Green Book
2018 | Peter Farrelly
ภาพยนตร์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของการเดินสาย Tour of the Deep South ของนักเปียโนแอฟริกันอเมริกันประเภทคลาสสิคัลและแจ๊ส Don Shirley (Mahershala Ali) กับ Tony Vallelonga (Viggo Mortensen) ที่เป็นบอดี้การ์ดและคนขับรถของเขา
ชื่อภาพยนตร์มาจากหนังสือ The Negro Motorist Green Book หรือเรียกสั้นๆ ว่า Green Book เป็นหนังสือแนะนำการเดินทางที่จัดทำโดย Victor Hugo Green ตีพิมพ์เป็นรายปี ตั้งแต่ปี 1936 ถึง 1966 ในช่วงที่การกีดกันคนผิวสีและคนที่ไม่ใช่ผิวขาว สามารถทำได้อย่างถูกกฏหมาย หนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมสถานบริการ ร้านอาหาร และโรงแรมที่พักที่ต้อนรับคนผิวสี
Tony Vallelonga ได้รับการว่าจ้างโดย Don Shirley ให้มาเป็นคนขับรถและบอดี้การ์ด เพื่อขับรถไปส่งยังสถานที่ที่ Don Shirley จะแสดงเปียโน เริ่มจาก Midwest ไปจนถึง Deep South โดย Tony ต้องทิ้งลูกเมียไว้ เพื่อเดินสายขับรถเป็นเวลากว่า 2 เดือน
ทั้งสองคนเหมือนจะไม่ถูกกันในตอนแรก Tony รู้สึกไม่พอใจที่ Don บอกให้ทำตัวให้สุภาพมีมารยาทเป็นผู้ดี ส่วน Don ก็ไม่ชอบนิส้ยท่าทางกิริยาของ Tony
แต่เมื่อเดินทางไปเรื่อยๆ Tony ก็ประทับใจในฝีมือการเล่นเปียโนของ Don และรู้สึกแย่กับการเหยียดสีผิว ของคนจ้างและคนผิวขาวอื่นๆ เวลาที่ Don ไม่ได้แสดงอยู่บนเวที
ระหว่างทางก็เต็มไปด้วยบทสนทนากวนๆ แทรกอยู่เป็นระยะ ตลกมากน้อยสลับกันไป เช่น Tony รู้สึกประหลาดใจและไม่เชื่อที่ Don บอกว่าไม่เคยฟังเพลงของนักร้องผิวสีที่โด่งดังไปทั่วโลก บางช่วงก็ดราม่าสุด ต้องชมคนเขียนบทและกำกับที่ทำออกมาได้ลื่นไหลดีจริงๆ แน่นอนว่านักแสดงนำทั้งสองก็เก่งมากด้วย
ชอบฉาก Kentucky Fried Chicken มาก
หลังจากหนังจบก็จะมีภาพถ่ายจริงของ Don Shirley และ Tony Vallelonga พร้อมข้อความว่าหลังจบทัวร์แล้ว Don ก็ยังทำเพลงต่อไป ส่วน Tony ก็กลับไปทำงานที่ Copacabana ทั้งสองคนยังคงเป็นเพื่อนกันจนตายจากกัน โดย Frank “Tony Lip” Vallelonga เสียชีวิตในวันที่ 4 มกราคม 2013 ขณะมีอายุได้ 82 ปี ส่วน Don Shirley เสียชีวิตในวันที่ 6 เมษายน ปีเดียวกัน ขณะมีอายุได้ 86 ปี
Green Book ได้รางวัล Best Picture จาก Academy Awards ปี 2019 ที่เพิ่งประกาศไปเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ได้ Best Original Screenplay และ Mahershala Ali ก็ได้ Best Supporting Actor
เพิ่งอ่านบทสัมภาษณ์ของ Nick Vallelonga ลูกชายของ Tony หนึ่งในโปรดิวเซอร์ และทีมเขียนบท (ร่วมกับ Brian Hayes Currie และ Peter Farrelly) เล่าว่า Don Shirley ยอมให้นำเรื่องราวนี้มาสร้างเป็นภาพยนตร์ได้ หลังจากที่เขาเสียชีวิตแล้วเท่านั้น