ภาพยนตร์ไซไฟแอคชันทริลเลอร์คอมิดีจากเกาหลีใต้ ที่หยิบเอาสิ่งที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ ทั้งยานอวกาศ หุ่นยนต์ การเดินทางข้ามเวลา พีเรียดย้อนยุค พลังเวทมนตร์ ของวิเศษ วิทยายุทธ มาขยำรวมกันจนกลายเป็นเรื่องราวที่บันเทิงมาก
외계+인
ALIENOID
최동훈
Choi Dong-Hoon
(2022)
ตั้งแต่สมัยอดีตกาลนานมาแล้ว มีมนุษย์ต่างดาวเผ่าพันธุ์หนึ่งใช้มนุษย์เป็นคุกกักขังอาชญากรโดยที่ไม่มีมนุษย์คนไหนรู้ความจริงเรื่องนี้ อาชญากรต่างดาวจะถูกทำให้หลับและฝังไว้ในจิตใจของมนุษย์ แต่ก็มีบางครั้งที่จิตของอาชญากรตื่นขึ้นมาและสามารถควบคุมร่างมนุษย์ไปก่อเรื่องชั่วร้าย ซึ่งเป็นหน้าที่ของ 가드 (Guard รับบทโดย 김우빈) หุ่นยนต์ที่ถูกส่งตัวมาเพื่อจัดการกับสถานการณ์และจับตัวอาชญากรที่หลุดออกมากลับเข้าไปขังในคุกอีกครั้ง
Guard ใช้พลังจากหินที่มีพลังพิเศษ เดินทางข้ามเวลาจากปี 2012 กลับไปจับตัวอาชญากรที่หลบหนีข้ามไปปี 1380 จนเป็นเหตุทำให้หญิงสาวมนุษย์ร่างต้นต้องตายไป 썬더 (Thunder) หุ่นยนต์ผู้ช่วยที่สามารถแปลงร่างเป็นคน แอบพาทารกลูกของหญิงสาวกลับมาด้วย Guard จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเลี้ยงดูทารกคนนั้นเหมือนเป็นลูกสาวของเขาเอง
ปี 1391 무록 (Moo-Reuk รับบทโดย 류준열) จอมยุทธล่าค่าหัว ออกตามหามีดสั้นที่มีใบมีดทำจากหินอัญมณีเพื่อเงินรางวัล แต่กลับถูกตัดหน้าโดยคนร้ายในชุดสูท เขาจึงรู้ว่ามีคนอื่นที่ต้องการมีดเล่มนั้นเช่นกัน
ปี 2022 ยานอวกาศปริศนาเดินทางมายังโลกมนุษย์ เพื่อส่งตัวนักโทษซึ่งต้องใช้ร่างมนุษย์ 107 คน ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งนักโทษหมายเลข 107A หัวหน้าของกลุ่มต่อต้านถูกฝังเข้าไปในร่างของ 문도석 (Moon Do-Seok รับบทโดย 소지섭) นายตำรวจนักสืบ
ฝ่ายตัวร้ายก็ส่งหุ่นยนต์มาตามหาตัว Moon Do-Seok เพื่อปลดปล่อยผู้นำออกจากร่าง นอกจากนั้นพวกมันยังมีแผนที่จะปล่อยนักโทษทุกคนที่ถูกกักขังไว้ในร่างมนุษย์อีกด้วย ขณะที่ Guard ดูเหมือนจะเป็นคนเดียวที่จะสามารถต่อสู้กับอาชญากรต่างดาวและหยุดยั้งหายนะครั้งนี้
ผลงานของ 최동훈 (Choi Dong-Hoon) ผู้กำกับชาวเกาหลีใต้ ซึ่งเขาเป็นคนเขียนบทเองด้วย ชอบความกล้าในการผูกบทที่หยิบเอาสิ่งที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ทั้งยานอวกาศต่างดาว หุ่นยนต์ การเดินทางข้ามเวลา พีเรียดย้อนยุค พลังเวทมนตร์ ของวิเศษ วิทยายุทธ มาขยำรวมกัน จนออกมาเป็นภาพยนตร์ไซไฟแอคชันทริลเลอร์คอมิดีที่บันเทิงมาก
การเดินเรื่องช่วงต้นเกือบครึ่งชั่วโมงค่อนข้างยืดไปนิดกับการปูพื้นหลังตัวละครที่เป็นหุ่นยนต์ในปัจจุบันกับตัวละครเด็กสาวมนุษย์โลกที่ถูกพาตัวมาจากอดีต สลับกับเรื่องราวของตัวเอกอีกคนในตอนปลายศตวรรษที่ 13 ของเกาหลี ทำให้ช่วงแรกดูงงเล็กน้อยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น เพราะผู้ชมยังไม่รู้ว่าตัวเอกในยุคอดีตเป็นใคร มาจากไหน และมีส่วนสำคัญกับเนื้อเรื่องอย่างไร
ช่วงกลางถึงท้ายคือสนุกมาก สร้างสรรค์ฉากแอคชันได้น่าตื่นตาตื่นใจ การออกแบบหุ่นยนต์ สิ่งมีชีวิตต่างดาว และยานอวกาศก็ดูมีเอกลักษณ์ นักแสดงสบทบทุกคนเล่นได้ดีเกินคาด โดยเฉพาะ 조우진 กับ 염정아 ในบทคู่รักจอมขมังเวทย์ที่ออกมาแย่งซีนได้อย่างฮาทุกครั้ง กับมุขที่ให้ความรู้สึกเหมือนภาพยนตร์จีนตลกสมัยก่อน
จุดด้อยก็คือมันยังไม่จบ! ต้องรอดูภาคต่อไปที่จะฉายในปี 2023 ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะจบในสองภาค หรือจะยืดออกไปอีกแบบเดียวกับที่ 마녀 (THE WITCH) ทำ
외계+인 (Alien+Human) หรือ ALIENOID เข้าฉายในเกาหลีใต้วันที่ 20 กรกฎาคม 2022 และทำยอดขายบัตรได้มากกว่า 1,500,000 ใบ นับเป็นภาพยนตร์เกาหลีที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 7 ของปีนี้