OTHER MUSIC
Puloma Basu • Rob Hatch-Miller
(2019)
OTHER MUSIC เป็นสารคดีเกี่ยวกับร้านขายแผ่นเสียงชื่อ OTHER MUSIC ซึ่งตั้งอยู่ที่ 15 E 4th St, New York, NY 10003 ก่อตั้งเมื่อปี 1995 โดย Chris Vanderloo, Josh Madell, Jeff Gibson
ตั้งอยู่ตรงข้ามกับร้านขายเพลงยักษ์ใหญ่ในวงการอย่าง Tower Records (ซึ่งในปี 2006 Tower Records ก็ปิดตัวสาขาทั้งหมดหลังจากประกาศล้มละลาย)
ร้าน OTHER MUSIC เป็นร้านขายแผ่นเสียง เทปคาสเซ็ต CD มีความเขี่ยวชาญด้านดนตรีแนวใต้ดิน เพลงที่หาฟังได้ยาก รวมถึงแนวดนตรีทดลองใหม่ๆ ร้านนี้เรียกตัวเองว่า Other Music หมายถึงแนวดนตรีแนวอื่นๆ ซึ่งนอกจากเจ้าของร้านที่มีความรู้เรื่องดนตรีมากมายและมีความรักในเสียงดนตรีแล้ว พนักงานแต่ละคนก็มีความไม่ธรรมดา ความพิเศษอีกอย่างคือจะมีการแนะนำอัลบั้มใหม่ๆ ด้วยการ์ดขนาดเล็กเขียนด้วยลายมือ เป็นรีวิวอัลบั้มโดยพนักงานของร้านเอง ช่วยสร้างความรู้สึกเป็นกันเอง เหมือนอยากแนะนำอัลบั้มที่ดี ให้เพื่อนได้รู้จัก
ทางร้านยังเปิดโอกาสให้วงดนตรีอินดี้มาใช้พื้นที่ของร้าน ด้วยการย้ายชั้นวางแผ่นเสียงไปไว้ด้านข้าง เปิดพื้นที่ตรงกลางให้วงดนตรีมาแสดงผลงาน โดยให้ผู้ที่สนใจเข้าชมฟรี และยังสามารถซื้ออัลบั้มของวงในวันนั้นเลย ซึ่งหลายครั้งก็เป็นการขายก่อนวันที่วางจำหน่ายจริงซะอีก ทางร้านก็มีการบันทึกการแสดงสดเก็บไว้ให้ด้วย กลายเป็นชุมชนขนาดเล็กของผู้ที่รักดนตรีนอกกระแส
นับเป็นเวลากว่า 20 ปีที่ Other Music ร้านขายแผ่นเสียงเล็กๆ ใน NYC ทำหน้าที่เป็นเหมือนศูนย์รวมชุมชมคนรักเสียงดนตรีที่ชื่นชอบการค้นหาสิ่งใหม่ๆ ในวงการดนตรีนอกกระแสหลัก กลุ่มศิลปิน อาทิ Depeche Mode, Vampire Weekend, Animal Collective, Interpol, Mogwai, Cornelius, The National และอื่นๆ อีกมากมาย เป็นลูกค้าประจำของร้านนี้
Other Music ปิดตัวลงอย่างถาวรในวันที่ 25 เดือนมิถุนายน 2016 ด้วยเหตุผลเรื่องค่าเช่าที่ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากและการเปลี่ยนแปลงทิศทางของอุตสาหกรรมดนตรี ที่มุ่งไปทาง digital music streaming
Other Music เป็นสารคดีที่ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ดูแล้วนึกถึงสมัยที่ไปยืนเลือกซื้อ CD อัลบั้มใหม่ๆ ทุกเดือน ได้รู้จักเพลงแปลกๆ จากการได้ยินที่ร้านเปิดซึ่งหลายครั้งก็ได้ซื้อแผ่นที่กำลังเล่นอยู่กลับบ้านโดยไม่ได้ตั้งใจว่าจะมาซื้อ สมัยนี้แทบจะไม่มีอะไรแบบนั้นแล้ว ด้วยอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงและบริการ music streaming จ่ายรายเดือนอย่าง Spotify และ Apple Music ทำให้เราสามารถกดเลือกฟังเพลงไหนตอนไหนก็ได้
แต่บริการเหล่านี้ ก็ยังคงมีช่องว่างอยู่ดี เนื่องจากศิลปินที่เราชอบไม่ได้อยู่บน platform นี้กันทุกคน หรืออัลบั้มที่เราอยากฟังก็ฟังไม่ได้ เนื่องจากติด region restriction ที่บล็อกไม่ให้เราฟัง ถ้าเราไม่ได้พำนักอยู่ในประเทศที่เจ้าของลิขสิทธิ์กำหนดไว้