Latest

CLOSE

3000 1688 PRADT
3-MINUTE READ

CLOSE

Lukas Dhont
(2022)

★★★☆☆
 

เด็กผู้ชายวัย 13 ปี Léo (Eden Dambrine) และ Rémi (Gustav De Waele) เป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก พวกเขาเล่นด้วยกัน และไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ Léo มักจะไปค้างที่ห้องของ Rémi พวกเขานอนบนเตียงเดียวกัน ซึ่ง Peter (Kevin Janssens) และ Sophie (Émilie Dequenne) พ่อแม่ของ Rémi ก็รัก Léo ราวกับเป็นลูกชายอีกคนของพวกเขา

หลังจากช่วงปิดเทอมฤดูร้อนจบลง Léo และ Rémi ก็เข้าเรียนที่โรงเรียนใหม่ในชั้นมัธยม และได้เรียนในห้องเดียวกัน ความสนิมสนมของพวกเขาทำให้เพื่อนในชั้นเรียนเกิดความสงสัยว่าพวกเขาเป็นแฟนกันหรือเปล่า ซึ่งเมื่อถูกถามตรงๆ Léo ก็ตอบปฏิเสธด้วยความไม่พอใจ และยืนยันว่าพวกเขาเป็นแค่เพื่อนที่สนิทกันเหมือนพี่น้องเท่านั้น

Léo เริ่มรู้สึกสนใจภาพลักษณ์ของตนเองในสังคมเพื่อนนักเรียน เขาไม่อยากถูกใครมองว่ามีความสนิทสนมเกินเพื่อนกับ Rémi เขาจึงพยายามตีตัวออกห่าง ด้วยการไปรวมกลุ่มกับเพื่อนใหม่ และยังสมัครเข้าทีมฮอกกี้น้ำแข็งของโรงเรียน ส่วน Rémi ก็รู้สึกได้ว่า Léo มีท่าทีเปลี่ยนไป แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

พวกเขาเริ่มทะเลาะกันกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง Léo เลิกไปนอนค้างที่ห้องของ Rémi และไปเล่นกับกลุ่มเพื่อนใหม่ เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกฮอกกี้น้ำแข็ง และช่วยงานครอบครัวในฟาร์มดอกไม้ โดยไม่สนใจว่า Rémi จะรู้สึกอย่างไร เขาไม่เคยอธิบายเหตุผลให้ Rémi หรือพ่อแม่ฟัง

จนกระทั่งวันหนึ่ง Rémi ตัดสินใจถาม Léo ว่าทำไม Léo จึงไม่ยอมรอที่จะขี่จักรยานมาพร้อมกันในตอนเช้า ทั้งที่มันคือสิ่งที่เหลือเพียงอย่างเดียวที่พวกเขาทำร่วมกัน ซึ่ง Léo อ้างว่าเขาตื่นเช้าก็เลยออกมาก่อนโดยไม่รอ แต่กลับทำให้ Rémi ไม่พอใจ เพราะรู้ว่า Léo โกหก ทำให้เขาเสียใจจนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ไดั และพยายามทำร้าย Léo จนคุณครูต้องออกมาจัดการ

หลังจากเหตุการณ์ทะเลาะกันต่อหน้าเพื่อนทั้งโรงเรียน ความสัมพันธ์ระหว่าง Léo และ Rémi ก็ดูเหมือนจะขาดสะบั้นลงอย่างสิ้นเชิง ทั้งคู่เลิกพูดคุยกัน ต่างคนต่างแยกไปมีสังคมเพื่อนใหม่ของตัวเอง ขณะที่ Léo ยังคงแอบเฝ้ามอง Rémi อยู่ห่างๆ — แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด ซึ่งทำให้ชีวิตของทุกคนเปลี่ยนไปตลอดกาล

ผลงานของ Lukas Dhont ผู้กำกับ/นักเขียนบท ชาวเบลเยียม กับบทภาพยนตร์ที่เขาเขียนร่วมกับ Angelo Tijssens (นักเขียนบทที่เคยร่วมงานกันใน Girl ภาพยนตร์ที่คว้ารางวัล Caméra d’Or มาได้ในปี 2018) บอกเล่าเรื่องราวของเพื่อนสนิทสองคนในช่วงเปลี่ยนผ่านก้าวเข้าสู่สังคมใหม่ ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาต้องจบลงด้วยโศกนาฏกรรม

ชอบการใช้สี และองค์ประกอบภาพฝีมือ Frank van den Eeden ผู้กำกับภาพชาวดัตช์ ที่ถ่ายทอดออกมาได้สวยงามมากทุกฉาก ชอบโครงสร้างการเล่าเรื่องในครึ่งแรก คัดเลือกตัวนักแสดงมาได้ดี ทุกคนเล่นได้สมจริงดูเป็นธรรมชาติ

ส่วนที่ไม่ค่อยชอบคือตัวภาพยนตร์มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับ Léo ซึ่งเป็นตัวละครหลัก จนตัวละครอื่นกลายเป็นแค่ตัวละครเบื้องหลัง การพยายามปกปิดเหตุผลโดยไม่ยอมเอ่ยปากอธิบายให้เพื่อนเข้าใจถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ผู้ชม (รวมถึงผู้ปกครอง) ก็ไม่รู้ว่าสภาพจิตใจของ Rémi เป็นอย่างไร ไม่มีสัญญานเตือนหรือขยายความ ว่าทำไมเขาจึงตัดสินใจทำเช่นนั้น

ภาพยนตร์ครึ่งหลังมีความระทึกแบบ suspense thriller ที่ไม่จำเป็น เต็มไปด้วยคำถามที่ไม่มีคำตอบ ทุกฉากที่ Sophie ปรากฏตัว ทำให้เราต้องลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้น Léo จะเล่าเรื่องที่เขาคิดว่าเขาเป็นต้นเหตุ หรือ Rémi ทิ้งข้อความที่เปิดเผยความจริงบางอย่างหรือเปล่า ทำไมทุกคนจึงเก็บความเศร้าไว้ภายในแล้วใช้ชีวิตต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำไม Léo ต้องแบกรับความรู้สึกผิดเอาไว้คนเดียว ทั้งที่มันไม่ใช่

CLOSE ฉายรอบปฐมทัศน์ในงานเทศกาลภาพยนตร์ Cannes วันที่ 26 พฤษภาคม 2022 ในสายประกวดชิงรางวัล Palme d’Or และสามารถคว้ารางวัล Grand Prix ซึ่งเป็นรางวัลรองมาได้ คู่กับ STARS at NOON ก่อนจะเข้าฉายในประเทศฝรั่งเศส วันที่ 1 พฤศจิกายน ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Diaphana Distribution และเข้าฉายในสหรัฐอเมริกา วันที่ 27 มกราคม 2023 ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ A24

ภาพยนตร์ภาษาฝรั่งเศสจากประเทศเบลเยียมเรื่องนี้ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Academy Awards ครั้งที่ 95 ในสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best International Feature Film)

CLOSE เข้าฉายในประเทศไทยด้วยชื่อ “รักแรก วันนั้น” วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2023 โดยมีการฉายรอบพิเศษในช่วงวันที่ 16 – 22 กุมภาพันธ์

REPORT / REQUEST
REPORT / REQUEST