แม่หมีกลายเป็นหมีคลั่งทำร้ายผู้คน หลังจากมันเสพโคเคนที่ถูกลักลอบโยนลงมาจากเครื่องบิน และกลายเป็นความวุ่นวาย เมื่อเจ้าพ่อค้ายาสั่งให้ลูกสมุนคนสนิท ไปเก็บโคเคนอัดแท่งมูลค่ากว่า 20 ล้านเหรียญ ซึ่งหล่นกระจายอยู่บนภูเขากลับคืนมา
COCAINE BEAR
Elizabeth Banks
(2023)
ปี 1985 นักลักลอบขนยาเสพติด Andrew C. Thornton II (Matthew Rhys) โยนก้อนโคเคนอัดแท่งจำนวนมากลงมาจากเครื่องบินเล็กของเขา ระหว่างที่กำลังบินผ่าน Blood Mountain ทางตอนเหนือของรัฐจอร์เจีย แต่เกิดความผิดพลาดขณะที่เขากำลังจะกระโดดร่ม ศีรษะของเขากระแทกขอบประตูเครื่องบินจนหมดสติไป ก่อนที่ร่างของเขาตกกระแทกพื้นจนเสียชีวิต
ร่างของเขาถูกพบที่ Knoxville ในรัฐเทนเนสซี — Bob (Isiah Whitlock Jr.) นายตำรวจนักสืบประจำเมือง จำได้ว่า Andrew ทำงานขนยาเสพติดให้กับ Syd White (Ray Liotta) พ่อค้ายารายใหญ่ และเขาเชื่อว่าโคเคนที่ Andrew ลับลอบขนมาน่าจะมีปริมาณมากกว่าที่ตำรวจพบในที่เกิดเหตุ
Syd ต้องการโคเคนส่วนที่เหลือ เขาจึงสั่งให้ Daveed (O’Shea Jackson Jr.) พา Eddie (Alden Ehrenreich) ลูกชายของเขา ไปช่วยกันค้นหาโคเคนส่วนที่เหลือซึ่งตกหล่นอยู่ในหุบเขากลับมา
Bob ได้ข่าวจากคนขับรถบรรทุกที่บังเอิญได้ยินเรื่องของ Daveed และ Eddie ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นคนของ Syd เขาจึงตัดสินใจเดินทางไปรัฐจอร์เจียเพื่อตามรอยเส้นทางการลักลอบขนโคเคน
ส่วนอีกด้านหนึ่ง Dee Dee (Brooklynn Prince) แอบหนี Sari (Keri Russell) แม่ของเธอเพื่อไปวาดรูปน้ำตกใน Blood Mountain กับ Henry (Christian Convery) เพื่อนสนิท เนื่องจากเธอไม่ต้องการไปเที่ยวกับแฟนใหม่ของแม่ แต่ระหว่างทางพวกเขาพบโคเคนอัดแท่ง และถูกหมีคลั่งบุกทำร้ายจนต้องหนีเอาตัวรอด
ความบันเทิงของเรื่องนี้คือ พฤติกรรมของหมีที่ไม่สมจริงระดับเหนือการคาดหมาย จนกลายเป็นความตลกสายโหด อาทิ หมีสามารถเคลื่อนตัวได้อย่างเงียบเชียบรวดเร็วดุจนินจา หมีสามารถปีนต้นไม้สูงได้ หรือฉากที่อยู่ดีๆ หมีก็สลบล้มทับคน
ชอบการไต่ระดับความระทึกที่เพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ ทำให้ผู้ขมต้องลุ้นว่า หมีจะจัดการเหยื่อด้วยวิธีไหนต่อไป แต่ที่สุดคือฉากรถพยาบาล ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ Beth (Kahyun Kim) และ Tim (Scott Seiss) พบกับหมีคลั่งเป็นครั้งแรก จังหวะทุกอย่างมันขำแบบลงตัวไปหมด รวมถึงฉากหมีวิ่งไล่รถพยาบาล ที่ต้องชม Margo Martindale ในบทเจ้าหน้าที่ป่าไม้ด้วย มันคือฉากที่มีเอกลักษณ์และน่าจดจำที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้
น่าเสียดายที่เรื่องราวหลังจากฉากรถพยายาบาลไม่สามารถดึงอารมณ์ให้ทะลุขึ้นไปอีก คงต้องโทษบทที่พยายามยัดเยียดเรื่องความรักครอบครัว การสานสัมพันธ์แม่ลูกที่ร้าวราน การตัดความสัมพันธ์พ่อลูก รวมถึงครอบครัวหมี ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้อารมณ์สะดุด และทำให้ความสนุกโดยรวมลดลงไปอย่างมาก ทั้งที่มีโอกาสอัดความบ้าคลั่งแบบหลุดโลกที่จะช่วยเสริมให้เรื่องนี้ขึ้นหิ้งระดับคัลท์ได้ คือตั้งแต่หมีเสพโคเคนเข้าไปขนาดนั้นแล้วไม่ตาย ผู้ชมก็น่าจะรู้แล้วว่าเรื่องนี้ไม่ได้ตั้งอยู่บนฐานความจริงตามวิทยาศาสตร์แน่นอน
ผลงานกำกับภาพยนตร์ยาวเรื่องที่สามของ Elizabeth Banks นักแสดงชาวอเมริกัน ซึ่งสร้างชื่อเป็นที่รู้จักในวงการจากบท Effie Trinket ในซีรีส์ภาพยนตร์ THE HUNGER GAMES ก่อนจะผันตัวมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ PITCH PERFECT 2 ในปี 2015 และ CHARLIE’S ANGELS ฉบับรีบูตในปี 2019
ตัวบทภาพยนตร์ได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในปี 1985 เมื่อ Cocaine Bear (หรือ Pablo Eskobear) หมีดำได้กินโคเคน ซึ่งนักลักลอบขนยาเสพติดหย่อนทิ้งลงที่ป่าในรัฐเทนเนสซี จนเกิดอาการโอเวอร์โดสทำให้มันเสียชีวิต โดยหลังจากที่มันตาย ร่างของมันก็ถูกนำไปแสดงโชว์ในห้างสรรพสินค้าในรัฐเคนทักกี ศพของนักบินถูกพบในเมือง Knoxville วันที่ 11 กันยายน ได้รับการยืนยันโดย FBI ว่าเป็นร่างของ Andrew C. Thornton II เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด
COCAINE BEAR เข้าฉายในประเทศเบลเยียม วันที่ 22 กุมภาพันธ์ และเข้าฉายในประเทศไทย วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ด้วยชื่อ “หมีคลั่ง” ก่อนจะเปิดฉายในสหรัฐอเมริกา วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ตัวภาพยนตร์กวาดรายได้ทั่วโลกไปมากกว่า 65 ล้านเหรียญสหรัฐ (จากทุนสร้างประมาณ 30 ล้านเหรียญ)
ชอบเพลงประกอบฝีมือคุณ Mark Mothersbaugh นักประพันธ์ชาวอเมริกัน กับงานเพลงแนวซินธิไซเซอร์เสียงสังเคราะห์ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศแบบภาพยนตร์สยองชวัญยุค 80s