เมื่อ Andy Jones (Stephen Graham) หัวหน้าเชฟแห่งร้าน Jones & Sons เข้ามาถึงร้านก็พบกับเจ้าหน้าที่โผล่มาตรวจเรื่องความสะอาดและการจัดการครัว ความผิดพลาดของพนักงานและงานเอกสารที่ไม่เรียบร้อย เป็นเหตุทำให้ร้านของเขาโดนหักคะแนนจาก 5 เหลือเพียง 3 ดาว จนกว่าจะมีการแก้ไขและได้รับการตรวจรับรองอีกครั้ง

Carly (Vinette Robinson) ผู้ช่วยหัวหน้าเชฟแจ้งว่าวัตถุดิบที่จะใช้ทำอาหารมีเหลือไม่มาก โดยเฉพาะเนื้อที่ไม่สามารถหาซื้อได้ในคืนคริสต์มาสอีฟ แต่เธอเชื่อว่ายังสามารถทำเมนูที่ดีด้วยวัตถุดิบที่มีอยู่ได้ Freeman (Ray Panthaki) แสดงอารมณ์ไม่พอใจที่ Andy ไม่รักษาเวลาซึ่งสร้างปัญหาให้กับพนักงานคนอื่น ปัญหาขีวิตครอบครัวของเขาส่งผลกระทบกับการงานในร้าน

Beth (Hannah Walters) ผู้จัดการร้านและยังเป็นลูกสาวเจ้าของร้าน เธอสนใจการโปรโมตร้านผ่านสื่อโซเขียลมีเดียมากกว่าคุณภาพอาหารของร้าน เธอมักจะรับจองโต๊ะเกินกว่าที่ทางร้านจะรับไหว และในคืนนี้เธอก็รับจองโต๊ะของ Alastair Skye (Jason Flemyng) เซเลบริตีเชฟชื่อดัง โดยที่ไม่ได้แจ้งหัวหน้าเชฟล่วงหน้าอีกด้วย Andy รู้จัก Alastair เป็นอย่างดี เขาคิดว่า Alastair น่าจะมีจุดประสงค์ชั่วร้ายอย่างอื่นมากกว่าที่จะแค่มาทานอาหารที่ร้านของเขา

ระหว่างที่เรื่องราวกำลังดำเนินผ่านค่ำคืนที่วุ่นวายที่สุด กล้องก็เคลื่อนที่ไปทั่วร้านอาหาร เผยให้เราได้เห็นเบื้องหลังที่เราไม่เคยสังเกต พนักงานเสิร์ฟที่เข้างานสายเพราะแอบไปออดิชัน, ลูกค้าที่แสดงท่าทีไม่พอใจที่พนักงานเสิร์ฟที่โต๊ะเป็นคนผิวสี, ลูกค้าที่ส่งอีเมล์มาแจ้งเรื่องแพ้อาหาร, พนักงานล้างจานที่กำลังตั้งครรภ์, เด็กผู้ช่วยเชฟขนมหวานที่พยายามซ่อนรอยแผลของเขา, นักวิจารณ์อาหารชื่อดังที่ปรากฏตัวโดยไม่มีใครคาดคิด

ภาพยนตร์ความยาว 88 นาที ถ่ายทำแบบ one-shot ต่อเนื่องตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่มีการตัดต่อหรือหยุดพัก ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นรีเมคของภาพยนตร์สั้นปี 2019 ความยาว 22 นาที ชื่อเดียวกันซึ่งนำแสดงโดย Stephen Graham กำกับโดย Philip Barantini และถ่ายทำแบบเทคเดียวจบเช่นเดียวกัน

Stephen Graham กลับมารับบทนำอีกครั้งในบท Andy Jones หัวหน้าเชฟแห่งร้าน Jones & Sons ตั้งอยู่ใน Dalston ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นร้านที่มีอยู่จริง และเจ้าของร้านชื่อ Andy Jones ก็เป็นเพื่อนสนิทของ Philip Barantini ที่อนุญาตให้ใช้ร้านของเขาเพื่อเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์

ความสนุกอยู่ที่การผูกเรื่องและการเล่าเรื่องได้อย่างลื่นไหล ผ่านตัวละครต่างๆ ในร้านอาหารที่ดูสมจริงอย่างน่าทึ่ง กับความระทึกที่เพิ่มขึ้นทุกนาที ทำให้เราไม่สามารถละสายตาไปได้เลย แม้ว่าจะมีจุดบอกใบ้ให้เราเดาได้ว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นในช่วงท้าย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความตื่นเต้นลดลง

การถ่ายทำแบบต่อเนื่องโดยไม่มีการตัดต่อ ช่วยเสริมบรรยากาศกดดัน แบบค่อยๆ บีบคั้นอารมณ์จนไปถึงจุดพีคได้อย่างยอดเยี่ยม ขอยกให้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์เกี่ยวกับอาหารที่น่าจดจำที่สุดที่เคยได้ดูมา

นักแสดงทุกคนเล่นได้สมบทบาทมาก โดยเฉพาะ Stephen Graham, Vinette Robinson และ Jason Flemyng

การถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนึ่งในโปรดักชันสุดท้ายในสหราชอาณาจักร ก่อนจะเกิดการแพร่ระบาด COVID-19 ในเดือนมีนาคม 2020 ทีมงานได้มีการซักซ้อมและเตรียมการสำหรับการถ่ายทำไว้ทั้งหมด 4 คืน โดยที่แต่ละคืนจะสามารถถ่ายทำได้ 2 รอบ แต่ภาพยนตร์ก็สามารถถ่ายทำได้จนเสร็จสมบูรณ์ในเทคที่ 3 ซึ่งถ่ายทำกันในคืนที่สอง

BOILING POINT ฉายรอบปฐมทัศน์ที่งาน KVIFF (Karlovy Vary International Film Festival) วันที่ 23 สิงหาคม 2021 และเปิดฉายแบบจำกัดจำนวนโรงในสหรัฐอเมริกาวันที่ 19 พฤศจิกายน 2021 ส่วนในสหราชอาณาจักรเข้าฉายวันที่ 7 มกราคม 2022 พร้อมกับปล่อยให้เช่าแบบดิจิทัลในวันเดียวกัน