว และเราจะรับมือกับวิวัฒนาการของมนุษย์ที่อาจจะเปลี่ยนไปในอนาคตที่สภาพแวดล้อมเสื่อมถอยลงได้อย่างไร — ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน ถ้าไม่ถูกจริตกับงานของ Cronenberg ก็อาจจะเกลียดไปเลยก็ได้

CRIMES OF THE FUTURE ฉายรอบปฐมทัศน์ในงาน Festival de Cannes วันที่ 23 พฤษภาคม 2022 และเข้าฉายในประเทศฝรั่งเศสวันที่ 25 พฤษภาคม

ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายแบบจำกัดในสหรัฐอเมริกาวันที่ 3 มิถุนายน 2022 และปล่อยให้เช่า/ซื้อในรูปแบบ Video On Demand ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน