ภาพยนตร์ดัดแปลงจากเรื่องจริงของนักโทษชาวอเมริกันที่ข้ามชายแดนไปแคนาดาในปี 1984 และลงมือปล้นธนาคารรวมถึงร้านขายเครื่องประดับ 59 ครั้ง คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 2 ล้านเหรียญ สร้างสถิติการปล้นสำเร็จต่อเนื่องมากที่สุดในประวัติศาสตร์

ภาพยนตร์ดัดแปลงจากเรื่องราวชีวิตของ Gilbert Galvan Jr. ฉายา The Flying Bandit ซึ่งหลบหนีออกจากคุกในรัฐมิชิแกนเมื่อปี 1984 และข้ามชายแดนไปเมืองออตตาวา ในประเทศแคนาดา หลังจากนั้นเขาก็ลงมือปล้นธนาคารรวมถึงร้านขายเครื่องประดับ 59 ครั้ง คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 2 ล้านเหรียญ ขณะกำลังโดนตำรวจไล่ล่า สร้างสถิติการปล้นสำเร็จต่อเนื่องมากที่สุดประวัติศาสตร์ของประเทศแคนาดา ตัวบทเขียนขึ้นโดยใช้ข้อมูลจากหนังสือ The Flying Bandit ของ Robert Knuckle ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1996 ซึ่งผู้เขียนได้รวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้อง

Gilbert Galvan Jr. (Josh Duhamel) ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดปลอมแปลงเช็ค และต้องรับโทษจำคุกเป็นเวลา 18 เดือน แต่เขาตัดสินใจหนีออกมาหลังจากเวลาผ่านไปเพียง 6 เดือนเท่านั้น เขากลัวจะถูกตำรวจจับตัวอีกครั้ง เขาจึงเดินทางข้ามชายแดนสหรัฐอเมริกาไปยังประเทศแคนาดา

เนื่องจากเขาไม่มีอะไรติดตัวมาเลย เขาจึงขอซื้อบัตรประจำตัวจากชายขอทานชื่อ Robert Whiteman เพื่อนำไปใช้สมัครทำงานเป็นพนักงานขายไอศกรีมตอนกลางวัน แล้วตอนกลางคืนก็ไปนอนที่ The Good Shepherd ที่พักสำหรับคนไร้บ้าน ซึ่งทำให้เขาได้พบกับ Andrea (Elisha Cuthbert) ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลศูนย์พักพิง

ทุกอย่างเหมือนจะไปได้ด้วยดี จนกระทั่งวันหนึ่งบริษัทไอศกรีมสั่งลดจำนวนรถเข็นเพื่อไปเน้นการขายและกระจายไอศกรีมด้วยรถบรรทุก ทำให้ Robert ตกงานทันที แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความหวัง เมื่อเขาเริ่มสานสัมพันธ์กับ Andrea จนเธอตั้งครรภ์

Robert ก็ยังคงกลัวว่าเรื่องที่เขาเป็นนักโทศแหกคุกอาจจะแดงขึ้นมาสักวัน ขณะเดียวกันนั้นเขาต้องหาเงินเพื่อมาใช้จ่ายในครอบครัว เขาจึงเดินทางไปเมืองแวนคูเวอร์ เพื่อหางานทำ แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจปี 1986 ที่ย่ำแย่ทำให้มีผู้คนตกงานจำนวนมาก ไม่มีที่ไหนเปิดรับจ้างพนักงานใหม่ เขาจึงเกิดความคิดที่จะปล้นธนาคาร

เขาปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัย ทำทีเข้าไปตรวจสอบข้อบกพร่องของธนาคาร เขาจึงรู้ความจริงว่าธนาคารในแคนาดาไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย พวกเขาเพียงแค่จ้างยามท้องถิ่นมาเพื่อดูแลธนาคารเท่านั้น นอกจากนั้นธนาคารยังไม่มาตรการใดๆ เกี่ยวกับโจรปล้นธนาคาร พวกเขาได้รับคำสั่งให้ทำทุกอย่างตามที่คนร้ายต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดประตูตู้เซฟ หรือการกดปุ่มส่งสัญญาณบอกตำรวจ

งานปล้นธนาคารกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่ปํญหาก็คือเขาได้เงินเพียง 20,000 เหรียญต่อการปล้นหนึ่งครั้ง เนื่องจากต้องใช้ความรวดเร็วในการเข้าออกจากธนาคาร และสาขาของธนาคารในแคนาดาก็ไม่ได้มีเงินสดจำนวนมากเก็บไว้ที่เคาน์เตอร์ เมื่อเขาต้องการเงินใช้ก้อนใหญ่เขาจึงต้องไปขอความช่วยเหลือจาก Tommy (Mel Gibson) เจ้าพ่อขาใหญ่ที่มีอิทธิพล ซึ่งกลายมาเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญของเขา

BANDIT เป็นภาพยนตร์มีเสน่ห์และมีความน่ารักอย่างแปลกประหลาด เรื่องราวของโจรปล้นธนาคารที่ไม่ได้ทำร้ายใคร ไม่มีคนตาย ทั้งเรื่องแทบไม่มีการต่อสู้กันเลย แต่เล่าเรื่องได้น่าติดตามตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ กับภาพยนตร์ที่มีความยาวเกือบสองชั่วโมง ที่ดูเหมือนจะยาวไปสักนิดสำหรับแนวนี้ แต่ก็ไม่รู้สึกว่ามีฉากไหนที่ยืดเยื้อหรือน่าเบื่อเลย

Josh Duhamel สวมบทบาทได้ดีมาก น่าจะเป็นการแสดงที่ดีที่สุดของเขาแล้วตั้งแต่เคยดูมา บุคลิกที่มีทั้งความตลกและความจริงใจอย่างเหลือล้น ดึงดูดให้ผู้ชมเอาใจช่วยเขาให้ทำงานสำเร็จและผ่านพ้นวิกฤตไปด้วยดี แม้ว่าตอนจบเขาจะถูกจับได้ ซึ่งก็เป็นไปตามชีวิตจริงที่เขาถูกสั่งจำคุกเป็นเวลา 20 ปีก็ตาม

คัดเลือกนักแสดงมาได้สมบทบาททุกคน ทั้ง Mel Gilbson ในบทหัวหน้าแก๊งที่ต่างจากที่เราเคยเห็นในภาพยนตร์แนวนี้ ส่วน Elisha Cuthbert ที่ไม่เห็นหน้ามานาน (เรื่องสุดท้ายที่ได้ดูคือ HOUSE OF WAX ตั้งแต่ปี 2005) มารับบทคนรักก็มีเคมีเข้ากันอย่างยอดเยี่ยม

ฉากที่ชอบสุดคือฉากที่นางเจอเงินสดที่ตัวเอกซ่อนไว้และรู้ความจริงว่าเขาหาเงินมาด้วยการปล้นธนาคาร แต่เมื่อนางรู้ว่าเขาไม่ได้ค้ายา ไม่ได้ฆ่าคน และไม่ได้ทำให้ใครบาดเจ็บ เพียงแค่ปล้นเงินจากนายธนาคารที่ร่ำรวย นางก็โอเค แถมยังอยากรู้ว่าเขาปล้นธนาคารยังไงอีกด้วย

BANDIT เข้าฉายในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดา วันที่ 23 กันยายน 2022 พร้อมกับปล่อยให้เช่า/ซื้อในรูปแบบ Video On Demand ในวันเดียวกัน