ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรในจักรวาลของ DC ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างน่าผิดหวัง กับการยัดตัวละครมากมายจนดูขัดกันไปหมด ยุ่งเหยิงแบบไม่รู้จะพุ่งไปทางไหนดี และตัวร้ายก็ยังคงเป็นจุดอ่อนที่ไม่น่าจดจำ
BLACK ADAM
Jaume Collet-Serra
(2022)
ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรดัดแปลงจากตัวละคร Black Adam (หรือ Teth Adam) ผลงานของ Otto Binder และ C. C. Beck นักเขียนชาวอเมริกัน ปรากฏตัวครั้งแรกในนิตยสารการ์ตูน The Marvel Family ของ Fawcett Comics ฉบับเดือนธันวาคม 1945 ซึ่งต่อมา DC Comics ได้ซื้อลิขสิทธิ์ตัวละครจาก Fawcett ในช่วงปี 1970
Black Adam เวอร์ชัน Dwayne Johnson ปรากฏตัวครั้งแรกใน DC LEAGUE OF SUPER-PETS ซึ่งเขาให้เสียงเป็นทั้ง Krypto สุนัขตัวเอกของเรื่องและ Teth-Adam ที่ออกมาช่วงหลังภาพยนตร์จบ
เมื่อ 5,000 ปีก่อน เมือง Kahndaq ถูกปกครองโดย Anh Kot (Marwan Kenzari) พระราชาผู้โหดเหี้ยมที่ออกคำสั่งให้ข้าทาสบริวารขุดหา Eternium คริสตัลพิเศษเพื่อนำมาสร้างมงกุฏแห่ง Sabbac ซึ่งเชื่อกันว่าจะมอบพลังอันยิ่งใหญ่ให้กับผู้สวม
Hurut (Jalon Christian) เด็กหนุ่มผู้เชื่อมั่นในอิสรภาพ สามารถปลุกใจเรวมพลหล่าทาสให้ลุกขึ้นต่อต้านพระราชา พระราชาจึงสั่งจับตัวเขาเพื่อประหารต่อหน้าทุกคน แต่กลุ่มพ่อมดช่วยเขาไว้ด้วยการมอบพลังแห่ง Shazam เปลี่ยนร่างเขาให้กลายเป็นแชมเปี้ยน Teth Adam ผู้มีพลังเวทมนตร์และความแข็งแกร่งไร้เทียมทาน การปะทะกันระหว่าง Anh-Kot และ Teth Adam ทำให้พระราชวังถูกทำลายจนพินาศ หลังจากนั้น Teth Adam ก็นำมงกุฏไปซ่อนไว้ ก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ปัจจุบันเมือง Kahndaq ถูกครอบครองโดย Intergang องค์กรอาชญากรรมที่กำลังตามหาตัว Adrianna Tomaz (Sarah Shahi) นักโบราณคดี ซึ่งรู้ตำแหน่งที่ซ่อนของมงกุฏแห่ง Sabbac ในสุสานใต้ภูเขา และต้องการจะย้ายมันไปซ่อนไว้ที่อื่นก่อนที่จะมีใครนำไปใช้ แต่ Intergang ไล่ตามมาจนทันและพยายามจะฆ่าเธอ เธอจึงอ่านคาถาปลุก Teth Adam (Dwayne Johnson) ขึ้นมาจากการหลับไหล
Justice Society นำทีมโดย Carter Hall / Hawkman (Aldis Hodge) พร้อมกับสมาชิกอีก 3 คน Al Rothstein / Atom Smasher (Noah Centineo) ชายผู้มีพลังพิเศษสามารถย่อขยายร่างได้ดั่งใจ, Maxine Hunkel / Cyclone (Quintessa Swindell) หญิงสาวที่สามารถบังคับลมได้ และ Kent Nelson / Doctor Fate (Pierce Brosnan) ผู้ใช้เวทมนตร์และมีพลังมองเห็นอนาคต ได้รับคำสั่งให้เดินทางไปเมือง Kahndaq เพื่อหยุดยั้ง Teth Adam เนื่องจากประวัติศาสตร์ที่แท้จริงนั้น ต่างจากเรื่องเล่าที่ชาวเมืองเชื่อถือสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน
ส่วนที่ชอบคือ การผูกเรื่องโยงอดีตได้น่าสนใจ มีจุดหักมุมนิดหน่อย (แต่กว่าจะเฉลยความจริง มันก็ช้าเกินว่าที่คนจะสนใจแล้ว) องค์ประกอบศิลป์ ภาพเรนเดอร์ CGI สุดยอดสวยงามระดับเอาชนะภาพยนตร์หลายเรื่องของ Marvel ที่ออกมาในช่วงหลังนี้ได้สบาย
ส่วนที่ไม่ชอบคือ การพยายามยัดตัวละครหลายตัวที่อยู่ๆ ก็โผล่มา ถ้าไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ DC ก็อาจจะไม่รู้ว่าตัวละครเหล่านั้นมีความพิเศษอย่างไร การเดินเรื่องมันก็เลยดูขัดกันไปหมด ยุ่งเหยิงแบบไม่รู้จะพุ่งไปทางไหนดี ทำให้การชมภาพยนตร์ที่มีความยาว 120 นาที รู้สึกเหมือนยาวสัก 180 นาที ส่วนหนึ่งอาจะเป็นเพราะการพยายามโชว์ CGI ด้วยภาพสโลโมชันเกือบทุกฉากที่มีการต่อสู้กัน จนงงว่าหยิบมาใช้บ่อยเกินไปไหม
พลังของ Black Adam ก็มีเยอะจนแทบจะไร้จุดอ่อน ผู้ชมก็เลยไม่รู้สึกว่าต้องลุ้นหรือคอยเชียร์ให้รอดพ้นจากอันตราย อีกอย่างที่ไม่เข้าใจคือการใส่ฉากต่อสู้ไร้สาระถล่มบ้านเมืองพังวินาศสันตะโร (แต่ไม่เห็นมีประชาชนตาย มีแต่คนร้ายล้มตายราวกับใบไม้ร่วง) เข้ามาอย่างมากมาย มันเป็นซิกเนเจอร์ของ DC หรือเปล่า มันให้อารมณ์เหมือนตอน Doomsday สู้กับ Superman เลย
และตัวร้ายก็ยังคงเป็นจุดอ่อนของ DC เหมือนเดิม ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่สามารถสร้างตัวร้ายที่น่าจดจำได้ระดับอย่างที่ MCU ทำ ถ้าให้เทียบแล้ว Sabbac ของ DCEU ก็คงประมาณ Surtur ที่โผล่มาเป็นตัวประกอบใน THOR: RAGNAROK เท่านั้นแหละ น่าเสียดายที่ BLACK ADAM ไม่สามารถสร้างความประทับใจได้เหมือนกับที่ SHAZAM! เคยทำเอาไว้
BLACK ADAM ฉายรอบปฐมทัศน์ในเม็กซิโกซิตี วันที่ 3 ตุลาคม 2022 และ เข้าฉายในประเทศไทยวันที่ 20 ตุลาคม ด้วยชื่อ “แบล็ก อดัม” ก่อนจะเข้าฉายในสหรัฐอเมริกา วันที่ 21 ตุลาคม
หลังภาพยนตร์จบมีฉาก mid-credits แต่ไม่ต้องรอดูก็ได้นะ เสียเวลาชีวิต มีแค่ซูเปอร์แมนโผล่หน้ามา