ANTEBELLUM
Gerard Bush • Christopher Renz
(2020)
Antebellum era คือช่วงเวลาตอนปลายของศตวรรษที่ 18 จนถึง สงครามกลางเมืองของอเมริกา (American Civil War) ในปี 1861 เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Antebellum South ซึ่งหมายถึงทางตอนใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีการใช้แรงงานทาสผิวดำเป็นจำนวนมาก สงครามกลางเมืองที่เริ่มต้นมาจากความไม่พอใจระหว่างคนที่ต้องการปลดปล่อยแรงงานทาสผิวดำให้เป็นอิสระ (Abolitionists) และกลุ่มบุคคลที่สนับสนุนการใช้แรงงานทาส (Supporters of slavery)
ภาพยนตร์เปิดตัวมาด้วยภาพ long take ของบ้านที่สวยงามที่อยู่การดูแลของกองทหาร ในช่วงสงครามกลางเมือง มีคนผิวดำทำงานเป็นคนรับใช้ ทำไร่ทำสวนต่างๆ ทาสผิวดำถูกสั่งห้ามไม่ให้สื่อสารพูดคุยกันเอง หรือเอ่ยปากก่อนได้รับคำอนุญาตจากคนผิวขาว
ทาสที่พยายามฝ่าฝืนกฏหรือพยายามที่จะหลบหนี จะโดนทำโทษอย่างรุนแรง และโทษสูงสุดคือการฆ่าทิ้งอย่างไร้ความปราณี
หลายสัปดาห์ต่อมา ได้มีทาสผิวดำกลุ่มใหม่ถูกส่งตัวมาที่แห่งนี้ หนึ่งในนั้นเป็นหญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์ซื่ง Elizabeth (Jena Malone) เจ้าของบ้าน ตั้งชื่อให้เธอว่า Julia (Kiersey Clemons) และสั่งให้ Eden (Janelle Monáe) เป็นผู้จัดการดูแล
Julia พยายามหาทางหลบหนีไปจากที่นี่ แต่ Eden ซึ่งประสบความล้มเหลวจากการพยายามของเธอในครั้งก่อน บอกให้เธออดทนไว้ก่อน กลับทำให้ Julia ไม่พอใจที่ Eden ไม่ยอมช่วยเหลือเธอ
คืนหนึ่ง Eden หลับไปและตื่นขึ้นมาในร่างของ Veronica Henley นักสังคมวิทยาที่มีชื่อเสียงในยุคปัจจุบัน มีสามีชื่อ Nick (Marque Richardson) และลูกสาวที่น่ารักชื่อ Kennedi (London Boyce)
นอกจากฉากที่เหมือน long take ที่งดงามในตอนต้นและตอนท้ายของเรื่องแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คงเรียกได้ว่าค่อนข้างน่าผิดหวัง แม้จะไม่ได้คาดหวังอะไรมากกับภาพยนตร์ที่พยายามใช้คำโปรยหลอกผู้ชมอย่าง “from the producer of Get Out and Us” และตัวอย่างภาพยนตร์ที่เหมือนไซไฟสยองขวัญที่ตัวเอกข้ามเวลากลับไปยุค Antebellum แต่สุดท้ายก็กลายเป็นเพียงแค่ภาพยนตร์ที่พยายามจะเลียนแบบความสำเร็จของ Get Out เท่านั้นเอง
การพยายามปิดข้อมูลบางอย่างในเรื่องก็เป็นสิ่งที่ไม่น่าที่จะนำมาใช้ เช่น การที่ตัวเอกของเรื่องจดจำทุกอย่างได้มาตลอด แต่คนเขียนบทพยายามปกปิดไว้เหมือนกับว่าความทรงจำของเธอหายไปหรือจำเรื่องราวของตัวเองไม่ได้ ซึ่งถ้าความทรงจำของเธอหายไปจริงๆ ก็อาจทำให้เรื่องมันน่าตื่นเต้นและน่าสนใจมากกว่านี้
สิ่งที่ดีที่สุดในเรื่องคือ Janelle Monáe นักร้องนักแสดงมากความสามารถที่เป็นที่รู้จักกันจากภาพยนตร์ Moonlight (2016) และ Hidden Figures (2016) ความจริงเธอมีชื่อเสียงมาจากการเป็นศิลปิน เจ้าของเพลง Tightrope ที่เป็นผลงานสร้างชื่อในปี 2010, Q.U.E.E.N ในปี 2013 และ I Like That ในปี 2018
